Students with bipolar disorderface

Students with bipolar disorder
face tough challenges navigating
through the many pressures
of a typical school day. Their
neurologically-based mood disorder
affects emotion, behavior, cognitive
skills, and social interactions.
These students are very
vulnerable to stress that can easily
overwhelm their coping skills.
Therefore, it is paramount to their
success in the classroom to reduce
exposure to stressors and help them
build coping skills that they will
need throughout their lives. More
than anything else, these children
need structure and predictability
to frame the day, provided by
supportive and flexible teachers who
calmly help them stay in control
when any difficulties develop.
The most important factor in
these children’s success is the
way adults respond to and work
with them. The teachers who
work best with these students
are resourceful, caring, and calm,
and know how to work positively
with children’s shifting moods
and cognitive weaknesses. Praise,
encouragement, and key words elicit
positive behaviors, while negativity
helps the child spin out of control.
Experts recommend some praise
for all children at least once every 5
minutes, or 12 positive comments for
every negative statement.
Good communication between
home and school is essential.
Contact should be frequent, timely,
and focused on facts and solving
problems (rather than blame). The
school needs to inform parents
regularly about how the student
is performing. This can be done
via a notebook that goes back and
forth to school with the child, or
a daily chart or e-mail that records
successes, progress, difficulties, and
mood information. Parents can then
reinforce and support the teacher
and the child. Parents can also spot
trends in the child’s illness and
respond before problems reach a
crisis. They should inform teachers
of any unusual stressors at home and
changes in medication.
One of the challenges of working
with these children is that even
tried-and-true strategies may not
work consistently due to the
frequent mood shifts the students
experience. Being prepared with
a variety of approaches certainly
increases a teacher’s odds of dealing
successfully with their students’
challenges.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาโรค bipolarหน้าท้าทายยากไปผ่านแรงกดดันมากของวันโรงเรียนทั่วไป ของพวกเขาโรคอารมณ์ตาม neurologicallyมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก พฤติกรรม การรับรู้ทักษะ และการโต้ตอบทางสังคมนักเรียนมีมากเสี่ยงความเครียดที่สามารถต่อทักษะการรับมือของพวกเขาจึง มันเป็นสิ่งที่ต้องการความสำเร็จในการเรียนเพื่อลดแสงจะลด และช่วยให้พวกเขาสร้างทักษะการเผชิญที่พวกเขาจะได้ตลอดชีวิต เพิ่มเติมกว่าสิ่งอื่น เด็กต้องการโครงสร้างและแอพพลิเคชันเพื่อกรอบวัน โดยครูสนับสนุน และมีความยืดหยุ่นที่เบา ๆ ช่วยควบคุมเมื่อปัญหาพัฒนาปัจจัยสำคัญที่สุดในความสำเร็จของเด็กเหล่านี้คือการวิธีตอบ และทำงานกับพวกเขา ครูที่ทำงานดีที่สุดกับนักเรียนมีกฏหมาย เสน่ห์ ความ สงบและรู้วิธีการทำงานเชิงบวกกับเด็กขยับอารมณ์และรับรู้จุดอ่อน สรรเสริญบอกให้กำลังใจ และคำสำคัญพฤติกรรมบวก ขณะ negativityช่วยให้เด็กหมุนออกจากการควบคุมผู้เชี่ยวชาญแนะนำสรรเสริญบางสำหรับเด็กทุกคนอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุก 5นาที หรือเห็นบวก 