จุดแข็งของประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสมาชิกอื่นของ AEC ผมเห็นว การแปล - จุดแข็งของประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสมาชิกอื่นของ AEC ผมเห็นว ไทย วิธีการพูด

จุดแข็งของประเทศไทย เมื่อเปรียบเทีย


จุดแข็งของประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสมาชิกอื่นของ AEC ผมเห็นว่า ประเทศไทยมีความได้เปรียบในหลายประเด็น ซึ่งจุดแข็งเหล่านี้ทำให้ไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของ AEC

1) ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเทศไทยตั้งอยู่ศูนย์กลางของภูมิภาคและมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในภูมิภาค นอกจากนี้ที่ตั้งของประเทศไทยยังมีความเสี่ยงภัยธรรมชาติค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านหลายประเทศ แม้ปีที่ผ่านมาไทยต้องเผชิญวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ แต่เป็นภัยพิบัติที่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้และสามารถเตรียมการป้องกันได้

2) ระดับการพัฒนาประเทศ ประเทศไทยมีระดับการพัฒนาประเทศสูงกว่าประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แรงงานมีฝีมือและบุคลากรระดับสูงมีจำนวนมากพอสมควร ประเทศไทยยังมีระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพและทั่วถึง โครงสร้างพื้นฐานได้รับการพัฒนาค่อนข้างมากโดยเฉพาะถนน ขณะที่สถาบัน กฎระเบียบ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีการพัฒนามากพอสมควร นอกจากนี้เงินบาทได้รับการยอมรับจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การค้าชายแดนสามารถซื้อขายเป็นเงินบาทได้

3) ขนาดของประเทศและตลาด เศรษฐกิจไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอินโดนีเซีย ไทยยังมีประชากรจำนวนมาก ใกล้เคียงกับจำนวนประชากรของเมียนมาร์และเวียดนาม แต่คนไทยมีระดับรายได้และมีกำลังซื้อสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ไทยมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพัฒนาและรองรับการลงทุนในภาคการผลิต แตกต่างจากสิงคโปร์ที่มีพื้นที่จำกัด

4) ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับอาเซียน ไทยมีมูลค่าการส่งออกและนำเข้ากับอาเซียน 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2553 หรือร้อยละ 15 ของมูลค่าการค้าภายในอาเซียนทั้งหมด นับเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย นอกจากนี้ไทยยังเกินดุลการค้าต่ออาเซียน 1.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ และเป็นเพียง 1 ใน 3 ประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลต่ออาเซียน ซึ่งสะท้อนว่าไทยน่าจะรับประโยชน์จาก AEC โดยเฉพาะในแง่การขยายการส่งออกไปยังอาเซียน

5) ความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยมีความเชื่อมโยงด้านการค้าและการลงทุนกับต่างประเทศสูงมาก ระดับการเปิดประเทศ degree of openness ของไทยสูงถึงร้อยละ 129 ของจีดีพีในปี 2548 การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศมาโดยตลอด ไทยจึงมีความพร้อมและประสบการณ์ในการทำการค้าและดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ซึ่งหมายความว่า การเข้าเป็น AEC จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการค้าและการลงทุนจากประเทศนอกกลุ่ม AEC มากกว่าประเทศสมาชิก AEC ส่วนใหญ่

สำหรับจุดอ่อนของประเทศไทยในการเข้าเป็นสมาชิก AEC มีอยู่หลายประเด็นเช่นกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ประเทศไทยไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่หรืออาจทำให้เราเสียโอกาสหรือได้รับผลกระทบจาก AEC มากขึ้น

1) การขาดความเข้าใจและขาดความตระหนัก ผลการสำรวจของหลายสถาบัน พบว่าสังคมไทยยังขาดความตื่นตัวเกี่ยวกับการเป็น AEC ประชาชนและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดความตระหนักถึงความสำคัญ ผลกระทบ และความจำเป็นในการเตรียมความพร้อม ยกเว้นผู้ประกอบการขนาดใหญ่หรือหน่วยงานที่ทำธุรกิจกับต่างประเทศอยู่แล้ว การขาดความเข้าใจและความตระหนักอาจสร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการไทย ทำให้ขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้ประโยชน์จาก AEC ทำให้เสียโอกาสหรือพลาดโอกาสที่กำลังจะเปิดออก และทำให้ขาดการเตรียมความพร้อมและไม่สามารถปรับตัวเพื่อรองรับผลกระทบจาก AEC ได้ทันเวลา

