Want to read a random Q&A on 412tee

Want to read a random Q&A on 412teens.org?Yes please!

What's This?Q & ABlogStoriesTalk to UsSearch
9
Should I be looking for my future husband or wife or waiting for God to bring that person to me?


Even though it sounds contrary, the answer to both questions is, "Yes." You should both have your eyes open for a future spouse and wait on God to bring that person to you. All right. I know that doesn't make a lot of sense, but hear me out. It's all about balance. You should not frantically search for a future spouse as if everything hinges on your every effort to find that special someone. Neither should we be entirely lazy about it, assuming that God is going to do all the work. It's fairly unlikely that someone will knock on your door one day, it'll be love at first sight, and they'll pull a ring out of their pocket and start reciting the vows. (Convenient, yes, but unlikely!)

When the time came for Isaac to take a wife, action was taken by his parents, which was their cultural norm. They sent a servant to actively find him a wife (Genesis 24). The servant had a list of qualities he had to look for in this woman, and he asked God to lead him to the right person. Outside the city of Nahor, the servant stopped at a well and asked God to show him the woman by letting her give water to his camels (verses 12-14). If only it could be that easy, but it was for this guy! The Lord answered his prayer by bringing Rebekah to him. She gave him water, then watered his camels, and the servant knew she was the one God had provided for Isaac.

What can we learn from this story taken out of the history of God's people? Once we know that it is time to start looking for a spouse*, we should begin with prayer—lots of it. First, commit yourself to follow God’s will for your life. Psalm 37:4 says, "Delight yourself in the LORD and he will give you the desires of your heart." Hold on, though! That doesn't mean that raising your hands in church during worship equals getting straight A's or a Wii or a mate for life.

"Delighting in the Lord" means we truly love knowing God and trust that He will delight us in return. He will put His desires into our hearts for good things. In the case of finding a future husband or wife, you will desire the kind of person He desires for you—someone He knows will delight you even more. Not a bad deal! “In all your ways acknowledge him, and he will make your paths straight" (Proverbs 3:6).

Agreeing to work with God in the search for a spouse means surrendering to His ultimate matchmaking skills. Seriously. He knows every single person on the planet; surely He knows which one is best for you. Then your part becomes to desire whatever He decides is best, which includes accepting His perfect timing. If we pray, God will lead us to the person He has for us. Sometimes (okay, a lot of times), God doesn't seem to work "fast enough" for us. But we can trust that He knows what He's doing (Proverbs 3:5).

Some people like to use a verse in 1 Corinthians 7 to say that no one should be trying to find a spouse. Verse 27 says, “Are you unmarried? Do not look for a wife.” This seems fairly straightforward, but if you read the verses around it, the context, you'll find some more important details about what Paul is saying. Verse 26 says, “Because of the present crisis, I think that it is good for you to remain as you are." What crisis? At the time Paul wrote this letter, the early church was experiencing a terrible time of persecution; Paul said it was better not to make big plans, such as scheduling a wedding, during uncertain days. Persecution hits a married couple harder than a single person, and it is even worse if there are children involved. Paul repeats the sentiment in verse 29: “Those who marry will face many troubles in this life, and I want to spare you this.” In the same context, Paul says, “If you do marry, you have not sinned” (verse 28). So, seeking a marriage partner is not wrong, though Paul advises that if life is uncertain and rocky, it might be best to wait.

Of course, there is no reason to look for a future husband or wife if it is not God’s will for you to be married. Sometimes God calls people not to marry at all (1 Corinthians 7). There are people who “because of the kingdom of heaven” have renounced marriage. Jesus says, “The one who can accept this should accept it” (Matthew 19:12). If you don't have any desire to marry, then don't look! If you do want to marry someday, then do not fear singleness today. If God doesn't have marriage planned for you, He will make it very clear that that is His will.

