What Are the Disadvantages of Faceb

What Are the Disadvantages of Facebook?
Since its launch in 2004, the social networking service Facebook has grown to over one billion users. While there are numerous advantages to using the service, there are also unfortunately some negative aspects. Apart from being potentially addictive and hampering productivity, the service can make you vulnerable to malware, viruses and even identity theft if you are not careful. Facebook is also known to place a strain on relationships due to how easy it is to connect with people from your past.

Addiction

According to a study conducted by Leif Denti at the University of Gothenburg, spending time on Facebook can become addictive. Participants in the study reported that they felt ill at ease when they were not able to regularly check up on their Facebook account. With other people constantly posting new photos or status updates, people that become addicted to Facebook can feel like they are missing out if they are not constantly logged in. According to the study, these users do not even realize that they are engaged in excessive use of the service, as it becomes an unconscious habit.
Loss of Productivity

Facebook can be a serious threat to the productiveness of both students and employees. Studies by Nucleus Research indicate that an average of 1.5 percent of total office productivity is lost through employees accessing Facebook during working hours. Two-thirds of the participants in the study revealed that they access their Facebook accounts while at work, with 6 percent admitting that their entire Facebook profile was created at work. Studies conducted at Ohio State University indicated that Facebook users studied between one and five hours a week while non-users typically spent 11 hours or more studying. Productivity can suffer due to time wasted on Facebook playing games, chatting to friends or browsing new photos. Many of the games on Facebook require you to check back every few minutes in order to keep playing, which can waste a lot of time.
Malware & Viruses

The large user base and ease with which content is shared on Facebook makes the site an easy target for malware, despite efforts by Facebook to prevent malware and virus infections. When a Facebook account is compromised by a virus or malware, it often automatically posts links and status updates in an attempt to fool other users. If you click on one of these spam links, it can lead to your own account being compromised. Avoid clicking on Facebook links that promise to show shocking content or videos that require you to install an update to view.
Identity Theft

Facebook enables you to share a lot of personal information about yourself, which in some cases can lead to identity theft. Unless you are very careful about the privacy settings on your account and accepting friend requests from strangers, it is possible for your personal information to end up in the wrong hands. Hackers can then use this information to gain access to your other online accounts, or even open up new accounts using your identity. The information that users voluntarily divulge on Facebook is often the same information that is used as common security questions when opening online accounts. Unscrupulous users armed with this information can do a lot of damage both to your reputation and finances.
Antisocial Behavior

Studies by a professor of psychology at California State University indicate that overuse of social networking sites such as Facebook can lead to antisocial behavior. Teens might also become the victims of cyber bullying on Facebook or engage in narcissistic behavior themselves. According to a survey by the Pew Research Center's Internet & American Life Project, up to 15 percent of teens on social networks have been the target of cyber bullying, while 88 percent have witnessed others being mean. Since Facebook enables users to upload photos of themselves which can then be "liked" by friends, it can cause teens to have self-esteem problems if their photos do not garner as much likes as those of their friends. Users are also more likely to engage in arguments online because they are not face to face with the person.
Relationship Problems

