5. ConclusionDeparting from a somew

5. Conclusion
Departing from a somewhat heterogeneous literature base on agility and robustness
and the expectation that both strategies may be important in improving the supply
chain’s customer value and business performance, our research provides strong
support for this assumption.
Being agile has a strong positive effect on the supply chain’s customer value, while its
impact on business performance is mediated by the supply chain’s customer value and,
thus, is indirect only. In contrast, achieving robustness has a strong positive direct effect on
both the supply chain’s customer value and business performance. This is an
important observation, because in the last years both researchers and managers paid a
lot of attention to agility, whereas robustness turns out to be the real driver of business
performance.
In line with the positive effect agility has on the supply chain’s customer value, the
exploratory cases revealed that agility is a particularly effective strategy in the case of
high customer-side risks. The direct influence of robustness on business performance
can be explained by the increasing prevalence of high volatility in supply chains
(Christopher and Holweg, 2011). Supply chains need to consider robustness to be able
to withstand this ever-occurring volatility risks. The case studies provide insights to
the fact that robustness can be considered a basic prerequisite to deal with
supplier-side risks, while agility is necessary to deal with customer-side risks. These
findings helps managers to select the appropriate supply chain strategy based on
risk-based context factors, which, in turn, can help to shape a supply chain design that
not only leads to improved business performance, but also to improved customer value
and, consequently, societal benefits.
Our hypotheses that SCRM is important for both agility and robustness of a supply
chain are supported. This coincides with the descriptions of managers interviewed as
part of our case studies. Thus, the implementation of SCRM, which entails the
identification, assessment, and controlling of risks, allows companies to better cope
with changes both proactively and reactively. Besides other possible facilitators of
agility and robustness, such as cooperation, insurance, and postponement, it turns out
that SCRM is a strong driver of realizing these two strategies. This is an important
argument for managers who consider the introduction of SCRM. Most importantly,
companies, who are searching for a means to improve agility and robustness of their
supply chains, find that the introduction of SCRM can be a powerful supplement to
more traditional means such as excess capacities and safety stocks.
Further, it is learnt from the cases that choosing and achieving appropriate levels of
agility and robustness needs to be aligned to the competitive strategy.
It was aimed to reduce possible research limitation, but it is necessary to point to the
following issues. First, all participants were located in German-speaking countries
only. Second, except for control variables, no objective data was drawn on. Due to the
fact that mainly high-level key informants participated, their judgments can be highly
relied on. Third, mainly OEM and first-tier suppliers participated in both the survey
and the case studies. Therefore, generalizability may be partially problematic for
companies further upstream in the supply chain (although we do not have any
indication that this actually is the case). Further, for some of the constructs an even
broader operationalization could have been possible. Research propositions yielded
from the case study were not tested empirically. This is a possible starting point for
further research. In spite of these issues, we are convinced that our findings provide an
important extension to the evolving literature on SCRM.
Besides customer value, further research might also investigate the impact of agility
and robustness on other broader aspects of supply chain performance and along the