Remember that whether or not God wants you to marry, the true purpose of your life is live each day for the glory of God. We wake up every morning not for us but for God. The question you might want to focus on should not be so much, "Does God have marriage planned for me?" but rather, "How can I glorify God (regardless of my relationship status)?" God will direct your life in the way that brings the most glory to Him, and in that desire to bring glory to God, may your heart be filled.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต้องอ่านเป็น Q & A ที่สุ่มบน 412teens.org?Yes โปรด นี้คืออะไรQ และ ABlogStoriesTalk ถึง UsSearch 9ควรฉันหาภรรยาหรือสามีในอนาคตของฉัน หรือรอให้พระเจ้านำคนนั้นกับฉันแม้จะฟังดูตรงกันข้าม คำตอบของคำถามทั้งสองคือ "ใช่" ควรทั้งสองได้ดวงตาของคุณเปิดสำหรับคู่สมรสในอนาคต และรอคอยพระเจ้าจะนำให้คุณ ก็ได้ ฉันรู้ว่า ที่ไม่ทำให้จำนวนมากของความรู้สึก แต่ได้ยินฉันออก มันคือการดุล คุณควรไม่เมามันหาคู่สมรสในอนาคตว่าทุกสิ่งทุกอย่างแต่ของคุณนี่หาพิเศษ ไม่ควรเราจะขี้เกียจทั้งหมดเกี่ยวกับมัน สมมติว่า พระเจ้ากำลังจะทำงานทั้งหมด ก็ไม่น่าเป็นธรรมที่บุคคลจะเคาะประตูของคุณวันหนึ่ง ก็จะรักที่ตา และพวกเขาจะดึงแหวนออกมาจากกระเป๋าของพวกเขา และเริ่มต้นการอ่านว่า การ (สะดวก ใช่ แต่น่า)เมื่อเวลามาสำหรับไอแซคจะภรรยา ถูกดำเนินการ โดยพ่อแม่ของเขา ซึ่งเป็นบรรทัดฐานของวัฒนธรรม พวกเขาส่งคนใช้อย่างเมียเขา (ปฐมกาล 24) ข้าราชการที่มีรายการของคุณสมบัติที่เขาต้องค้นหาในผู้หญิงคนนี้ และเขาขอพระเจ้านำเขาไปสู่บุคคล นอกเมือง Nahor หยุดคนรับใช้ที่ดี และถามพระเจ้าเพื่อแสดงพระองค์หญิง โดยให้เธอน้ำให้อูฐของเขา (ข้อ 12-14) ถ้าเดียวอาจว่าง่าย แต่มันก็สำหรับผู้ชายคนนี้ พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเขา โดยนำ Rebekah เขา เธอให้เขาน้ำ แล้วผู้อูฐของเขา และข้าราชการรู้ว่า เธอหนึ่งพระเจ้าได้ให้คเราสามารถเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้นำมาจากประวัติของคนของพระเจ้า เมื่อเรารู้ว่า มันเป็นเวลาที่จะเริ่มมองหาคู่สมรสกับ * เราควรเริ่มต้น ด้วยการอธิษฐาน-ของมัน ครั้งแรก ยอมรับตัวเองเพื่อทำตามพระทัยพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณ สดุดี 37:4 กล่าวว่า "เพลิดเพลินในพระเจ้า และเขาจะให้ความปรารถนาของใจ" เก็บ แม้ว่า ไม่ได้หมายความ ว่า ยกมือในคริสตจักรระหว่างบูชาเท่ากับรับตรง A หรือ Wii หรือเพื่อนชีวิต"Delighting ในพระ" หมายความว่า เรารักพระเจ้าและความเชื่อมั่นว่า เขาจะมีความสุขเรากลับ เขาจะใส่ความปรารถนาของเขาเข้าไปในหัวใจของเราอย่างดี ในกรณีที่ค้นหาในอนาคตสามีหรือภรรยา คุณจะต้องการชนิดของบุคคลที่เขาต้องการให้คุณคือคนเขารู้ว่าจะมีความสุขคุณยิ่ง ไม่มีดีสุด "วิธีของคุณยอมรับเขา และเขาจะทำให้เส้นทางของเส้นตรง" (สุภาษิต 3:6)ภายใต้การทำงานกับพระเจ้าในการค้นหาสำหรับคู่สมรสหมายความว่า surrendering เพื่อทักษะการจับคู่ที่ดีที่สุดของเขา จริง ๆ นะเนี่ย เขารู้ว่าทุกคนเดียวในโลก ก็ เขารู้ใดดีสุดสำหรับคุณ แล้ว ส่วนของคุณจะเอาสิ่งที่เขาตัดสินใจที่ดีสุด ซึ่งรวมถึงยอมรับเวลาที่สมบูรณ์แบบของเขา ถ้าเราสวดมนต์ พระเจ้าจะนำเราไปยังบุคคล ที่เขามีเรา บางครั้ง (ดี จำนวนมากของเวลา), พระเจ้าดูเหมือนงาน "เร็วพอ" แต่เราเชื่อว่า เขารู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ (สุภาษิต 3:5)บางคนต้องการใช้ข้อความใน 1 โครินธ์ 7 จะบอกว่า ไม่ควรพยายามหาคู่สมรส ข้อ 27 กล่าวว่า "มีคุณโสดหรือไม่ ไม่หาภรรยา" นี้ดูเหมือนว่าค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่ถ้าคุณอ่านข้อรอบ ๆ บริบท คุณจะพบบางรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับสิ่งที่ Paul จะบอก ข้อ 26 กล่าวว่า "เนื่องจากวิกฤตปัจจุบัน ผมคิดว่า มันเป็นดีสำหรับคุณให้คุณ" วิกฤตอะไร เมื่อ Paul เขียนจดหมายนี้ คริสตจักรก่อนประสบเวลาน่ากลัวของการเบียดเบียน Paul กล่าวว่า ไม่ควรทำให้แผนการใหญ่ เช่นวางแผนงานแต่งงาน ระหว่างวันไม่แน่นอน เบียดเบียนฮิตผัวยากกว่าคนเดียว และมันจะยิ่งแย่ลงถ้ามีเด็กที่เกี่ยวข้อง Paul ซ้ำความเชื่อมั่นในข้อ 29: "ผู้ที่แต่งงานจะเผชิญปัญหามากมายในชีวิต และฉันต้องการอะไหล่นี้" ในบริบทเดียวกัน Paul กล่าวว่า "ถ้าคุณแต่งงาน คุณคนไม่ทำบาป" (ข้อ 28) ดังนั้น หาคู่ได้ไม่ถูกต้อง ว่า Paul แนะว่า ถ้าชีวิตเป็นหิน และไม่แน่นอน อาจสุดรอแน่นอน ไม่มีเหตุผลที่ต้องมองหาสามีในอนาคต หรือภรรยาจะไม่ได้ของพระเจ้าสำหรับคุณที่จะแต่งงาน บางครั้งพระเจ้าเรียกคนไม่ไปแต่งงานที่ทั้งหมด (1 โครินธ์ 7) มีคนที่ "เพราะอาณาจักรสวรรค์" มี renounced แต่งงาน พระเยซูกล่าวว่า "ผู้ที่ยอมรับนี้ควรยอมรับ" (Matthew 19:12) ถ้าคุณไม่ได้มีความปรารถนาที่จะแต่งงานกับ แล้วไม่มอง ถ้าคุณต้องการแต่งงานสักวันหนึ่ง แล้วไม่กลัว singleness วันนี้ ถ้าพระเจ้าไม่ได้แต่งงานที่วางแผนไว้สำหรับคุณ เขาจะทำให้มันชัดเจนมากว่า เป็นของพระองค์อย่าลืมว่า พระเจ้าต้องการแต่งงาน หรือไม่วัตถุประสงค์แท้จริงของชีวิตว่าชีวิตแต่ละวันของพระเจ้า เราตื่นขึ้นทุกเช้าไม่ใช่ สำหรับเรา แต่ สำหรับพระเจ้า คำถามที่คุณอาจต้องการเน้นควรไม่มาก "พระเจ้ามีไม่แต่งงานที่วางแผนไว้สำหรับฉัน" แต่ค่อนข้าง "วิธีสามารถฉันยกย่องพระเจ้า (โดยไม่คำนึงถึงสถานะความสัมพันธ์ของฉัน) " พระจะตรงชีวิตของคุณในวิธีที่นำเกียรติส่วนใหญ่เขา และในความปรารถนาที่จะให้เกียรติพระเจ้า อาจคุณสามารถกรอกข้อมูล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อยากให้อ่านแบบสุ่ม Q & A ใน 412teens.org?Yes โปรด! นี่คืออะไร? Q & ABlogStoriesTalk เพื่อค้นหาสินค้าในเว็บ9 ฉันควรจะมองหาสามีในอนาคตหรือภรรยาของฉันหรือรอพระเจ้าที่จะนำบุคคลนั้นกับผมหรือเปล่าแม้ว่ามันเสียงตรงกันข้าม คำตอบสำหรับคำถามทั้งสองคือ "ใช่". คุณควรทั้งสองมีดวงตาของคุณเปิดสำหรับคู่สมรสในอนาคตและรอคอยพระเจ้าที่จะนำคนที่อยู่กับคุณ สิทธิ์ทั้งหมด ฉันรู้ว่าไม่ได้ทำให้ความรู้สึกมาก แต่ผมได้ยินออก มันเป็นเรื่องของความสมดุล คุณไม่ควรเมามันค้นหาสำหรับคู่สมรสในอนาคตถ้าทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพยายามของคุณทุกคนจะพบว่าคนพิเศษ ทั้งที่เราควรจะขี้เกียจอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับเรื่องนี้สมมติว่าพระเจ้าจะทำทุกอย่าง มันค่อนข้างน่าที่ใครสักคนจะเคาะประตูของคุณวันหนึ่งมันจะเป็นรักแรกและพวกเขาจะดึงแหวนออกมาจากกระเป๋าของพวกเขาและเริ่มต้นการท่องคำสาบาน (สะดวกใช่ แต่ไม่น่า!) เมื่อเวลานั้นมาถึงไอแซกที่จะหาภรรยาให้การดำเนินการถูกยึดครองโดยพ่อแม่ของเขาซึ่งเป็นบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมของพวกเขา พวกเขาส่งคนรับใช้อย่างแข็งขันหาเขาภรรยา (ปฐมกาล 24) คนรับใช้ที่มีรายชื่อของคุณภาพที่เขาจะต้องมองหาผู้หญิงคนนี้และเขาถามพระเจ้าที่จะนำเขาไปสู่คนที่เหมาะสม นอกเมืองของนาโฮร์ข้าราชการหยุดที่ดีและขอให้พระเจ้าที่จะแสดงให้เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งโดยการให้น้ำให้เธอไปอูฐของเขา (ข้อ 12-14) ถ้าเพียง แต่มันอาจเป็นไปได้ว่าง่าย แต่มันเป็นสำหรับผู้ชายคนนี้! พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเขาโดยนำเรเบคาห์กับเขา เธอให้น้ำเขาแล้วรดน้ำอูฐของเขาและคนรับใช้รู้ว่าเธอเป็นคนที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้ไอแซค. สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากเรื่องนี้นำออกมาจากประวัติศาสตร์ของคนของพระเจ้า? เมื่อเรารู้ว่ามันเป็นเวลาที่จะเริ่มมองหาคู่สมรส * เราควรเริ่มต้นด้วยการสวดมนต์จำนวนมากของมัน ครั้งแรกที่กระทำตัวเองเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณ สดุดี 37: 4 กล่าวว่า "ความสุขตัวเองในเยโฮวาห์และเขาจะทำให้คุณมีความปรารถนาของหัวใจของคุณ." ยึดมั่นใน แต่! นั่นไม่ได้หมายความว่าการเพิ่มมือของคุณในคริสตจักรในระหว่างการบูชาเท่ากับได้รับตรงหรือ Wii หรือคู่สำหรับชีวิต. "Delighting ในพระเจ้า" หมายความว่าเราอย่างแท้จริงรักรู้จักพระเจ้าและความไว้วางใจที่เขาจะมีความสุขกับเราในการกลับมา เขาจะทำให้ความปรารถนาของเขาเข้าไปในหัวใจของเราสำหรับสิ่งที่ดี ในกรณีของการหาสามีในอนาคตหรือภรรยาคุณจะต้องการชนิดของบุคคลที่เขาปรารถนาสำหรับคุณคนที่เขารู้ว่าคุณจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ดี! "ในรูปแบบของคุณทุกคนยอมรับเขาและเขาจะทำให้เส้นทางของคุณตรง" (สุภาษิต 3: 6). เห็นพ้องที่จะทำงานกับพระเจ้าในการค้นหาสำหรับคู่สมรสหมายถึงการยอมจำนนต่อทักษะการจับคู่ที่ดีที่สุดของเขาอย่างจริงจังเขารู้ว่าทุกคนเดียวบน.. ดาวเคราะห์. แน่นอนเขารู้ว่าเป็นที่หนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้วคุณจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องการสิ่งที่เขาตัดสินใจที่ดีที่สุดซึ่งรวมถึงการยอมรับเวลาที่สมบูรณ์แบบของเขาถ้าเราอธิษฐานขอพระเจ้าจะนำเราไปสู่คนที่เขามีให้เราบางครั้ง (.. โอเคมากครั้ง) พระเจ้าไม่ได้ดูเหมือนจะทำงาน "เร็วพอ" สำหรับเรา แต่เราสามารถวางใจได้ว่าเขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำ (สุภาษิต 3:.. 5) บางคนชอบที่จะใช้บทกวีใน 1 โครินธ์ 7 ที่จะบอกว่าไม่มีใครควรจะพยายามที่จะหาคู่สมรส. ข้อ 27 กล่าวว่า "คุณยังไม่ได้แต่งงานหรือไม่ไม่มองหาภรรยา." นี้ดูเหมือนว่าตรงไปตรงมาเป็นธรรม แต่ถ้าคุณอ่านบทรอบบริบทคุณจะ พบบางรายละเอียดที่สำคัญมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พอจะพูด. ข้อ 26 กล่าวว่า "เนื่องจากวิกฤตปัจจุบันผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณที่จะยังคงอยู่ที่คุณมี." วิกฤติอะไร? ในขณะที่เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ที่คริสตจักรต้นกำลังประสบเวลาที่น่ากลัวของการประหัตประหาร; พอลกล่าวว่าก็ยังดีกว่าที่จะไม่ทำให้แผนการที่ยิ่งใหญ่เช่นการจัดตารางการจัดงานแต่งงานในช่วงวันที่มีความไม่แน่นอน ประหัตประหารฮิตคู่แต่งงานหนักกว่าคนเพียงคนเดียวและมันจะเลวร้ายยิ่งถ้ามีเด็กที่เกี่ยวข้อง พอลซ้ำความเชื่อมั่นในข้อที่ 29: ". บรรดาผู้ที่แต่งงานจะต้องเผชิญกับปัญหามากมายในชีวิตนี้และฉันต้องการที่จะสำรองไว้ให้คุณนี้" ในบริบทเดียวกันพอลกล่าวว่า "ถ้าคุณไม่แต่งงานก็ไม่มีความผิด" (ข้อ 28) ดังนั้นที่กำลังมองหาคนที่แต่งงานไม่ผิด แต่พอลแนะนำว่าถ้าชีวิตคือความไม่แน่นอนและหินมันอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะรอ. แน่นอนมีเหตุผลที่จะมองหาสามีในอนาคตหรือภรรยาไม่ถ้าไม่ได้เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับ คุณจะแต่งงาน บางครั้งพระเจ้าทรงเรียกคนที่จะไม่แต่งงานเลย (1 โครินธ์ 7) มีหลายคนที่ "เพราะของอาณาจักรแห่งสวรรค์" ได้ละทิ้งการแต่งงานเป็น พระเยซูกล่าวว่า "คนที่สามารถยอมรับเรื่องนี้ควรจะยอมรับมัน" (มัทธิว 19:12) หากคุณไม่ได้มีความปรารถนาที่จะแต่งงานกับใด ๆ แล้วไม่ได้ดู! หากคุณไม่ต้องการที่จะแต่งงานสักวันหนึ่งแล้วไม่กลัวโดดเดี่ยวในวันนี้ ถ้าพระเจ้าไม่ได้มีการวางแผนการแต่งงานสำหรับคุณเขาจะทำให้มันชัดเจนมากว่าที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์. โปรดจำไว้ว่าหรือไม่ว่าพระเจ้าต้องการให้คุณแต่งงานกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของชีวิตของคุณจะมีชีวิตอยู่ในแต่ละวันสำหรับพระสิริของพระเจ้า เราตื่นขึ้นมาทุกเช้าไม่ได้สำหรับเรา แต่สำหรับพระเจ้า คำถามที่คุณอาจต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่ไม่ควรจะเป็นอย่างมาก "พระเจ้าไม่ได้มีการวางแผนการแต่งงานสำหรับฉัน" แต่ "ฉันจะสรรเสริญพระเจ้า (ไม่คำนึงถึงสถานะความสัมพันธ์ของฉัน)" พระเจ้าจะนำชีวิตของคุณในทางที่จะนำความรุ่งเรืองมากที่สุดเพื่อพระองค์และในความปรารถนาที่จะนำพระเกียรติแด่พระเจ้าที่หัวใจของคุณอาจจะเต็ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อยากอ่านแบบสุ่มถาม&ใน 412teens.org ? ใช่ได้โปรด !