Since Facebook makes it easy to find and connect with people from your past, it can also place a strain on relationships. A survey conducted by a UK divorce website revealed that Facebook is commonly cited as a reason for divorce. Seeing a partner befriending or talking to someone on Facebook with whom she had a previous relationship can cause anxiety and insecurity. People might also turn to Facebook when they are in fights or disagreements with their partners. This can lead to dirty laundry being aired in public through inappropriate comments or status updates posted in anger. Couples that break up can also use Facebook as a platform to get back at their ex-partners, which can jeopardize future relationships. In a survey by the American Academy of Matrimonial Lawyers, Facebook is cited as the primary source of compromising information that leads to divorce.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อเสียของ Facebook คืออะไรตั้งแต่เปิดตัวในปี 2004 บริการเครือข่ายสังคม Facebook ได้เติบโตขึ้นกว่าหนึ่งพันล้านผู้ใช้ ในขณะที่มีประโยชน์มากมายในการใช้บริการ มีแต่แง่ลบบาง นอกจากมีผลผลิตอาจเสพติด และกระทบ บริการสามารถทำให้คุณเสี่ยงต่อไวรัส มัลแวร์ และขโมยแม้แต่ถ้าคุณไม่ระมัดระวัง Facebook รู้จักการทำต้องใช้ความสัมพันธ์เนื่องจากว่าเป็นเรื่องง่ายในการเชื่อมต่อกับผู้คนจากอดีตยาเสพติดตามการศึกษาที่ดำเนินการ โดยบิ Denti ที่มหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์ก ใช้เวลาบน Facebook สามารถกลายเป็นเสพติด ผู้เข้าร่วมในการศึกษารายงานว่า พวกเขารู้สึกเก้อเมื่อพวกเขาไม่สามารถทำเป็นตรวจบัญชี Facebook ของพวกเขา กับผู้อื่นลงรูปใหม่หรืออัพเดตสถานะตลอดเวลา คนที่กลายเป็นติด Facebook สามารถรู้สึกเหมือนจะขาดออกถ้าพวกเขาไม่ต่อเนื่องเข้าระบบ ตามการศึกษา ผู้ใช้เหล่านี้ไม่ได้ตระหนักว่า พวกเขาจะหมั้นในบริการ ใช้มากเกินไปที่จะกลายเป็นนิสัยมีสติสูญเสียของผลผลิตFacebook ได้เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อ productiveness ของนักเรียนและพนักงาน ศึกษา โดยนิวเคลียสวิจัยบ่งชี้ว่า หายผ่านพนักงานเข้าถึง Facebook ในระหว่างชั่วโมงทำงานเฉลี่ยร้อยละ 1.5 ของสำนักงานรวมผลผลิต สองในสามของผู้เข้าร่วมในการศึกษาเปิดเผยว่า พวกเขาเข้าถึงบัญชี Facebook ของพวกเขาในขณะที่ทำงาน กับ admitting ที่ สร้างโปรไฟล์ Facebook ของพวกเขาทั้งหมดที่ทำงานร้อยละ 6 ศึกษาณมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอได้ระบุว่า ผู้ใช้ Facebook ศึกษาระหว่าง 5 และหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ในขณะที่ไม่ใช่ผู้ใช้โดยทั่วไปใช้เวลา 11 ชั่วโมงหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ผลผลิตสามารถประสบเนื่องจากเวลาที่สูญเสียใน Facebook เล่นเกม สนทนากับเพื่อน หรือเรียกดูภาพถ่ายใหม่ เกมบน Facebook มากมายต้องให้คุณตรวจสอบทุกสองสามนาทีเพื่อให้เล่น ซึ่งสามารถเสียเวลามัลแวร์และไวรัสฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่และง่ายซึ่งเนื้อหาที่ใช้ร่วมกันบน Facebook ทำให้เว็บไซต์เป้าหมายง่ายสำหรับมัลแวร์ แม้มีความพยายามโดย Facebook เพื่อป้องกันการติดเชื้อมัลแวร์และไวรัส เมื่อบัญชี Facebook ถูกโจมตี โดยไวรัสหรือมัลแวร์ มันมักจะลงรายการบัญชีการเชื่อมโยงและปรับปรุงสถานะในความพยายามที่จะหลอกกัน ถ้าคุณคลิกที่หนึ่งในสแปมเหล่านี้เชื่อมโยง สามารถนำบัญชีของคุณถูกทำลายได้ หลีกเลี่ยงการคลิกที่ลิงค์ Facebook ที่จะแสดงเนื้อหาหรือวิดีโอที่คุณต้องติดตั้งการปรับปรุงการดูตะลึงขโมยFacebook ช่วยให้คุณสามารถใช้ร่วมกันของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวเอง ซึ่งในบางกรณีอาจขโมย เว้นแต่ว่าคุณจะระมัดระวังมากเกี่ยวกับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชีของคุณและยอมรับคำขอเพื่อนจากคนแปลกหน้า สามารถได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะจบลงในมือไม่ถูกต้อง แฮกเกอร์สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการเข้าถึงของบัญชีออนไลน์ หรือแม้เปิดบัญชีใหม่โดยใช้ข้อมูลประจำตัวของคุณ ข้อมูลที่ผู้ใช้กำหนดเองเผยบุ๊คมักจะเป็นข้อมูลที่จะใช้เป็นคำถามรักษาความปลอดภัยทั่วไปเปิดบัญชีออนไลน์ ผู้ไร้ยางอายมีข้อมูลนี้สามารถทำจำนวนมากของความเสียหาย ทั้งชื่อเสียงและเงินของคุณพฤติกรรม antisocialศึกษา โดยศาสตราจารย์ทางจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียระบุที่ overuse ของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเช่น Facebook จะนำไปสู่พฤติกรรม antisocial วัยรุ่นอาจยังกลายเป็น เหยื่อของไซเบอร์ bullying บน Facebook หรือเข้าร่วมในการทำงานซึ่งบูชาตัวเองตัวเอง จากการสำรวจของศูนย์วิจัยพิวอินเตอร์เน็ตและโครงการชีวิตอเมริกัน ค่าร้อยละ 15 ของวัยรุ่นบนเครือข่ายสังคมได้เป้าหมายของไซเบอร์ bullying ในขณะที่ร้อยละ 88 ได้เห็นผู้อื่นกำลังหมายถึง เนื่องจาก Facebook ทำให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพถ่ายของตัวเองที่สามารถแล้วจะ "ชอบ" เพื่อน ก็สามารถทำให้วัยรุ่นมีปัญหาการนับถือตนเองหากภาพถ่ายของ garner ชอบมากเป็นของเพื่อนของพวกเขา ผู้ใช้ยังมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมในอาร์กิวเมนต์ออนไลน์เนื่องจากพวกเขาจะไม่ face to face with บุคคลปัญหาความสัมพันธ์เนื่องจาก Facebook ทำให้ง่ายต่อการค้นหา และติดต่อกับผู้คนจากอดีต มันยังสามารถทำต้องใช้ความสัมพันธ์ การสำรวจ โดยเว็บไซต์ศาลอังกฤษเปิดเผยว่า Facebook ทั่วไปอ้างเป็นเหตุผลในการหย่าร้าง เห็นพันธมิตร befriending หรือพูดกับคนใน Facebook ซึ่งเธอมีความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้สามารถทำให้ความวิตกกังวลและความไม่มั่นคง คนอาจยังเปิด Facebook เมื่อพวกเขาในการต่อสู้หรือความขัดแย้งกับพันธมิตร นี้สามารถนำไปซักผ้าที่สกปรกเป็นตากลมในที่สาธารณะผ่านเห็นไม่เหมาะสมหรือการปรับปรุงสถานะการลงรายการบัญชีในความโกรธ คู่รักที่สลายยังสามารถใช้ Facebook เป็นการกลับมาในอดีตคู่ ที่สามารถ jeopardize ความสัมพันธ์ในอนาคต ในการสำรวจโดยอเมริกันออสการ์ของแต่งทนาย Facebook จะเรียกว่าแหล่งที่มาหลักของข้อมูลที่นำไปสู่หย่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่เป็นข้อเสียของ Facebook?
