Songs“No one knows why songs are po

Songs
“No one knows why songs are powerful, but everyone knows from a personal point of view they are”, wrote Dale Griffee (1995) and I absolutely agree with his statement. Songs contain the power of music as well as the power of lyrics. While music touches our hearts, the lyrics and their words flow into our minds and so they draw us into their own world. It “grasps our imagination, emotions, and intellect with equal force regardless of our language backgrounds” (V. L. Holmes and Margaret R. Moulton, p. 2).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพลง"ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมีเพลง แต่รู้จากการจุดของมุมมองส่วนบุคคลจะ", เขียน Dale Griffee (1995) และเห็นด้วยกับคำสั่งของเขาอย่างนั้น เพลงประกอบด้วยพลังของเพลงและพลังของเนื้อเพลง ในขณะที่เพลงสัมผัสของหัวใจ เนื้อเพลงและคำของไหลเข้าสู่จิตใจของเรา และให้ พวกเขาวาดเราเข้าสู่โลกของตนเอง มัน "grasps จินตนาการของเรา อารมณ์ และสติปัญญา ด้วยแรงเท่ากับว่าพื้นหลังภาษาของเรา" (V. โฮลมส์ L. และมาร์กาเร็ต R. Moulton, p. 2)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพลง
"ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเพลงที่มีประสิทธิภาพ แต่ทุกคนรู้จากจุดส่วนบุคคลในมุมมองของพวกเขาจะ" เขียนเดล GRIFFEE (1995) และฉันอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเขา เพลงมีพลังของเพลงเช่นเดียวกับพลังของเนื้อเพลง ในขณะที่เพลงสัมผัสหัวใจของเรา, เนื้อเพลงและคำพูดของพวกเขาไหลลงสู่จิตใจของเราและเพื่อให้พวกเขาวาดเราเข้าไปในโลกของตัวเอง มัน "คว้าจินตนาการของเราอารมณ์และสติปัญญาด้วยแรงที่เท่ากันโดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังภาษาของเรา" (VL โฮล์มส์และมาร์กาเร็อามอพี. 2)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพลง
" ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเพลงที่ทรงพลัง แต่ทุกคนรู้จากมุมมองส่วนตัวที่พวกเขาจะ " เขียนเดล griffee ( 1995 ) และผมเห็นด้วยกับคำกล่าวของเขา เพลงที่บรรจุพลังของดนตรี ตลอดจนพลังแห่งเนื้อเพลง ในขณะที่เพลงสัมผัสหัวใจของเรา , เนื้อเพลงและคำไหลเข้าสู่จิตใจของเราและเพื่อให้พวกเขาดึงเราเข้าสู่โลกของพวกเขาเอง " เข้าใจจินตนาการของเรา , อารมณ์และสติปัญญา ด้วยความแรงเท่ากันโดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังภาษาของเรา " ( V . L . โฮล์มส์และมากาเร็ต R . มอล , หน้า 2 ) .