Circadian rhythms refer to patterni

Circadian rhythms refer to patterning of biological rhythms, including
sleep and wake periods, that occur across a 24-hour cycle [33]. Circadian
rhythms work with sleep homeostasis to maintain discrete periods of
alertness and sleepiness. The two-process model proposed by Borbely
describes how the homeostatic (S process) and the circadian process (C
process) work in conjunction (Figure 2.5) [34]. Sleep homeostasis refers
to the pressure to sleep that accumulates as the duration of wakefulness
increases. For example, the homeostatic drive to sleep decreases as the
sleep need is met.
Circadian regulation of sleep is not influenced by the amount of preceding
sleep, but rather is controlled by an endogenous biological clock
located in the suprachiasmatic nucleus (SCN) of the hypothalamus (Figure
2.6) [35,36]. These rhythms typically run longer than 24 hours but they
become synchronized to the 24-hour clock via environmental cues (eg,
the light–dark cycle). Sunlight is the strongest ‘zeitgeber,’ or influence,
on the timing of sleep and wake. For example, sunlight impacts sleep
and wakefulness through its impact on the secretion of melatonin, a
hormone which promotes sleep [37]. This is due to sunlight transmitted
through the retina along the optic nerve to the SCN in the hypothalamus,
which regulates melatonin, body temperature, and other functions that
contribute to sleep. Specifically, the pineal gland of the SCN produces
melatonin at night

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จังหวะ circadian
หมายถึงการเลียนแบบของจังหวะชีวภาพรวมทั้งการนอนหลับและระยะเวลาตื่นที่เกิดขึ้นระหว่างวงจรตลอด24 ชั่วโมง [33] circadian
จังหวะทำงานกับสภาวะสมดุลการนอนหลับระยะเวลาในการรักษาไม่ต่อเนื่องของการตื่นตัวและง่วงนอน
รูปแบบที่สองกระบวนการที่เสนอโดย Borbely
อธิบายวิธีการ homeostatic (กระบวนการ S) และขั้นตอนการ circadian (C
กระบวนการ) ทำงานร่วม (รูปที่ 2.5) [34] การนอนหลับสภาวะสมดุลหมายถึงความดันเพื่อการนอนหลับที่สะสมเป็นระยะเวลาของการตื่นตัวเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่นไดรฟ์ homeostatic จะนอนหลับลดลงในขณะที่ความต้องการการนอนหลับจะพบ. ระเบียบเป็นกลางของการนอนหลับไม่ได้รับอิทธิพลจากปริมาณของก่อนหน้านี้การนอนหลับแต่ถูกควบคุมโดยนาฬิกาชีวภาพภายนอกอยู่ในนิวเคลียสsuprachiasmatic (SCN) ของมลรัฐ (รูปที่2.6) [35,36] จังหวะเหล่านี้มักจะทำงานได้นานกว่า 24 ชั่วโมง แต่พวกเขากลายเป็นตรงกับนาฬิกาตลอด24 ชั่วโมงผ่านทางตัวชี้นำสิ่งแวดล้อม (เช่นวงจรแสงเข้ม) แสงแดดเป็นที่แข็งแกร่ง 'ไซท์เกเบอร์' หรืออิทธิพลกับระยะเวลาของการนอนหลับและตื่น ตัวอย่างเช่นผลกระทบแสงแดดนอนหลับและความตื่นตัวผ่านผลกระทบต่อการหลั่งของเมลาโทนิเป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมการนอนหลับ[37] นี่คือสาเหตุที่แสงแดดส่งผ่านจอประสาทตาตามแนวเส้นประสาทตากับ SCN ในมลรัฐที่ที่ควบคุมเมลาโทนิอุณหภูมิของร่างกายและฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยในการนอนหลับ โดยเฉพาะต่อมไพเนียของ SCN ผลิตเมลาโทนิในเวลากลางคืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จังหวะรอบวัน อ้างเลียนแบบของจังหวะทางชีวภาพ รวมทั้ง
นอนและระยะเวลาปลุก , ที่เกิดขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมง [ 33 ] เป็นกลาง
จังหวะทำงานกับนอน homeostasis เพื่อรักษาต่อเนื่องช่วง
ความตื่นตัวและ sleepiness . สองแบบที่เสนอโดย borbely
อธิบายวิธี homeostatic ( กระบวนการ ) และกระบวนการที่เป็นกลาง ( c
กระบวนการ ) ทำงานร่วมกับ ( รูปที่ 2 ) [ 34 ]นอนสมดุลหมายถึง
กับความดันที่นอนที่สะสมตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นการตื่น

เช่น ขับรถ homeostatic นอนลดลงเมื่อนอนต้องเจอ
.
เป็นกลางระเบียบนอนไม่มีอิทธิพลต่อปริมาณก่อนหน้านี้
นอน แต่จะถูกควบคุมโดย
นาฬิกาชีวภาพภายในตั้งอยู่ในนิวเคลียส suprachiasmatic ( SCN ) ของ hypothalamus ( รูป
2.6 ) [ 35,36 ] จังหวะเหล่านี้มักจะทำงานนานกว่า 24 ชั่วโมงแต่พวกเขา
จะตรงกับนาฬิกา 24 ชั่วโมงผ่านคิวสิ่งแวดล้อม ( เช่น แสงมืด
( วงจร ) แสงแดดที่แข็งแกร่งที่สุด ' ไซท์เกเบอร์ " หรืออิทธิพล
บนเวลาของการนอนหลับและตื่น ตัวอย่างเช่น แสงแดดกระทบนอน
และความตื่นตัวผ่านผลกระทบต่อการหลั่งเมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมการนอนหลับ
[ 37 ] เนื่องจากมีแสงแดดส่ง
ผ่านจอตาประสาทตาไปตามระบบใน hypothalamus
ซึ่งควบคุมเมลาโทนิ , อุณหภูมิของร่างกาย และหน้าที่อื่น ๆที่
ช่วยให้หลับ โดยเฉพาะต่อมของ SCN ผลิต
เมลาโทนินในตอนกลางคืน