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2004 บริการเครือข่ายสังคม Facebook ได้เติบโตขึ้นกว่าหนึ่งพันล้านผู้ใช้งาน ในขณะที่มีประโยชน์มากมายที่จะใช้บริการนอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่น่าเสียดายด้านลบ นอกเหนือจากการที่อาจเสพติดและขัดขวางการผลิต, การบริการที่สามารถทำให้คุณเสี่ยงต่อการมัลแวร์ไวรัสและการโจรกรรมแม้ว่าคุณจะไม่ระวัง Facebook เป็นที่รู้จักกันที่จะวางความเครียดในความสัมพันธ์อันเนื่องมาจากวิธีที่ง่ายก็คือการเชื่อมต่อกับผู้คนจากที่ผ่านมาของคุณ. ติดยาเสพติดจากการศึกษาที่จัดทำโดยลีฟ Denti ที่มหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์กใช้เวลาบน Facebook สามารถกลายเป็นเสพติด ผู้เข้าร่วมในการศึกษารายงานว่าพวกเขารู้สึกไม่สบายใจเมื่อพวกเขาไม่สามารถที่จะตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอขึ้นในบัญชี Facebook ของพวกเขา กับคนอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องการโพสต์รูปถ่ายใหม่หรือการปรับปรุงสถานะของคนที่กลายเป็นติดยาเสพติดไปที่ Facebook สามารถรู้สึกเหมือนพวกเขาจะหายไปหมดถ้าพวกเขายังไม่ได้เข้าอย่างต่อเนื่องใน. จากการศึกษาผู้ใช้เหล่านี้ไม่ได้ตระหนักว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการใช้งานที่มากเกินไป การให้บริการตามที่มันจะกลายเป็นนิสัยที่หมดสติ. การสูญเสียผลผลิตFacebook อาจจะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อผลผลิตของนักเรียนและพนักงาน การศึกษาโดยนิวเคลียสวิจัยแสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของร้อยละ 1.5 ของผลผลิตสำนักงานรวมจะหายไปผ่านพนักงานเข้าถึง Facebook ในช่วงเวลาทำงาน สองในสามของผู้เข้าร่วมในการศึกษาเปิดเผยว่าพวกเขาเข้าถึงบัญชี Facebook ของพวกเขาในขณะที่ทำงานที่มีร้อยละ 6 ยอมรับว่าโปรไฟล์ Facebook ของพวกเขาทั้งที่ถูกสร้างขึ้นในที่ทำงาน การศึกษาดำเนินการที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Facebook ศึกษาระหว่างหนึ่งและห้าชั่วโมงต่อสัปดาห์ในขณะที่ผู้ใช้ที่ไม่ใช่มักจะใช้เวลา 11 ชั่วโมงหรือมากกว่าการศึกษา ผลผลิตสามารถประสบเนื่องจากเสียเวลาบน Facebook เล่นเกม, คุยกับเพื่อนหรือเรียกดูภาพถ่ายใหม่ หลายเกมบน Facebook คุณต้องกลับมาตรวจสอบทุกไม่กี่นาทีเพื่อที่จะทำให้การเล่นซึ่งสามารถเสียเวลามาก. มัลแวร์และไวรัสฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่และความสะดวกกับเนื้อหาที่จะใช้ร่วมกันบน Facebook ทำให้เว็บไซต์เป็นเป้าหมายที่ง่าย มัลแวร์ที่แม้จะมีความพยายามของ Facebook เพื่อป้องกันมัลแวร์และการติดเชื้อไวรัส เมื่อบัญชี Facebook เป็นอันตรายจากเชื้อไวรัสหรือมัลแวก็มักจะโพสต์โดยอัตโนมัติการเชื่อมโยงและการปรับปรุงสถานะในความพยายามที่จะหลอกให้ผู้ใช้อื่น ๆ หากคุณคลิกบนลิงค์สแปมเหล่านี้ก็สามารถนำไปสู่บัญชีของคุณเองถูกทำลาย หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ Facebook ที่สัญญาว่าจะแสดงเนื้อหาที่น่าตกใจหรือวิดีโอที่คุณต้องติดตั้งการปรับปรุงเพื่อดู. ขโมยข้อมูลประจำตัวของ Facebook ช่วยให้คุณสามารถแบ่งปันข้อมูลจำนวนมากที่ส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวเองซึ่งในบางกรณีสามารถนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัว