Perspective theories in the 17th ce

Perspective theories in the 17th century allowed a more fully integrated approach to architectural illusion, which when used by painters to "open up" the space of a wall or ceiling is known as quadratura. Examples include Pietro da Cortona's Allegory of Divine Providence in the Palazzo Barberini and Andrea Pozzo's Apotheosis of St Ignatius on the ceiling of the Roman church of Sant'Ignazio.


which optically "open" the ceiling or dome to the heavens with a depiction of Jesus', Mary's, or a saint's ascension or assumption. An example of a perfect architectural trompe-l'œil is the illusionistic dome in the Jesuit church, Vienna, by Andrea Pozzo, which is only slightly curved but gives the impression of true architecture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีมุมมองในศตวรรษที่ 17 ได้รับอนุญาตให้ใช้วิธีการแบบบูรณาการมากขึ้นอย่างเต็มที่ที่จะภาพลวงตาสถาปัตยกรรมซึ่งเมื่อนำมาใช้โดยจิตรกรที่จะ "เปิด" พื้นที่ของผนังหรือเพดานเป็นที่รู้จักกัน quadratura ตัวอย่าง ได้แก่ เปียโตรดาชาดก Cortona ของพระเจ้าพระเจ้าใน Palazzo Barberini และ Andrea ของ Pozzo ถวายพระเกียรติของเซนต์อิกบนเพดานของคริสตจักรโรมัน Sant'Ignazio. ซึ่งสายตา "เปิด" หรือเพดานโดมสวรรค์ที่มีภาพของพระเยซู ' แมรี่หรือสวรรค์ของนักบุญหรือสมมติฐาน ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบตร็องป์-l'œilเป็นโดมเว้าในคริสตจักรนิกายเยซูอิตเวียนนาโดย Andrea Pozzo ซึ่งเป็นโค้งเพียงเล็กน้อย แต่ให้การแสดงผลของสถาปัตยกรรมที่แท้จริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มุมมองของทฤษฎีในศตวรรษที่ 17 ให้บูรณาการมากขึ้นอย่างเต็มที่วิธีการลวงตาสถาปัตย์ ซึ่งเมื่อใช้โดยจิตรกร " เปิด " พื้นที่ของผนังหรือเพดานที่รู้จักกันเป็น quadratura . ตัวอย่างรวมถึงซื้อเธอมาปล้นอุปมานิทัศน์ของ Divine Providence ในวังบาร์เบอรินิ และอันเดรีย พอซโซ apotheosis ของเซนต์ Ignatius บนเพดานของโบสถ์ของโรมันด้วย

.ซึ่งสลับสี " เปิด " เพดานหรือโดมฟ้ากับภาพของพระเยซู แมรี่ หรือนักบุญขึ้นหรือสมมุติ ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบศิลปะเชิง 3 มิติเป็นโดมเว้าในโบสถ์เจซูเวียนนาโดยแอนเดรีย ปอซโซ ซึ่งเป็นเพียงโค้งเล็กน้อย แต่ให้ความรู้สึกประทับใจของสถาปัตยกรรมจริง