12ทุกคำสั่งลบสื่อสารที่ดีระหว่างบ้านและโรงเรียนเป็นสิ่งจำเป็นติดต่อควรบ่อย ทัน เวลาและเน้นข้อเท็จจริงและการแก้ปัญหา (ไม่ใช่ตำหนิ) ที่โรงเรียนต้องแจ้งผู้ปกครองเป็นประจำเกี่ยวกับการที่นักเรียนกำลังทำ นี้สามารถทำได้ผ่านโน๊ตบุ๊คที่ไปกลับไป และไปยังโรงเรียนกับเด็ก หรือแผนภูมิทุกวันหรืออีเมล์ที่บันทึกความสำเร็จ ความคืบหน้า อุปสรรค และข้อมูลอารมณ์ ผู้ปกครองสามารถแล้วเสริมสร้าง และสนับสนุนครูและเด็ก ผู้ปกครองยังสามารถจุดแนวโน้มการเจ็บป่วยของเด็ก และตอบก่อนถึงปัญหาการวิกฤต พวกเขาควรแจ้งครูของลดผิดปกติใด ๆ ที่บ้าน และการเปลี่ยนแปลงในยาความท้าทายการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเด็กเหล่านี้เป็นที่ยิ่งกลยุทธ์พยายาม และความจริงอาจไม่ทำงานอย่างต่อเนื่องครบกำหนดไปอารมณ์บ่อยกะนักเรียนประสบการณ์ กำลังเตรียมพร้อมหลากหลายวิธีอย่างแน่นอนเพิ่มโอกาสของครูจัดการมีนักศึกษาสำเร็จความท้าทาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเรียนที่มีโรคสองขั้วเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในการนำทางผ่านหลายแรงกดดันของวันที่โรงเรียนทั่วไป ของพวกเขาความผิดปกติของอารมณ์ระบบประสาทที่ใช้มีผลต่ออารมณ์พฤติกรรมความรู้ความเข้าใจทักษะและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม. นักเรียนเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเครียดที่สามารถครอบงำทักษะของพวกเขา. ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งของพวกเขาประสบความสำเร็จในห้องเรียนเพื่อลดการสัมผัสกับความเครียดและช่วยให้พวกเขาสร้างทักษะการเผชิญปัญหาว่าพวกเขาจะต้องตลอดชีวิตของพวกเขา เพิ่มเติมกว่าสิ่งอื่นใด, เด็กเหล่านี้ต้องโครงสร้างและการคาดการณ์กรอบวันที่จัดไว้ให้โดยการสนับสนุนและมีความยืดหยุ่นครูที่ใจเย็นช่วยให้พวกเขาอยู่ในการควบคุมเมื่อปัญหาใดๆ ในการพัฒนา. ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในความสำเร็จของเด็ก ๆ เหล่านี้เป็นวิธีที่ผู้ใหญ่ตอบสนองต่อและการทำงานกับพวกเขา. ครูที่ทำงานได้ดีกับนักเรียนเหล่านี้มีความมั่งคั่ง, ความเอาใจใส่และความสงบและรู้วิธีการทำงานบวกกับอารมณ์ความรู้สึกขยับเด็กและจุดอ่อนขององค์ความรู้ ยกย่องให้กำลังใจและคำสำคัญล้วงเอาพฤติกรรมในเชิงบวกในขณะที่ปฏิเสธจะช่วยให้สปินเด็กออกจากการควบคุม. ผู้เชี่ยวชาญแนะนำสรรเสริญบางอย่างสำหรับเด็กทุกคนอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุก 5 นาทีหรือ 12 แสดงความคิดเห็นในเชิงบวกสำหรับทุกคำสั่งในเชิงลบ. การสื่อสารที่ดีระหว่างบ้านและโรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญ. ติดต่อควรจะบ่อยทันเวลาและจดจ่ออยู่กับข้อเท็จจริงและการแก้ปัญหา(แทนที่จะโทษ) โรงเรียนต้องการที่จะแจ้งให้ผู้ปกครองเป็นประจำเกี่ยวกับวิธีการที่นักเรียนมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านโน๊ตบุ๊คที่จะไปกลับไปยังโรงเรียนที่มีเด็กหรือกราฟรายวันหรืออีเมลที่บันทึกความสำเร็จความก้าวหน้าปัญหาและข้อมูลอารมณ์ พ่อแม่ผู้ปกครองก็จะสามารถเสริมสร้างและสนับสนุนครูและเด็ก ผู้ปกครองยังสามารถมองเห็นแนวโน้มในการเจ็บป่วยของเด็กและการตอบสนองต่อปัญหาก่อนที่จะถึงวิกฤต พวกเขาควรจะแจ้งให้ครูผู้สอนของความเครียดที่ผิดปกติใด ๆ ที่บ้านและการเปลี่ยนแปลงในการใช้ยา. หนึ่งในความท้าทายของการทำงานกับเด็ก ๆ เหล่านี้ว่าแม้กลยุทธ์การพยายามและความจริงอาจไม่ทำงานอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากการอารมณ์บ่อยกะนักเรียนประสบการณ์ ถูกจัดทำขึ้นด้วยความหลากหลายของวิธีการอย่างแน่นอนเพิ่มอัตราต่อรองของครูในการจัดการประสบความสำเร็จกับของนักเรียนความท้าทาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักศึกษาที่มีโรคสองขั้ว
หน้าเหนียวความท้าทายที่เดินเรือผ่านแรงกดดันมากมาย