นอกจากคุณจะระมัดระวังเกี่ยวกับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชีของคุณและยอมรับคำขอเป็นเพื่อนจากคนแปลกหน้าก็เป็นไปได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะจบลงในมือผิด แฮกเกอร์สามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อเข้าถึงบัญชีออนไลน์อื่น ๆ ของคุณหรือแม้แต่เปิดขึ้นบัญชีใหม่โดยใช้ตัวตนของคุณ ข้อมูลที่ผู้ใช้สมัครใจเปิดเผยบน Facebook มักจะเป็นข้อมูลเดียวกันกับที่ใช้เป็นคำถามรักษาความปลอดภัยทั่วไปเมื่อเปิดบัญชีออนไลน์ ผู้ใช้ไร้ยางอายอาวุธที่มีข้อมูลเหล่านี้สามารถทำมากของความเสียหายทั้งชื่อเสียงและการเงินของคุณ. พฤติกรรมต่อต้านสังคมการศึกษาโดยศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่ามากเกินไปของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเช่น Facebook สามารถนำไปสู่พฤติกรรมต่อต้านสังคม วัยรุ่นอาจกลายเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งไซเบอร์บน Facebook หรือมีส่วนร่วมในพฤติกรรมของตัวเองหลงตัวเอง ตามการสำรวจโดยศูนย์วิจัยพิวอินเทอร์เน็ตและอเมริกันอายุโครงการได้ถึงร้อยละ 15 ของวัยรุ่นในเครือข่ายสังคมได้รับเป้าหมายของการกลั่นแกล้งไซเบอร์ในขณะที่ร้อยละ 88 ได้เห็นคนอื่นถูกเฉลี่ย ตั้งแต่ Facebook ทำให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปถ่ายของตัวเองซึ่งจากนั้นจะสามารถ "ชอบ" จากเพื่อน ๆ ก็สามารถทำให้วัยรุ่นมีปัญหาความนับถือตนเองถ้าภาพถ่ายของพวกเขาไม่ชอบสะสมมากที่สุดเท่าที่พวกเพื่อนของพวกเขา ผู้ใช้ยังมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการขัดแย้งออนไลน์เพราะพวกเขาจะไม่เผชิญหน้ากับคนที่. ความสัมพันธ์ปัญหาตั้งแต่ Facebook ทำให้ง่ายต่อการค้นหาและเชื่อมต่อกับผู้คนจากที่ผ่านมาของคุณก็ยังสามารถวางความเครียดในความสัมพันธ์ การสำรวจที่จัดทำโดยเว็บไซต์การหย่าร้างในสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า Facebook มักจะอ้างเป็นเหตุผลในการหย่าร้าง เห็นตีสนิทคู่ค้าหรือพูดคุยกับคนบน Facebook ซึ่งเธอมีความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้สามารถก่อให้เกิดความวิตกกังวลและความไม่มั่นคง คนยังจะกลับไปที่ Facebook เมื่อพวกเขาอยู่ในการต่อสู้หรือขัดแย้งกับพันธมิตรของพวกเขา นี้สามารถนำไปสู่การซักการออกอากาศในที่สาธารณะผ่านความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสมหรือการอัพเดตสถานะโพสต์ในความโกรธ คู่รักที่เลิกกันยังสามารถใช้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่จะได้รับกลับไปที่อดีตพันธมิตรของพวกเขาซึ่งสามารถเป็นอันตรายความสัมพันธ์ในอนาคต ในการสำรวจโดยสถาบันการศึกษาอเมริกันของทนายความแต่งงานที่ Facebook จะอ้างว่าเป็นแหล่งที่มาหลักของการสูญเสียข้อมูลที่นำไปสู่การหย่าร้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือข้อเสียของ Facebook ?
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2004 บริการเครือข่ายทางสังคม Facebook ได้เติบโตขึ้นกว่าหนึ่งพันล้านผู้ใช้ ในขณะที่มีข้อดีมากมายที่จะใช้บริการ ยังมีลักษณะบางอย่างที่เป็นลบ นอกจากอาจเสพติดและขัดขวางการผลิต , บริการสามารถทำให้คุณเสี่ยงกับมัลแวร์ไวรัส และการขโมยข้อมูลเฉพาะตัว ถ้าคุณไม่ระวัง Facebook เป็นที่รู้จักกันเพื่อวางความเครียดในความสัมพันธ์เพราะง่ายๆว่ามันคือการติดต่อกับผู้คนจากอดีต . . .