นี่มันอะไร ? Q & ablogstoriestalk เพื่อ ussearch
9
ฉันควรจะมองหาสามีในอนาคตของฉัน หรือ ภรรยา หรือรอให้พระเจ้าที่จะนำคนๆ นั้นกับฉัน


ถึงแม้จะฟังดูขัด ตอบทั้งสองคำถามคือ " ใช่ " คุณทั้งสองควรมีตาของคุณเปิดสำหรับคู่สมรสในอนาคตและรอคอยพระเจ้านำคนๆ นั้นกับคุณ เอาล่ะฉันรู้ว่ามันไม่ได้ทำให้รู้สึกมาก แต่ฟังผมนะ มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับความสมดุล คุณไม่ควรเมามันค้นหาคู่สมรสในอนาคตถ้าทุกอย่างขึ้นอยู่กับของคุณทุกความพยายามที่จะพบว่าคนพิเศษ หรือเราควรจะทั้งหมด ขี้เกียจแล้ว สมมติว่า พระเจ้ากำลังทำงานทั้งหมด มันค่อนข้างยากที่ใครจะมาเคาะประตู วันนึงมันเป็นรักแรกพบ และจะดึงแหวนออกมาจากกระเป๋าของพวกเขาและเริ่มต้นท่องคำปฏิญาณ ( สะดวก ครับ แต่ไม่น่า ! )