supply chain. We also encourage more research to focus specifically on supply chain
robustness, due to its importance for both the supply chain’s customer value and
business performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5. บทสรุปออกจากเอกสารประกอบการแตกต่างกันค่อนข้างใช้ความคล่องตัวและเสถียรภาพและความคาดหวังว่า กลยุทธ์ทั้งสองอาจจะสำคัญในการปรับปรุงการจัดหาวัสดุค่าของกลุ่มลูกค้าและผลการดำเนินงาน การวิจัยของเราให้แข็งแกร่งสนับสนุนสมมติฐานนี้การคล่องตัวมีผลดีต่อแรงของห่วงโซ่อุปทานลูกค้าค่า ในขณะผลกระทบต่อผลการดำเนินงานเป็น mediated ด้วยลูกค้าของห่วงโซ่อุปทาน และดังนั้น ทางอ้อมเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม บรรลุเสถียรภาพมีผลบวกโดยตรงแข็งแรงค่าลูกค้าของห่วงโซ่อุปทานและผลการดำเนินงาน นี่คือการสังเกตสำคัญ เนื่องจากในปีที่ นักวิจัยและผู้จัดการจ่ายเป็นความสนใจมากในความคล่องตัว ในขณะที่เสถียรภาพเปิดออกเพื่อให้โปรแกรมควบคุมที่แท้จริงของธุรกิจประสิทธิภาพของกับผลบวก ความคล่องตัวมีค่าลูกค้าของห่วงโซ่อุปทาน การกรณีเชิงบุกเบิกเปิดเผยว่า ความว่องไวกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของความเสี่ยงด้านลูกค้าสูง อิทธิพลโดยตรงของเสถียรภาพประสิทธิภาพธุรกิจสามารถอธิบายความชุกที่เพิ่มขึ้นของความผันผวนในห่วงโซ่อุปทาน(คริสโตเฟอร์ก Holweg, 2011) ห่วงโซ่อุปทานต้องพิจารณาเสถียรภาพได้ทนต่อความเสี่ยงความผันผวนนี้เคยเกิดขึ้น กรณีศึกษาให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อความจริงเสถียรภาพนั้นถือได้ว่าข้อกำหนดเบื้องต้นเป็นพื้นฐานในการจัดการกับซัพพลายเออร์ด้านเสี่ยง ในขณะที่ความคล่องตัวจำเป็นต้องจัดการกับความเสี่ยงด้านลูกค้า เหล่านี้ผลการวิจัยช่วยให้ผู้บริหารเลือกกลยุทธ์โซ่อุปทานที่เหมาะสมตามปัจจัยความเสี่ยงตามบริบท ซึ่ง จะ จะช่วยให้รูปร่างแบบ ออกแบบที่ไม่เพียงแต่ นำไปสู่การปรับปรุงผลการดำเนินงาน แต่ยังรวมถึงลูกค้าค่าและ จึง ประโยชน์นิยมสมมุติฐานของเราว่า SCRM สำคัญสำหรับความคล่องตัวและเสถียรภาพของอุปทานกับเชนได้รับการสนับสนุน นี้กรุณา ด้วยคำอธิบายของสัมภาษณ์เป็นผู้จัดการส่วนหนึ่งของกรณีศึกษาของเรา ดังนั้น นำ SCRM ซึ่งมีการรหัส ประเมินผล และการควบคุมความเสี่ยง ช่วยให้บริษัทสามารถรับมือดีมีเปลี่ยนทั้งวันนี้ และ reactively นอกเหนือจากอื่น ๆ ยากที่สุดของความคล่องตัวและเสถียรภาพ ความร่วมมือ ประกันภัย และ เลื่อน มันเปิดออกSCRM ที่เป็นโปรแกรมควบคุมที่แข็งแกร่งของการตระหนักถึงกลยุทธ์เหล่านี้สอง นี่คือความสำคัญอาร์กิวเมนต์สำหรับผู้จัดการที่พิจารณาแนะนำ SCRM สำคัญที่สุดบริษัท ค้นหาวิธีการปรับปรุงความคล่องตัวและเสถียรภาพของตนโซ่อุปทาน การค้นหาว่า แนะนำ SCRM สามารถเป็นอาหารเสริมมีประสิทธิภาพวิธีการดั้งเดิมเช่นกำลังการผลิตส่วนเกินและหุ้นปลอดภัยเพิ่มเติม มันจะเรียนรู้จากกรณีที่เลือก และบรรลุสมระดับความคล่องตัวและเสถียรภาพต้องชิดกลยุทธ์แข่งขันมันมีวัตถุประสงค์เพื่อลดข้อจำกัดของงานวิจัยได้ แต่จำเป็นต้องชี้ไปประเด็นต่อไปนี้ อันดับแรก ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมีอยู่ในประเทศที่พูดภาษาเยอรมันเท่านั้น สอง ยกเว้นการควบคุมตัวแปร ข้อมูลวัตถุประสงค์ไม่ออกในการ เนื่องการความจริงที่ว่า คุณค่าสำคัญระดับสูงส่วนใหญ่เข้าร่วม ตัดสินความสามารถสูงอาศัยใน สาม ส่วนใหญ่เป็น OEM และซัพพลายเออร์ระดับแรกเข้าร่วมทั้งการสำรวจและกรณีศึกษา ดังนั้น generalizability อาจจะมีปัญหาบางส่วนสำหรับบริษัทไปต้นน้ำในห่วงโซ่อุปทาน (ถึงแม้ว่าเราไม่มีบ่งชี้ว่า จะเป็นกรณีนี้) เพิ่มเติม บางของโครงสร้างแม้แต่การoperationalization กว้างขึ้นจะได้รับเป็นไปได้ เริ่มวิจัยผลจากกรณีศึกษาไม่ทดสอบ empirically นี่คือจุดเริ่มต้นเป็นไปได้สำหรับวิจัยต่อไป แม้ว่าปัญหาเหล่านี้ เรามั่นใจว่า ผลการวิจัยของเราให้มีส่วนขยายที่สำคัญเอกสารประกอบการพัฒนาบน SCRMนอกจากลูกค้าค่า ต่อการวิจัยอาจยังตรวจสอบผลกระทบของความคล่องตัวและเสถียรภาพในด้านอื่น ๆ กว้างประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน และพร้อมห่วงโซ่อุปทาน เรายังส่งเสริมการวิจัยมากขึ้นโดยเฉพาะเน้นห่วงโซ่อุปทานเสถียรภาพ เนื่องจากความสำคัญสำหรับค่าทั้งซัพพลายเชนของลูกค้า และประสิทธิภาพของธุรกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 . สรุป
ออกจากฐานวรรณกรรมค่อนข้างแตกต่างกันในความคล่องตัวและความทนทาน
และความคาดหวังที่กลยุทธ์ทั้งสองอาจจะสำคัญในการปรับปรุงมูลค่าของลูกค้าซัพพลายเชน
และประสิทธิภาพทางธุรกิจ การวิจัยของเราแสดงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับสมมติฐานนี้
.
ถูกเปรียวมีผลบวกแรงต่อค่าลูกค้าห่วงโซ่อุปทาน ในขณะที่ของ