ติด

ตามการศึกษาที่ดำเนินการโดย Leif denti ที่มหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์ก ใช้เวลาบน Facebook สามารถกลายเป็นเสพติดผู้เข้าร่วมในการศึกษารายงานว่าพวกเขารู้สึกไม่ดีเมื่อพวกเขาไม่สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบในบัญชี Facebook ของพวกเขา กับคนอื่นๆตลอดเวลา โพสต์รูปใหม่หรือการปรับปรุงสถานะ คนที่จะติด Facebook จะรู้สึกเหมือนพวกเขาจะหายไปหากพวกเขาไม่ได้ตลอดเวลาเข้าสู่ระบบใน ตามการศึกษาผู้ใช้เหล่านี้ไม่ได้ตระหนักว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการใช้มากเกินไปของบริการ มันกลายเป็นความเคยชินไม่รู้สึกตัว การสูญเสียผลผลิต

Facebook สามารถคุกคามร้ายแรงกับความอุดมสมบูรณ์ของทั้งนักเรียนและพนักงาน การศึกษาวิจัยนิวเคลียสบ่งชี้ว่า เฉลี่ย 1.5 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตสำนักงานทั้งหมดสูญหายเข้าถึง Facebook ผ่านพนักงานในระหว่างชั่วโมงทำงานสองในสามของผู้เข้าร่วมในการศึกษาครั้งนี้พบว่า พวกเขาสามารถเข้าถึงบัญชี Facebook ของพวกเขาในขณะที่ทำงานกับ 6 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่า โปรไฟล์ Facebook ของพวกเขาทั้งหมดถูกสร้างขึ้นในการทำงาน การศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ ระบุว่า ผู้ใช้ Facebook เรียนระหว่างหนึ่งและห้าชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่ผู้ใช้ไม่มักจะใช้เวลา 11 ชั่วโมงหรือมากกว่าการเรียนผลผลิตสามารถประสบเนื่องจากเสียเวลาใน Facebook เล่นเกมส์ พูดคุยกับเพื่อน หรือเรียกดูภาพถ่ายใหม่ หลายเกมบน Facebook ที่คุณต้องตรวจสอบทุกสองสามนาที เพื่อที่จะเล่นต่อไป ซึ่งสามารถเสียเวลา .

&ไวรัสมัลแวร์ขนาดใหญ่ ฐานผู้ใช้และความสะดวกกับที่เนื้อหาที่ใช้ร่วมกันบน Facebook ทำให้เว็บไซต์เป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับมัลแวร์แม้จะมีความพยายามโดย Facebook เพื่อป้องกันมัลแวร์และไวรัสเชื้อ เมื่อบัญชี Facebook ถูกทำลายโดยไวรัสหรือมัลแวร์ มันมักจะโดยอัตโนมัติโพสต์การเชื่อมโยงและอัพเดตสถานะในความพยายามที่จะหลอกผู้ใช้อื่น ๆ ถ้าคุณคลิกที่หนึ่งของการเชื่อมโยงสแปมเหล่านี้ มันสามารถนำของคุณเองบัญชีที่ถูกบุกรุก