IntroductionAs defined by Gray (200

Introduction
As defined by Gray (2004), the primary use of Social
StoriesTM is to describe ‘a situation, skill, or concept in
terms of relevant social cues, perspectives, and common
responses in a specifically defined style and format (p. 2)’,
and since the time of their introduction, Social Stories have
been an attractive tool for those who seek to build social
awareness in people with autism spectrum disorders (ASD).
However, despite the attractiveness of the procedure for
interventionists in terms of its ease of use and face validity
within complex educational environments, there have been
ongoing difficulties with establishing a strong evidence
base within this body of research. In their review of Social
Stories research, Sansosti and Powell-Smith (2004) examined
the available research base (which at that time was
seven studies) and found the following single-subject
research designs: AB designs (2), reversal designs (2) and
multiple baselines (3). They reported within this fledgling
body of research (1) a lack of experimental control, (2)
weak treatment effects and (3) the presence of confounding
treatment variables. They recommended that consumers
consider the results of previous research in this area ‘with
caution’ (p. 200), and they concluded that ‘it may be premature,
based on current literature, to suggest that Social
Stories are an evidence-based approach when working
with individuals with ASD’ (p. 200). Within this body of
research, the number of studies and reviews of those studies
has increased in more recent years, yet concerns regarding
the quality of the research and the associated effect sizes
continue to be expressed with the literature. With the recent
emphasis on evidence-based practices (EBPs) for use in
the education and treatment of persons with ASD (Odom,
Brantlinger and Gersten et al., 2005), this issue becomes of
paramount importance as professionals and parents attempt
to choose the interventions that will potentially work best
for the overall progress and quality of life for the persons
with ASD in their care.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำตามที่กำหนด โดยสีเทา (2004), ใช้หลักสังคมStoriesTM จะอธิบาย ' สถานการณ์การ ทักษะ หรือแนวคิดในเงื่อนไขสัญลักษณ์ทางสังคมที่เกี่ยวข้อง มุมมอง และทั่วไปตอบสนองในลักษณะที่กำหนดไว้โดยเฉพาะและรูปแบบ (p. 2)',และตั้งแต่เวลาแนะนำของพวกเขา มีเรื่องราวทางสังคมการเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสังคมความรู้ในคนที่มีความผิดปกติหลัก ๆ ของโรคออทิซึม (ASD)อย่างไรก็ตาม แม้ มีความเท่ของขั้นตอนinterventionists ในแง่ของความง่ายในการมีผลบังคับใช้และหน้าภายในสภาพแวดล้อมการศึกษาซับซ้อน มีการปัญหาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างหลักฐานแข็งแรงพื้นฐานภายในร่างกายนี้ของการวิจัย ในความคิดเห็นของสังคมงานวิจัยเรื่อง Sansosti และพาวเวลสมิธ (2004) ตรวจสอบฐานงานวิจัยที่ว่าง (ซึ่งในขณะนั้นการศึกษา 7) และพบว่าเรื่องเดียวที่ต่อไปนี้วิจัยออกแบบ: ออกแบบ AB (2) (2) การออกแบบย้อนกลับ และหลายเส้น (3) พวกเขารายงานภายใน fledgling นี้เนื้อหาของงานวิจัย (1) การขาดการควบคุมการทดลอง, (2ผลการรักษาอ่อนและ (3) ของ confoundingรักษาตัวแปร แนะนำที่ผู้บริโภคพิจารณาผลการวิจัยก่อนหน้านี้บริเวณ ' ด้วยข้อควรระวัง ' (p. 200), และพวกเขาได้ที่ ' อาจจะก่อนกำหนดวรรณกรรมปัจจุบัน การแนะนำจากสังคมนั้นเรื่องราวมีวิธีการตามหลักฐานเมื่อทำงานกับบุคคลกับ ASD' (p. 200) ภายในร่างกายนี้ของวิจัย จำนวนของการศึกษาและการศึกษาเหล่านั้นได้เพิ่มขึ้นในล่าสุดปี แต่ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของงานวิจัยและขนาดผลที่เกี่ยวข้องยังได้แสดงกับเอกสารประกอบการ มีการล่าสุดเน้นหลักฐานตามแนวทางปฏิบัติ (EBPs) สำหรับใช้ในการศึกษาและการรักษาของ ASD (OdomBrantlinger และ Gersten et al., 2005), ปัญหานี้กลายเป็นของความสำคัญสูงสุดเป็นความพยายามของผู้เชี่ยวชาญและผู้ปกครองเลือกงานที่จะทำงานอาจดีที่สุดสำหรับความคืบหน้าโดยรวมและคุณภาพชีวิตสำหรับบุคคลโดย ASD ในการดูแลของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การแนะนำตามที่กำหนดโดยสีเทา (2004) การใช้หลักของสังคม StoriesTM คือการอธิบายสถานการณ์ทักษะหรือแนวคิดในแง่ของการชี้นำสังคมที่เกี่ยวข้องมุมมองและร่วมกันการตอบสนองในรูปแบบที่กำหนดไว้โดยเฉพาะและรูปแบบ(พี. 