ของวันโรงเรียนทั่วไป ของพวกเขาจากโรคที่มีผลต่ออารมณ์

neurologically อารมณ์ พฤติกรรม ทักษะการเรียนรู้และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
.
นักศึกษาเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเครียดได้ง่าย

ล้นของพวกเขาทักษะ coping .
จึงยิ่งเพื่อความสำเร็จของพวกเขาในชั้นเรียนลด

สัมผัสกับความเครียดและช่วยให้พวกเขาสร้างทักษะการเผชิญปัญหาที่พวกเขาจะ

ต้องตลอดชีวิตของพวกเขา เพิ่มเติม
กว่าสิ่งอื่น , เด็กเหล่านี้ต้องการโครงสร้างและความสามารถในการทำนาย

กรอบวัน โดยมีครูที่สนับสนุน

ใจเย็นช่วยให้พวกเขาอยู่ในการควบคุม
เมื่อยากพัฒนา

เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในความสำเร็จคือเด็กพวกนี้

และทางผู้ใหญ่ ตอบกับพวกเขา ครูที่มีผลงานที่ดีที่สุดกับเหล่านี้นักเรียน

มีความรู้ การดูแล และสงบ และรู้วิธีการทำงานบวก


เด็กเปลี่ยนอารมณ์และความอ่อนแอทางปัญญา . สรรเสริญ ,
ให้กําลังใจ และคำสำคัญกระตุ้นพฤติกรรมปฏิเสธ

บวก ในขณะที่ช่วยให้เด็กหมุนออกจากการควบคุม ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ชม

สำหรับเด็กทุกคนอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุก 5
นาที12 ความคิดเห็นบวกหรือลบทุกข้อความ

.
การสื่อสารที่ดีระหว่างบ้านและโรงเรียนเป็นสิ่งจำเป็น
ติดต่อควรบ่อยทันเวลา
และเน้นข้อเท็จจริง และการแก้ไขปัญหา (
แทนที่จะโทษ )
โรงเรียนต้องแจ้งให้ผู้ปกครองนักเรียน

อยู่เสมอเกี่ยวกับวิธีการที่มีประสิทธิภาพ นี้สามารถทำได้ผ่านทางโน๊ตบุ๊คกลับ

ออกมาและไปโรงเรียนกับเด็กหรือ
แผนรายวันหรืออีเมลที่บันทึก
ความสำเร็จ ความก้าวหน้า อุปสรรคและ
ข้อมูลอารมณ์ ผู้ปกครองสามารถเสริมสร้างและสนับสนุนครูแล้ว

และเด็ก ผู้ปกครองยังสามารถจุด
แนวโน้มการเจ็บป่วยของเด็ก ตอบปัญหาถึง

ก่อนวิกฤต พวกเขาควรแจ้งครู
ของความเครียดผิดปกติใด ๆและการเปลี่ยนแปลงในการใช้ยาที่บ้าน
.
หนึ่งในความท้าทายของการทำงาน
เด็กนั่น
พยายามและกลยุทธ์ที่แท้จริงอาจไม่ทำงานอย่างสม่ำเสมอเนื่องจาก

อารมณ์บ่อยกะนักเรียน
ประสบการณ์ มีการเตรียมพร้อมกับความหลากหลายของวิธีการแน่นอน

เพิ่มครูอัตราต่อรองของการจัดการกับนักเรียน

ความท้าทาย