Despite the recent developments in

Despite the recent developments in team cognition, and more specifically in TMM
literature, there are still many unanswered questions. Several authors concluded that
the influence of TMMs on team outcomes is mediated by team processes, namely
communication (Marks et al., 2000), coordination (Minionis et al., 1995), and backup
behaviours (Marks et al., 2002). Thus far, researchers have only analysed the mediating
mechanism of functional team processes, such as communication, coordination, and
co-operation, which help team members to improve their work and the interaction
among members. However, apart from functional processes, dysfunctional processes
may occur during team lifecycle, such as team conflict. As an emergent state, TMM
takes time to develop and can change over time, depending on how members
collectively interact (Cronin et al., 2011). The existence of dysfunctional team processes,
for instance relationship conflict, during team task episodes may constrain both TMM
evolution and its impact on team effectiveness (De Dreu and Weingart, 2003; de Wit
et al., 2012; Jehn, 1995). Empirical research has systematically demonstrated that
relationship conflict has detrimental effects on team satisfaction and performance
(e.g. De Dreu and Weingart, 2003; de Wit et al., 2012; Lau and Cobb, 2010). However, no
empirical research analysed if TMM-similarity diminishes team relationship conflict,
and leads to high levels of effectiveness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้จะมีการพัฒนาล่าสุดในความรู้ความเข้าใจทีมงานและอื่น ๆ โดยเฉพาะใน TMM
วรรณกรรมยังคงมีหลายคำถามที่ยังไม่ นักเขียนหลายคนสรุปได้ว่า
อิทธิพลของ TMMs ต่อผลลัพธ์ของทีมเป็นผู้ไกล่เกลี่ยโดยกระบวนการทีมคือ
การสื่อสาร (Marks et al., 2000) การประสานงาน (Minionis et al., 1995) และการสำรองข้อมูล
พฤติกรรม (Marks et al., 2002) ป่านนี้นักวิจัยได้วิเคราะห์เพียง mediating
กลไกของกระบวนการทีมการทำงานเช่นการสื่อสารการประสานงานและ
ความร่วมมือที่ช่วยให้สมาชิกในทีมเพื่อปรับปรุงการทำงานและการมีปฏิสัมพันธ์ของพวกเขา
ในหมู่สมาชิก อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากกระบวนการทำงานกระบวนการที่ผิดปกติ
อาจเกิดขึ้นในช่วงวงจรชีวิตของทีมเช่นความขัดแย้งทางทีมงาน ในฐานะที่เป็นรัฐฉุกเฉิน TMM
ใช้เวลาในการพัฒนาและสามารถเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาขึ้นอยู่กับว่าสมาชิก
รวมโต้ตอบ (โครนิน et al., 2011) การดำรงอยู่ของกระบวนการทีมงานที่ผิดปกติ
สำหรับความขัดแย้งความสัมพันธ์เช่นในช่วงตอนงานทีมอาจ จำกัด ทั้ง TMM
วิวัฒนาการและผลกระทบต่อประสิทธิผลของทีมงาน (De Dreu และ Weingart 2003; เดวิทย์
et al., 2012; Jehn, 1995) การวิจัยเชิงประจักษ์ได้แสดงให้เห็นอย่างเป็นระบบที่
มีความขัดแย้งทางความสัมพันธ์ที่มีผลอันตรายความพึงพอใจในทีมและประสิทธิภาพการทำงาน
(เช่น De Dreu และ Weingart 2003; เดวิทย์และคณะ, 2012;. Lau และ Cobb, 2010) อย่างไรก็ตามยังไม่มีการ
วิจัยเชิงประจักษ์วิเคราะห์ถ้า TMM-คล้ายคลึงกันลดความขัดแย้งความสัมพันธ์ในทีม
และนำไปสู่ระดับสูงของประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ล่าสุดในการพัฒนาทีมงานรับรู้และมากขึ้นโดยเฉพาะในวรรณคดี TMM
, ยังคงมีคำถามมากมาย หลายผู้เขียนสรุปได้ว่าอิทธิพลของ tmms
ผลทีม ) โดยกระบวนการทีมคือ
การสื่อสาร ( เครื่องหมาย et al . , 2000 ) , ประสานงาน ( minionis et al . , 1995 ) และพฤติกรรมสำรอง
( เครื่องหมาย et al . , 2002 ) ป่านนี้นักวิจัยได้วิเคราะห์กลไกของกระบวนการไกล่เกลี่ย
ทีมการทำงาน เช่น การสื่อสาร การประสานงาน ความร่วมมือและ
ซึ่งช่วยให้สมาชิกในทีมเพื่อปรับปรุงการทำงานของพวกเขาและปฏิสัมพันธ์
ในหมู่สมาชิก อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากกระบวนการทํางานผิดปกติอาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการ
ทีมวงจร เช่น ความขัดแย้งของทีม เป็นรัฐฉุกเฉิน TMM
,ต้องใช้เวลาในการพัฒนาและสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าสมาชิก
รวมโต้ตอบ ( โครนิน et al . , 2011 ) การดำรงอยู่ของกระบวนการทีมผิดปกติ
สำหรับความขัดแย้งในความสัมพันธ์ เช่น ระหว่างทีมเอพอาจฝืนทั้ง TMM
วิวัฒนาการและผลกระทบต่อประสิทธิผลของทีม ( เดอ dreu และ weingart , 2003 ; เดอปัญญา
et al . , 2012 ; jehn , 1995 )การวิจัยเชิงประจักษ์ได้อย่างเป็นระบบ แสดงให้เห็นว่า
ความขัดแย้งในความสัมพันธ์ได้มีผลกระทบต่อทีมและประสิทธิภาพ
( เช่นเดอและ dreu weingart , 2003 ; เดอปัญญา et al . , 2012 ; เลา และคอบบ์ , 2010 ) อย่างไรก็ตาม ไม่วิเคราะห์ ถ้าแข็ง
การวิจัยเชิงประจักษ์ความเหมือนลดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ของทีม
และนำไปสู่ระดับสูงของประสิทธิผล .