The aim has been to use DNA fromcas

The aim has been to use DNA from
case and control dyads (mother and child) in MoBa to
genotype polymorphic genetic markers (single nucleotide
polymorphisms – SNPs) in metabolic pathways in
which tobacco might have an influence. The aims have
now been extended to include the complete genome, in
a GWAS study. If the genetic analyses can point to
new genes that reveal important pathophysiological
mechanisms, it may lead to the development of better
therapies. As part of this project, an association study
between smoking and pre-eclampsia was performed.
Exposure to tobacco was based on responses to two
questionnaires, sent to the pregnant women in gestational
weeks 15 to 17 and week 30, while the information
on pre-eclampsia was derived from the birth record in
the Medical Birth Registry of Norway. It was found
that, whereas 23% of the pregnant women reported
smoking in the first trimester, only 9 and 8% smoked
in the second and third trimester, respectively [4]. The
main finding was that the risk of pre-eclampsia was
only reduced for women who continued to smoke in
the third trimester (adjusted OR = 0.57, 95% CI: 0.46-
0.70). Women who quit smoking before the last trimester
had about the same risk as non-smokers. No
effect of passive smoking could be found. Thus, this
observation confirms earlier reports of the apparent
protective effect of smoking, but limits the effect to
smoking in the last trimester.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะได้รับใช้ดีเอ็นเอจาก
กรณีและการควบคุม dyads (แม่และเด็ก) ใน MOBA จะ
genotype เครื่องหมายทางพันธุกรรม polymorphic (เดี่ยวเบื่อหน่าย
ความหลากหลาย - SNPs) ในการเผาผลาญอาหารในทางเดิน
ซึ่งยาสูบอาจมีอิทธิพล จุดมุ่งหมายได้
รับตอนนี้ขยายไปยังรวมถึงจีโนมที่สมบูรณ์แบบใน
การศึกษา GWAS หากวิเคราะห์ลักษณะทางพันธุกรรมสามารถชี้ไปที่
ยีนใหม่ที่เปิดเผย pathophysiological สำคัญ
กลไกอาจนำไปสู่การพัฒนาที่ดีกว่า
การรักษา ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้เป็นการศึกษาการเชื่อมโยง
ระหว่างการสูบบุหรี่และ pre-eclampsia ได้ดำเนินการ.
สัมผัสกับยาสูบก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อสอง
แบบสอบถามส่งไปให้หญิงตั้งครรภ์ในขณะตั้งครรภ์
สัปดาห์ที่ 15-17 และในสัปดาห์ที่ 30 ในขณะที่ข้อมูล
บนก่อน eclampsia ได้มาจากการบันทึกการเกิดใน
รีจิสทรีเกิดการแพทย์แห่งนอร์เวย์ นอกจากนี้ยังพบ
ว่าในขณะที่ 23% ของหญิงตั้งครรภ์รายงาน
การสูบบุหรี่ในไตรมาสแรกเพียง 9 และ 8% รมควัน
ในไตรมาสที่สองและสามตามลำดับ [4]
การค้นพบที่สำคัญคือการที่ความเสี่ยงของการ Pre-eclampsia ถูก
ลดลงเพียงสำหรับผู้หญิงที่ยังคงสูบบุหรี่ใน
ไตรมาสที่สาม (adjusted OR = 0.57, 95% CI: 0.46-
0.70) ผู้หญิงที่เลิกสูบบุหรี่ก่อนไตรมาสสุดท้าย
มีเกี่ยวกับความเสี่ยงเช่นเดียวกับผู้ไม่สูบบุหรี่ ไม่มี
ผลกระทบของการสูบบุหรี่อาจจะพบ ดังนั้นนี้
สังเกตยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ที่เห็นได้ชัด
การป้องกันผลกระทบของการสูบบุหรี่ แต่ จำกัด ผลกระทบที่จะ
สูบบุหรี่ในไตรมาสที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป้าหมายมีการใช้ DNA จากคดีและควบคุมไดแอด ( แม่และเด็ก ) ใน MOBA กับจีโนไทป์ที่มีเครื่องหมายพันธุกรรม ( ยีนเดี่ยวความหลากหลายและ snps ) ในการเผาผลาญเซลล์ในซึ่งยาสูบอาจจะมีอิทธิพล โดยมีตอนนี้ได้รับการขยายเพื่อรวมจีโนมที่สมบูรณ์ในการศึกษา gwas . หากวิเคราะห์ทางพันธุกรรมสามารถจุดยีนใหม่ที่เผยให้เห็นพยาธิสรีรวิทยาที่สำคัญกลไก ก็จะนำไปสู่การพัฒนาดีขึ้นการบําบัด เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ สมาคมการศึกษาระหว่างการสูบบุหรี่ และชักก่อนกำหนดการใช้ยาสูบไปสองแบบสอบถาม ส่งหญิงตั้งครรภ์ในครรภ์สัปดาห์ที่ 15 ถึง 17 สัปดาห์ 30 , ในขณะที่ข้อมูลก่อนชักได้มาจากบันทึกการเกิดในคลอดแพทย์รีจิสทรีของนอร์เวย์ มันถูกพบว่า ในขณะที่ร้อยละ 23 ของสตรีตั้งครรภ์ รายงานสูบบุหรี่ในไตรมาสก่อน และร้อยละ 8 สูบในไตรมาสที่สองและสามตามลำดับ [ 4 ] ที่หาหลักคือความเสี่ยงก่อนชักคือลดลงเพียงสำหรับผู้หญิงผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ในไตรมาสที่ 3 ( ปรับหรือ = 0.57 , 95% CI : 0.46 -0.70 ) ผู้หญิงที่เลิกสูบบุหรี่ก่อนไตรมาสสุดท้ายมีความเสี่ยงเหมือนสูบบุหรี่ ไม่ผลของการสูบบุหรี่ passive อาจจะพบ ดังนั้นนี้การสังเกตยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ของ ปรากฏผลป้องกันการสูบบุหรี่ แต่ผลจำกัดสูบบุหรี่ในไตรมาสสุดท้าย