However, this study showed that tim

However, this study showed that time spent on Facebook did not have corelation with CGPA. A study by Kolek
and Saunders (2008) showed similar findings. There were no difference of CGPA achievement,similar finding was
shown by Bjerregaard (2010) in her study. She found there was no different between facebook users and drop in the
CGPA achievement. Her study involve subjects using the Facebook for more than 1 hourand those less than 1 hours
per day as non-users. In this study, we did not exclude the subjects with less than 1 hour spent on Facebook.
A study by Karpinski and Kirschner (2010) found that ‘more time spent on Facebook equals slightly lower
grades’. In Karpinski’s study the average Facebook user had a GPA of 3.0 - 3.5, while the non-user had a GPA of
3.50 – 4.00. The average Facebook user studied for 1-5 hours per week, while non-Facebook user would study 11 –
15 hours per week. The main finding was that a significant negative relationship exists between Facebook use and
academic performance. Facebook users reported lower mean GPAs and reported spending fewer hours per week
studying on average than non-Facebook users (Karpinski, 2009) Facebook users and non-Facebook users reported
comparable percentages of average daily internet use; however the nature of the internet activities was not

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าเวลาที่ใช้ใน Facebook ไม่มี corelation กับ CGPA การศึกษา โดย Kolekและซอนเดอร์ส (2008) พบว่าผลการวิจัยที่คล้ายกัน มีความแตกต่างไม่สำเร็จ CGPA ค้นหาที่คล้ายกันได้แสดง โดย Bjerregaard (2010) ในการศึกษาของเธอ เธอพบว่า มีไม่แตกต่างกันระหว่างผู้ใช้ facebook แล้วปล่อยในCGPA สำเร็จ ศึกษาเกี่ยวข้องกับการใช้ Facebook hourand มากกว่า 1 ชั่วโมงที่น้อยกว่า 1 เรื่องต่อวันเป็นไม่ใช่ผู้ใช้ ในการศึกษานี้ เราไม่ได้แยกเรื่อง มีน้อยกว่า 1 ชั่วโมงใช้เวลาบน Facebookการศึกษา โดย Karpinski และ Kirschner (2010) พบว่า ' เวลาเพิ่มเติมใน Facebook เท่ากับต่ำกว่าเล็กน้อยเกรดของ ผู้ใช้ Facebook โดยเฉลี่ยมีเกรดเฉลี่ยการศึกษาของ Karpinski 3.0-3.5 ในขณะที่ไม่ใช่ผู้มีเกรดเฉลี่ยของ3.50 – 4.00 ผู้ใช้ Facebook โดยเฉลี่ยศึกษา 1-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่ผู้ใช้ไม่ใช่ Facebook จะศึกษา 11-15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ค้นหาหลักการว่า มีความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการใช้ Facebook และผลการศึกษา ผู้ใช้ Facebook รายงานต่ำกว่าความหมาย อื่น GPAs และรายงานการใช้จ่ายน้อยกว่าชั่วโมงต่อสัปดาห์การศึกษาโดยเฉลี่ยมากกว่าผู้ใช้ไม่ใช่ Facebook (Karpinski, 2009) ผู้ใช้ Facebook และผู้ใช้ Facebook ไม่ใช่รายงานสามารถเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์ของอินเทอร์เน็ตทุกวันเฉลี่ยใช้ อย่างไรก็ตาม ลักษณะของกิจกรรมทางอินเตอร์เน็ตไม่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่างไรก็ตามการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าเวลาที่ใช้ใน Facebook ไม่ได้มี corelation กับ CGPA การศึกษาโดย Kolek
และแซนเดอ (2008) แสดงให้เห็นว่าผลการวิจัยที่คล้ายกัน มีความแตกต่างของความสำเร็จ CGPA ไม่ถูกค้นพบที่คล้ายกันคือ
แสดงโดย Bjerregaard (2010) ในการศึกษาของเธอ เธอก็พบว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างผู้ใช้ Facebook และการลดลงของ
ความสำเร็จ CGPA การศึกษาของเธอที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่ใช้ Facebook มากกว่า 1 hourand เหล่านั้นน้อยกว่า 1 ชั่วโมง
ต่อวันในขณะที่ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ ในการศึกษานี้เราไม่ได้ยกเว้นวิชาที่มีน้อยกว่า 1 ชั่วโมงใช้เวลาบน Facebook.
การศึกษาโดย Karpinski และริชเนอร์ (2010) พบว่าเวลาที่ใช้บน Facebook เท่ากับลดลงเล็กน้อย
เกรด ' ในการศึกษา Karpinski ของผู้ใช้ Facebook เฉลี่ยมีเกรดเฉลี่ย 3.0 - 3.5 ในขณะที่ผู้ใช้ไม่ได้เกรดเฉลี่ย
3.50-4.00 ผู้ใช้ Facebook เฉลี่ยศึกษา 1-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในขณะที่ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Facebook จะศึกษาที่ 11 -
15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การค้นพบที่สำคัญคือว่ามีความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญที่มีอยู่ระหว่างการใช้ Facebook และ
ผลงานทางวิชาการ ผู้ใช้ Facebook รายงานต่ำกว่าค่าเฉลี่ยผลการเรียนและมีการรายงานการใช้จ่ายชั่วโมงต่อสัปดาห์น้อยกว่า
การเรียนโดยเฉลี่ยกว่าผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Facebook (Karpinski 2009) ผู้ใช้ Facebook และผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Facebook รายงาน
ร้อยละเปรียบของอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยต่อวันใช้งาน แต่ลักษณะของกิจกรรมอินเทอร์เน็ตไม่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตามการศึกษานี้พบว่า เวลาที่ใช้ใน Facebook ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับ cgpa . การศึกษาและ kolek
ซอนเดอร์ส ( 2008 ) พบผลที่คล้ายกัน ไม่พบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน cgpa ค้นหาที่คล้ายกัน
แสดงโดย bjerregaard ( 2010 ) ในการศึกษาของเธอ เธอพบว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างผู้ใช้ Facebook และลดลงใน
cgpa ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่เธอใช้ Facebook มากกว่า 1 ชั่วโมงนั้นน้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ผู้ใช้
ไม่ ในการศึกษานี้ เราไม่ได้แยกวิชาน้อยกว่า 1 ชั่วโมง ใช้เวลาบน Facebook
การศึกษาและ karpinski kirschner ( 2010 ) พบว่า ' ใช้เวลาบน Facebook มีค่าลดลงเล็กน้อย
เกรด ' ใน karpinski ศึกษาผู้ใช้ Facebook โดยได้เกรดเฉลี่ย 3.0 - 3.5 ,ในขณะที่ผู้ใช้ไม่ได้เกรดเฉลี่ย 3.50 4.00
– . ผู้ใช้ Facebook โดยเฉลี่ย 1-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่บน Facebook ผู้ใช้จะศึกษา 11 –
15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หาหลักคือ ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ Facebook และ
ผลการเรียน . ผู้ใช้ Facebook กว่า หมายถึงมีการรายงานและรายงานน้อยกว่าชั่วโมงต่อสัปดาห์
เรียนเฉลี่ยมากกว่าผู้ใช้ Facebook ไม่ ( karpinski 2009 ) ผู้ใช้ Facebook และผู้ใช้ Facebook ไม่รายงาน
เปอร์เซ็นต์ใช้อินเทอร์เน็ตทุกวัน เฉลี่ยเทียบเท่า อย่างไรก็ตามลักษณะของกิจกรรมอินเทอร์เน็ตไม่ได้