เมื่อเวลามาถึง ไอแซคจะพาภรรยา การกระทําโดยพ่อแม่ของเขาซึ่งเป็นบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมของพวกเขา เขาส่งคนรับใช้ไปอย่างแข็งขันหาภรรยา ( 24 เจเนซิส ) ผู้รับใช้มีรายชื่อคุณภาพเขาต้องมองหาผู้หญิงคนนี้และเขาถามพระเจ้าที่จะนำเขาไปถูกคน นอกเมืองนาโฮร์ คนใช้ก็หยุดที่ดี และขอให้พระเจ้าที่จะแสดงให้เขาเห็นผู้หญิง โดยปล่อยให้เธอเอาน้ำให้อูฐของเขา ( ข้อ 12-14 ) ถ้าเพียง แต่มันอาจจะง่าย แต่มันเป็นผู้ชาย ! พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเขา โดยเอารีเบคก้าให้เขา เธอให้เค้าดื่มน้ำแล้วรดอูฐของเขาแล้วคนใช้ก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่พระเจ้าทรงให้ไอแซค .

สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากเรื่องราวนี้มาจากประวัติศาสตร์ของชนชาติของพระเจ้า ? เมื่อเรารู้ว่ามันเป็นเวลาที่จะเริ่มมองหาคู่สมรส * เราควรจะเริ่มต้นด้วยคำอธิษฐานมากมาย ครั้งแรก ยอมรับตัวเองเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณ สดุดี 37 : 4 กล่าวว่า " พอใจตัวเองในพระเจ้าและเขาจะให้ความปรารถนาของหัวใจของคุณ" เดี๋ยวก่อนนะ ! ซึ่งไม่ได้หมายความ ว่า เพิ่มมือของคุณในโบสถ์ในระหว่างนมัสการเท่ากับได้รับตรงหรือ Wii หรือเพื่อนสำหรับชีวิต

" delighting ในพระเจ้า " เราหมายถึงความรักที่แท้จริงของพระเจ้ารู้และเชื่อมั่นว่า เขาจะพอใจเราเป็นการตอบแทน เขาจะทำให้ความปรารถนาของเขาเข้าไปในหัวใจของเราสำหรับสิ่งที่ดี ในกรณีของการหาสามีหรือภรรยา