LONDON, England (CNN) -- Climatolog

LONDON, England (CNN) -- Climatology was once a small and often overlooked branch of science. But important discoveries made as early as the 19th century have contributed to what is the most important field of scientific study in the world today. Listed below are some key dates in climate change history.1824French physicist Joseph Fourier is first to describe a "greenhouse effect" in a paper delivered to Paris's Académie Royale des Sciences.1861Irish physicist John Tyndall carries out research on radiant heat and the absorption of radiation by gases and vapors including CO2 and H2O. He shows that carbon dioxide can absorb in the infrared spectrum, and it can cause a change in temperature. Tyndall famously declares: "The solar heat possesses. . . the power of crossing an atmosphere. But when the heat is absorbed by the planet, it is so changed in quality that the rays emanating from the planet cannot get with the same freedom back into space. Thus the atmosphere admits of the entrance of the solar heat, but checks its exit. The result is a tendency to accumulate heat at the surface of the planet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลอนดอน, อังกฤษ (CNN) - ภูมิอากาศครั้งหนึ่งเคยเป็นขนาดเล็กและมักจะมองข้ามสาขาวิทยาศาสตร์ แต่ค้นพบที่สำคัญทำให้เป็นช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มีส่วนร่วมในสิ่งที่เป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในโลกวันนี้ ด้านล่างมีบางวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

1824

นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสโจเซฟฟูริเยร์เป็นคนแรกที่จะอธิบาย "ปรากฏการณ์เรือนกระจก" ในกระดาษส่งไปยังกรุงปารีสAcadémie des Sciences Royale


1861

นักฟิสิกส์ชาวไอริชจอห์นดอลล์ดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับความร้อนและการดูดซึมของรังสีจากก๊าซและไอระเหยรวมทั้ง CO2 และ H2O เขาแสดงให้เห็นว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถดูดซับในคลื่นอินฟราเรดและมันสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ดอลล์ที่มีชื่อเสียงประกาศ: "ความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ครอบครองอำนาจของข้ามบรรยากาศ แต่เมื่อความร้อนถูกดูดซึมโดยโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงดังนั้นในที่มีคุณภาพที่รังสีเล็ดลอดออกมาจากโลกไม่สามารถรับกับด้านหลังเสรีภาพเดียวกันเข้ามา.... พื้นที่. ดังนั้นยอมรับว่าบรรยากาศของทางเข้าของความร้อนจากแสงอาทิตย์ แต่การตรวจสอบทางออก. ผลที่ได้คือแนวโน้มที่จะสะสมความร้อนที่พื้นผิวของดาวเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลอนดอน, อังกฤษ (CNN)--Climatology ครั้งหนึ่งเคยเป็นสาขาวิทยาศาสตร์ขนาดเล็กและมักมองข้าม แต่การค้นพบที่สำคัญทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ศตวรรษที่19ได้มีส่วนร่วมในสิ่งที่เป็นเขตข้อมูลที่สำคัญของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในโลกทุกวันนี้ ดังต่อไปนี้เป็นวันที่สำคัญในประวัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

๑๘๒๔

นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสโจเซฟ Fouri เป็นคนแรกที่จะอธิบายถึง "ผลเรือนกระจก " ในกระดาษที่ส่งไปยังปารีส Académie รอแยลเดวิทยาศาสตร์.

๑๘๖๑

นักฟิสิกส์ชาวไอริชจอห์น Tyndall ดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับความร้อนที่สดใสและการดูดซึมรังสีโดยก๊าซและไอระเหยรวมทั้ง CO2 และ H2O เขาแสดงให้เห็นว่าคาร์บอนไดออกไซด์สามารถดูดซับในสเปกตรัมอินฟราเรดและสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ Tyndall ประกาศที่มีชื่อเสียง: "พลังงานแสงอาทิตย์มีความร้อน ... พลังแห่งการข้ามบรรยากาศ แต่เมื่อความร้อนถูกดูดซึมโดยดาวเคราะห์ก็มีการเปลี่ยนแปลงในคุณภาพที่แผ่ออกมาจากโลกไม่สามารถได้รับกับอิสระเดียวกันกลับเข้าไปในพื้นที่ ดังนั้นบรรยากาศที่ยอมยอมจากทางเข้าของความร้อนพลังงานแสงอาทิตย์แต่ตรวจสอบออก ผลที่ได้คือแนวโน้มที่จะสะสมความร้อนที่พื้นผิวของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลอนดอนอังกฤษภูมิอากาศเป็นสาขาเล็กๆของวิทยาศาสตร์ที่มักจะมองข้าม อย่างไรก็ตามในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มีการค้นพบที่สำคัญสำหรับโลกปัจจุบันที่สำคัญที่สุดด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทำผลงาน วันที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ระบุไว้ด้านล่าง
หนึ่งพันแปดร้อยยี่สิบสี่
นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสโจเซฟฟูเรียร์อธิบายปรากฏการณ์เรือนกระจกเป็นครั้งแรกในกระดาษที่ตีพิมพ์โดยราชบัณฑิตยสถานในปารีส
หนึ่งพันแปดร้อยหกสิบหนึ่ง
นักฟิสิกส์ชาวไอริชจอห์นทินเดลศึกษาการแผ่รังสีความร้อนและการดูดซึมของก๊าซและไอน้ำได้แก่คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำพบว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถดูดซึมในสเปกตรัมอินฟราเรดและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทินเดลมีคำกล่าวว่าดวงอาทิตย์ร้อน เงินสำรอง พลังที่ไหลผ่านชั้นบรรยากาศ อย่างไรก็ตามเมื่อความร้อนถูกดูดซึมโดยดาวเคราะห์มวลของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นและรังสีจากดาวเคราะห์ไม่สามารถกลับเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างอิสระเช่นเดี ดังนั้นบรรยากาศช่วยให้ความร้อนของดวงอาทิตย์ที่จะเข้าไปแต่ป้องกันไม่ให้มันจากการไป ผลที่ได้คือแนวโน้มของการสะสมความร้อนในพื้นที่ผิวของดาวเคราะห์