HeadnoteSouth Korea is one of the w

Headnote
South Korea is one of the world's most rapidly industrializing countries. Along with industrialization has come universal health insurance. Within the span of 12 years, South Korea went from private voluntary health insurance to government-mandated universal coverage.

Since 1997, with the intervention of the International Monetary Fund, Korean national health insurance (NHI) has experienced deficits and disruption. However, there are lessons to be drawn for the United States from the Korean NHI experience. (Am J Public Health. 2003;93:48-51)

SOUTH KOREA ACHIEVED universal health insurance in 12 years. This remarkable achievement started modestly in 1977 when the government mandated medical insurance for employees and their dependents in large firms with more than 500 employees. In 1989, national health insurance (NHI) was extended to the whole nation. Most Western analysts were surprised. Many predicted Korean NHI would falter financially, but trends in financial receipts and disbursements from 1990 to 1995 showed no sign of financial instability. Everything went smoothly in both administration and financing in the first half of the 1990s. However, with the advent of the economic crisis of 1997 throughout southeast Asia, Korean NHI began to run a financial deficit. At the end of 1997, despite some Korean resistance, the International Monetary Fund (IMF) intervened in Korean financial affairs, causing a dramatic increase in the NHI's deficit, which then grew each year until 2002.

When the government announced that NHI would separate reimbursement for pharmaceuticals from medical care in July of 2000, Westernized medical practitioners closed their clinics and refused to treat patients. This policy of separating reimbursement for pharmaceuticals from medical care is regarded as the most significant factor in disrupting the financial structure of Korean NHI.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Headnoteเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศ industrializing เร็วที่สุดในโลก พร้อมกับทวีความรุนแรงมากได้มาประกันสุขภาพสากล ภายในระยะ 12 ปี เกาหลีใต้ไปจากประกันสุขภาพส่วนตัวที่สมัครใจบังคับรัฐบาลครอบคลุมสากลตั้งแต่ปี 1997 กับการแทรกแซงของนานาชาติเงินกองทุน เกาหลีชาติประกันสุขภาพ (นีนี่) มีประสบการณ์ขาดดุลการคลังและทรัพย อย่างไรก็ตาม มีบทเรียนที่จะใช้ในสหรัฐอเมริกาจากประสบการณ์นีนี่เกาหลี (Am J 2003 สาธารณสุข 93:48-51)เกาหลีใต้ได้สากลประกัน 12 ปี ความสำเร็จที่โดดเด่นนี้เริ่มต้นทั้งใน 1977 เมื่อรัฐบาลบังคับประกันสุขภาพสำหรับพนักงานและผู้อยู่ในอุปการะของตนในบริษัทขนาดใหญ่มีพนักงานมากกว่า 500 ในปี 1989 ประกันสุขภาพแห่งชาติ (นีนี่) ถูกขยายไปทั้งประเทศ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ตะวันตกประหลาดใจได้ หลายคนคาดการณ์นีนี่เกาหลีจะโลกใหม่ทางการเงิน แต่แนวโน้มในการรับเงินและเบิกจากปี 1990 ถึง 1995 พบว่าไม่มีสัญญาณของความไม่มีเสถียรภาพทางการเงิน ทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่นในการบริหารและการเงินในครึ่งแรกของปี 1990 อย่างไรก็ตาม มายวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นีนี่เกาหลีเริ่มขาดดุลทางการเงิน เมื่อสิ้นสุดปี 1997 แม้มีความต้านทานบางอย่างเกาหลี อินเตอร์เนชั่นแนลเงินกองทุน (IMF) เข้าแทรกแซงในกิจการเงินเกาหลี ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างมากของนีนี่ติด ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปีจนถึง 2002 แล้วเมื่อรัฐบาลประกาศว่า นีนี่จะแบ่งค่าชดเชยสำหรับยาจากแพทย์ในเดือน 2543 กรกฎาคม Westernized แพทย์ผู้ปิดคลินิกของพวกเขา และปฏิเสธที่จะรักษาผู้ป่วย นโยบายการจ่ายเงินคืนสำหรับยาจากแพทย์นี้ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในโครงสร้างทางการเงินของนีนี่เกาหลีควบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

headnote
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งของโลกที่เร็วที่สุดอุตสาหกรรมประเทศ พร้อมกับอุตสาหกรรมมา ประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในช่วง 12 ปี เกาหลีใต้ ไปจากการประกันสุขภาพโดยสมัครใจ ส่วนรัฐบาล mandated ถ้วนหน้า

ตั้งแต่ปี 1997 ด้วยการแทรกแซงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศประกันสุขภาพแห่งชาติเกาหลี ( นี ) และมีประสบการณ์การหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม ยังมีบทเรียนให้วาดในสหรัฐอเมริกา จากประสบการณ์ นี เกาหลี ( ฉันเจ สาธารณสุข 2003 ; 93:48-51 )

เกาหลีความสากลประกันสุขภาพใน 12 ปีผลสัมฤทธิ์ที่โดดเด่นนี้เริ่มดีขึ้นในปี 1977 เมื่อรัฐบาลบังคับประกันสุขภาพสำหรับพนักงานของพวกเขาและเซลล์ที่อ้างถึง ใน บริษัท ขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 500 คน ในปี 1989 , ประกันสุขภาพแห่งชาติ ( นี ) คือขยายไปทั้งประเทศ นักวิเคราะห์ตะวันตกส่วนใหญ่ประหลาดใจ คาดการณ์ไว้มาก นีเกาหลีจะพูดไม่คล่องทางการเงินแต่แนวโน้มในใบเสร็จทางการเงินและรายจ่ายจาก 2533 ถึง 2538 พบว่าไม่มีสัญญาณของความไม่มั่นคงทางการเงิน ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งในการบริหารและการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี อย่างไรก็ตาม กับการมาถึงของวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ , เกาหลี นีเริ่มวิ่งขาดดุลทางการเงิน ที่ส่วนท้ายของปี 2540 แม้จะมีบางส่วนที่เกาหลี ความต้านทานกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) เข้าแทรกแซงในเกาหลี กิจการ ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างมากในการขาดของ นี ซึ่งเติบโตในแต่ละปี จนปี 2545

เมื่อรัฐบาลประกาศว่า นีจะแยกตั้งเบิกยาจากแพทย์ในเดือนกรกฎาคมของปี 2000 ชาวตะวันตกแพทย์ผู้ปฏิบัติงานปิดคลินิกของพวกเขาและปฏิเสธที่จะรักษาคนไข้นโยบายนี้แยกตั้งเบิกยาจากแพทย์ ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำลายโครงสร้างทางการเงินของ นี เกาหลี