Seeing impermanent things as perman

Seeing impermanent things as permanent,
Seeing things which bring sufferings as things brings happiness, Seeing things which are not self as self,
Seeing things which are unwholesome as wholesome,
People who have absurd views of this reality live with agitated minds. It is like seized by the ‘Klesha’(Craving, Hate, Ignorance) of death.Like this, living beings go along this never ending ‘Samsara’ (cycle of reincarnation) as unable to see the true nature of things. When Lord Buddha is appeared and start preaching of the right view, wise ones begin to have the right view and able to end all sufferings in “Nibbana”.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เห็นสิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นถาวร
เห็นสิ่งที่นำมาซึ่งความทุกข์เป็นสิ่งที่นำความสุข, เห็นสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นตัวเอง
ได้เห็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นสุทธ์
คนที่มีมุมมองที่ไร้สาระของความเป็นจริงนี้อยู่กับจิตใจไม่สบายใจ มันก็เหมือนยึดโดย 'Klesha' (อยากเกลียด, ไม่รู้) ของ death.Like นี้สิ่งมีชีวิตไปพร้อมนี้ไม่สิ้นสุด 'Samsara' (รอบของการเกิดใหม่) ในขณะที่ไม่สามารถมองเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งที่ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปรากฏตัวขึ้นและเริ่มเทศน์ของมุมมองที่ถูกต้องคนที่ฉลาดจะเริ่มต้นที่จะมีมุมมองที่ถูกต้องและสามารถที่จะยุติความทุกข์ทั้งหมดใน "นิพพาน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เห็นสิ่งไม่เที่ยงเป็นถาวร เห็นสิ่งที่จะนำความทุกข์เป็นสิ่งที่นำความสุขมาให้ เห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตนเองว่าตนเอง
เห็นสิ่งที่แสลงเป็น wholesome
คนที่มีมุมมองที่ไร้สาระของความเป็นจริงนี้อยู่กับรัญจวนใจ มันก็เหมือนยึด โดย ' ' ( klesha ความอยาก ความเกลียด ความเขลา ) ตาย แบบนี้สิ่งมีชีวิต ไปตามนี้ไม่เคยสิ้นสุดสังสารวัฏ ' ' ( วงจรของการเกิดใหม่ ) ไม่สามารถที่จะเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ เมื่อพระพุทธเจ้าจะปรากฏขึ้นและเริ่มการเทศน์ของสัมมาทิฐิ ปัญญาที่เริ่มมีมุมมองที่เหมาะสมและสามารถที่จะยุติความทุกข์ใน " นิพพาน " .