2) 'และตั้งแต่เวลาของการเปิดตัวของพวกเขาเรื่องที่สังคมได้รับเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะสร้างสังคมการรับรู้ในผู้ที่มีความผิดปกติสเปกตรัม(ASD). อย่างไรก็ตามแม้จะมีความน่าดึงดูดใจของขั้นตอนสำหรับinterventionists ในแง่ของความสะดวก การใช้งานและความถูกต้องใบหน้าภายในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่มีความซับซ้อนมีการยากลำบากอย่างต่อเนื่องกับการสร้างหลักฐานฐานภายในร่างกายของงานวิจัยนี้ ในการตรวจสอบของพวกเขาจากสังคมการวิจัยเรื่อง, Sansosti และเวลล์สมิ ธ (2004) การตรวจสอบฐานการวิจัยที่มีอยู่(ซึ่งในเวลานั้นคือเจ็ดการศึกษา) และพบว่าต่อไปนี้คนเดียวเรื่องการออกแบบการวิจัย: การออกแบบ AB (2) การออกแบบการกลับรายการ (2 ) และเส้นเขตแดนหลายๆ (3) พวกเขาได้รายงานภายในนี้นกร่างกายของการวิจัย (1) การขาดการควบคุมการทดลอง (2) ผลกระทบการรักษาที่อ่อนแอและ (3) การปรากฏตัวของรบกวนตัวแปรการรักษา พวกเขาขอแนะนำให้ผู้บริโภคพิจารณาผลของการวิจัยก่อนหน้านี้ในพื้นที่นี้ด้วยความระมัดระวัง(พี. 200) และพวกเขาได้ข้อสรุปว่า "มันอาจจะเป็นก่อนวัยอันควรอยู่บนพื้นฐานของวรรณคดีในปัจจุบันที่จะชี้ให้เห็นว่าสังคมเรื่องที่เป็นวิธีการตามหลักฐานเมื่อการทำงานกับบุคคลที่มี ASD (พี. 200) ภายในร่างกายนี้การวิจัยจากการศึกษาและความคิดเห็นของการศึกษาเหล่านั้นได้เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมากขึ้นแต่ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของงานวิจัยและขนาดอิทธิพลที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปจะแสดงกับวรรณกรรม ด้วยที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามหลักฐาน (EBPs) เพื่อใช้ในการศึกษาและการรักษาของบุคคลที่มีASD (Odom, Brantlinger และ Gersten et al., 2005) ปัญหานี้จะกลายเป็นของสำคัญยิ่งเป็นมืออาชีพและผู้ปกครองพยายามที่จะเลือกการแทรกแซงที่อาจจะทำงานได้ดีที่สุดสำหรับความคืบหน้าโดยรวมและคุณภาพชีวิตของบุคคลที่มีASD ในการดูแลของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ตามที่กำหนดโดยสีเทา ( 2004 ) , การใช้หลักของสังคม
storiestm คือการอธิบายว่า ' สถานการณ์ ทักษะ หรือแนวคิดใน
แง่ของคิว สังคมที่เกี่ยวข้องมุมมอง และทั่วไป
การตอบสนองในเฉพาะกําหนดสไตล์และรูปแบบ ( หน้า 2 ) '
และเนื่องจากเวลาที่แนะนำของพวกเขา เรื่องราวทางสังคมได้
เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่แสวงหาเพื่อสร้างสังคม
ความตระหนักในคนด้วยโรคออทิซึมสเปกตรัม disorders ( ASD ) .
อย่างไรก็ตามแม้จะมีความน่าสนใจของงาน
interventionists ในแง่ของความสะดวกในการใช้งานและ
หน้าภายในสภาพแวดล้อมการศึกษาเชิงซับซ้อน มีปัญหาอย่างต่อเนื่องกับการสร้างฐาน
หลักฐาน
แรงภายในร่างกายนี้ของการวิจัย ในความคิดเห็นของพวกเขาวิจัยเรื่องราวทางสังคม
,sansosti เพาเวลล์ สมิธ ( 2004 ) และตรวจสอบ
ฐานการวิจัยที่มีอยู่ ( ซึ่งตอนนั้นเป็น
7 การศึกษา ) และพบต่อไปนี้เดียวเรื่องการออกแบบการวิจัย :
แบบ AB ( 2 ) การออกแบบย้อนกลับ ( 2 )
หลายเส้น ( 3 ) พวกเขารายงานในนี้เพิ่ง
ร่างของการวิจัย ( 1 ) ขาดการควบคุมการทดลอง ( 2 )
อ่อนแอรักษาผล และ ( 3 ) การปรากฏตัวของ confounding
ตัวแปรการรักษา พวกเขาแนะนำว่าผู้บริโภค
พิจารณาผลการวิจัยก่อนหน้านี้ในพื้นที่นี้ ' กับ '
ข้อควรระวัง ( หน้า 200 ) และพวกเขากล่าวว่า ' มันอาจจะคลอดก่อนกำหนด
บนพื้นฐานของวรรณกรรมปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่า เรื่องราวทางสังคม
เป็นวิธีการเชิงประจักษ์ เมื่อทำงานกับบุคคลที่มี ASD '
( หน้า 200 ) ภายในร่างกาย
การวิจัยจำนวนของการศึกษาและทบทวนการศึกษาเหล่านั้น
ได้เพิ่มขึ้นในปีล่าสุด แต่ความกังวลเกี่ยวกับ
คุณภาพงานวิจัย และเชื่อมโยงผลขนาด
ต่อไปจะแสดงกับวรรณกรรม โดยเน้นการปฏิบัติบนหลักฐานเชิงประจักษ์ ( ebps ล่าสุด

) เพื่อใช้ในการศึกษาและการรักษาผู้ที่มี ASD ( โอ้ดมและ
brantlinger เกอร์สเติ้น , et al . , 2005 )ปัญหานี้จะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นมืออาชีพของ

พ่อแม่พยายามที่จะเลือกการแทรกแซงที่อาจจะทำงานดีที่สุด
สำหรับความก้าวหน้าและคุณภาพโดยรวมของชีวิตบุคคล
ที่มี ASD ในการดูแลของพวกเขา