ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือมือถือเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันในทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งนักเรียนระดับอนุบาลจนถึงคุึณตาคุณยายเลยทีเดียว งั้นเรามาดูข้อดีข้อเสียกันหน่อย
ข้อดี1) ใช้สื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลา ได้ทุกสถานที่และรวดเร็ว
2) โทรศัพท์มือถือสามารถทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น สื่อสาร ส่งข้อความ ถ่ายรูป ฟังเพลงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ฯลฯ
ข้อเสีย
หากผู้ใช้นำไปใช้ในทางที่ผิดหรือใช้ไม่เป็นทำให้เกิดโรคใหม่ๆ ตามมาหลายโรค โดยโรคที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่มีผลกระทบในเชิงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตคนไทย ได้แก่
1) โรคเห่อตามแฟชั่น ที่ต้องเปลี่ยนไปตามรุ่นต่างๆ
2) โรคทรัพย์จาง เพราะต้องหาเงินมาซื้อรุ่นใหม่ บางคนถึงขั้นกู้หนี้ยืมสิน
3) โรคขาดความอดทนและใจร้อน
เนื่องจากคุณสมบัติของโทรศัพท์มือถือกดปุ๊บต้องติดปั๊บ ทำให้คนกลายเป็นคนไม่มีความอดทน แม้แต่เรื่องเล็กๆ เช่น นัดเพื่อนไว้ถ้าช้าแค่ 5 นาที ก็ต้องโทรตามหลายครั้ง จึงกลายเป็นคนเร่งรีบ ร้อนรน และไม่รอบคอบ
4) โรคขาดกาลเทศะและไร้มารยาท
ซึ่งการโทรศัพท์ไปหาบุคคลที่เราอยากจะพูดทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นประชุม นอน รับประทานอาหาร หรือวันหยุดพักผ่อนโดยไม่ดูเวลาหรือกาลเทศะที่ควรโทร บางคนโทรขายประกัน ขายเครื่องกรองน้ำ ชวนสมัครบัตรเครดิตต่างๆ ที่ไม่รู้จักกัน ทำให้ผู้รับสายเกิดความรำคาญใจ
5) โรคขาดมนุษยสัมพันธ์
คนส่วนใหญ่จะใช้มือถือพูดคุยกันกับญาติสนิท ขาดความใส่ใจที่จะสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น หลบมุมโทรไปคุยกับเพื่อน/แฟนแทนที่จะคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองหรือทำกิจกรรม ทำให้ความสัมพันธ์ในบ้านห่างเหิน ซึ่งจะเกิดอาการเฉาหรือเหงาหงอย กลายเป็นคนแยกตัวออกจากสังคมมีโลกของตัวเองและเป็นโรคติดโทรศัพท์ในที่สุด
6) โรคไม่จริงใจ
เนื่องจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ไม่ต้องเห็นหน้าตา ท่าทาง สายตาและปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ทำให้หลายคนสามารถใช้คำหวานหลอกลวง หรือพูดโกหกผู้อื่นหรือนิยมส่ง SMS ไปยังอีกฝ่าย ทำเสมือนรักใคร่ ผูกพันหรือห่วงใ