2) การไม่รู้จักเพื่อนบ้าน นอกจากคนไทยจะไม่เก่งในการใช้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลแล้ว คนไทยยังมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเพื่อนบ้านน้อยมาก ระบบการศึกษาของไทยขาดทางเลือกในการเรียนรู้ ภาษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่สิ่งอำนายความสะดวกต่างๆ ไม่เอื้อต่อการติดต่อค้าขาย ลงทุน หรือท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน


3) ความไม่สะดวกบางด้านในการดำเนินธุรกิจ แม้ว่าจากการจัดอันดับ Doing Business ของธนาคารโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 จาก 183 ประเทศ (สิงค์โปรอยู่อันดับ 1 และมาเลเซียอันดับ 18) แต่หากพิจารณาดัชนีบางด้านพบว่ายังเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ ได้แก่

“การเริ่มต้นธุรกิจ” ธุรกิจที่เข้ามาลงทุนหรือทำธุรกิจในไทย ต้องติดต่อกับหน่วยงานราชการจำนวนมาก มีขั้นตอนหลายขั้นตอน และใช้เวลามากในแต่ละขั้นตอน
“การขอสินเชื่อ” ผู้ประกอบการมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อ โดยเฉพาะรายย่อย และต้นทุนทางการเงินของไทยยังค่อนข้างสูง เพราะธุรกิจสถาบันการเงินของไทยยังมีลักษณะผูกขาดในระดับหนึ่ง

“การจัดเก็บภาษี” อัตราภาษีนิติบุคคลของไทยอยู่ที่ร้อยละ 30 สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีนโยบายลดภาษีนิติบุคคลน่าจะเป็นผลดีในการดึงดูดการลงทุน

4) ต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอัตราค่าจ้างแรงงานในประเทศไทยที่สูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนในโลกกำลังมองหาแหล่งลงทุนแหล่งใหม่ที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่าจีน การลงทุนในโลกจึงมีแนวโน้มไหลเข้าไปยังเศรษฐกิจเกิดใหม่มากขึ้น เช่น อินโดนีเซีย เมียนมาร์ เป็นต้น นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสัดส่วนต้นทุนด้านพลังงานและต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์สูงมาก ในภาวะที่ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น ไทยจึงมีแนวโน้มสูญเสียความน่าสนใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ

5) ปัญหาทางการเมืองและการบริหาร การพัฒนาของเศรษฐกิจไทยไปอย่างเชื่องช้าและต้องหยุดชะงักเป็นระยะๆ เนื่องจากมีอุปสรรคจากปัญหาทางการเมืองและการบริหาร เช่น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งการปฏิวัติและการชุมนุมประท้วง ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งทำให้ภาคธุรกิจมีต้นทุนแฝงสูงมาก ตลอดจนปัญหาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น

จากการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของประเทศไทยเมื่อต้องเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ AEC คำ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
จุดแข็งของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสมาชิกอื่นของ AEC ผมเห็นว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบในหลายประเด็นซึ่งจุดแข็งเหล่านี้ทำให้ไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนของ AEC 1) ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ประเทศไทยตั้งอยู่ศูนย์กลางของภูมิภาคและมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในภูมิภาคนอกจากนี้ที่ตั้งของประเทศไทยยังมีความเสี่ยงภัยธรรมชาติค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านหลายประเทศแม้ปีที่ผ่านมาไทยต้องเผชิญวิกฤตน้ำท่วมใหญ่แต่เป็นภัยพิบัติที่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้และสามารถเตรียมการป้องกันได้ 2) ระดับการพัฒนาประเทศประเทศไทยมีระดับการพัฒนาประเทศสูงกว่าประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียนประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานแรงงานมีฝีมือและบุคลากรระดับสูงมีจำนวนมากพอสมควรประเทศไทยยังมีระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพและทั่วถึงโครงสร้างพื้นฐานได้รับการพัฒนาค่อนข้างมากโดยเฉพาะถนนขณะที่สถาบันกฎระเบียบสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีการพัฒนามากพอสมควรนอกจากนี้เงินบาทได้รับการยอมรับจากประเทศเพื่อนบ้านทำให้การค้าชายแดนสามารถซื้อขายเป็นเงินบาทได้ 3) ขนาดของประเทศและตลาด เศรษฐกิจไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอินโดนีเซีย ไทยยังมีประชากรจำนวนมาก ใกล้เคียงกับจำนวนประชากรของเมียนมาร์และเวียดนาม แต่คนไทยมีระดับรายได้และมีกำลังซื้อสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ไทยมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพัฒนาและรองรับการลงทุนในภาคการผลิต แตกต่างจากสิงคโปร์ที่มีพื้นที่จำกัด 4) ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับอาเซียนไทยมีมูลค่าการส่งออกและนำเข้ากับอาเซียน 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2553 หรือร้อยละ 15 ของมูลค่าการค้าภายในอาเซียนทั้งหมดนับเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซียนอกจากนี้ไทยยังเกินดุลการค้าต่ออาเซียน 1.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์และเป็นเพียง 1 ใน 3 ประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลต่ออาเซียนซึ่งสะท้อนว่าไทยน่าจะรับประโยชน์จาก AEC โดยเฉพาะในแง่การขยายการส่งออกไปยังอาเซียน 5) ความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยมีความเชื่อมโยงด้านการค้าและการลงทุนกับต่างประเทศสูงมาก ระดับการเปิดประเทศ degree of openness ของไทยสูงถึงร้อยละ 129 ของจีดีพีในปี 2548 การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศมาโดยตลอด ไทยจึงมีความพร้อมและประสบการณ์ในการทำการค้าและดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ซึ่งหมายความว่า การเข้าเป็น AEC จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการค้าและการลงทุนจากประเทศนอกกลุ่ม AEC มากกว่าประเทศสมาชิก AEC ส่วนใหญ่ สำหรับจุดอ่อนของประเทศไทยในการเข้าเป็นสมาชิก AEC มีอยู่หลายประเด็นเช่นกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ประเทศไทยไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่หรืออาจทำให้เราเสียโอกาสหรือได้รับผลกระทบจาก AEC มากขึ้น 1) การขาดความเข้าใจและขาดความตระหนัก ผลการสำรวจของหลายสถาบัน พบว่าสังคมไทยยังขาดความตื่นตัวเกี่ยวกับการเป็น AEC ประชาชนและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดความตระหนักถึงความสำคัญ ผลกระทบ และความจำเป็นในการเตรียมความพร้อม ยกเว้นผู้ประกอบการขนาดใหญ่หรือหน่วยงานที่ทำธุรกิจกับต่างประเทศอยู่แล้ว การขาดความเข้าใจและความตระหนักอาจสร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการไทย ทำให้ขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้ประโยชน์จาก AEC ทำให้เสียโอกาสหรือพลาดโอกาสที่กำลังจะเปิดออก และทำให้ขาดการเตรียมความพร้อมและไม่สามารถปรับตัวเพื่อรองรับผลกระทบจาก AEC ได้ทันเวลา
2) การไม่รู้จักเพื่อนบ้าน นอกจากคนไทยจะไม่เก่งในการใช้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลแล้ว คนไทยยังมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเพื่อนบ้านน้อยมาก ระบบการศึกษาของไทยขาดทางเลือกในการเรียนรู้ ภาษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่สิ่งอำนายความสะดวกต่างๆ ไม่เอื้อต่อการติดต่อค้าขาย ลงทุน หรือท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน


3) ความไม่สะดวกบางด้านในการดำเนินธุรกิจ แม้ว่าจากการจัดอันดับ Doing Business ของธนาคารโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 จาก 183 ประเทศ (สิงค์โปรอยู่อันดับ 1 และมาเลเซียอันดับ 18) แต่หากพิจารณาดัชนีบางด้านพบว่ายังเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ ได้แก่

“การเริ่มต้นธุรกิจ” ธุรกิจที่เข้ามาลงทุนหรือทำธุรกิจในไทย ต้องติดต่อกับหน่วยงานราชการจำนวนมาก มีขั้นตอนหลายขั้นตอน และใช้เวลามากในแต่ละขั้นตอน
“การขอสินเชื่อ” ผู้ประกอบการมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อ โดยเฉพาะรายย่อย และต้นทุนทางการเงินของไทยยังค่อนข้างสูง เพราะธุรกิจสถาบันการเงินของไทยยังมีลักษณะผูกขาดในระดับหนึ่ง

“การจัดเก็บภาษี” อัตราภาษีนิติบุคคลของไทยอยู่ที่ร้อยละ 30 สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีนโยบายลดภาษีนิติบุคคลน่าจะเป็นผลดีในการดึงดูดการลงทุน

4) ต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอัตราค่าจ้างแรงงานในประเทศไทยที่สูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนในโลกกำลังมองหาแหล่งลงทุนแหล่งใหม่ที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่าจีน การลงทุนในโลกจึงมีแนวโน้มไหลเข้าไปยังเศรษฐกิจเกิดใหม่มากขึ้น เช่น อินโดนีเซีย เมียนมาร์ เป็นต้น นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสัดส่วนต้นทุนด้านพลังงานและต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์สูงมาก ในภาวะที่ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น ไทยจึงมีแนวโน้มสูญเสียความน่าสนใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ

5) ปัญหาทางการเมืองและการบริหาร การพัฒนาของเศรษฐกิจไทยไปอย่างเชื่องช้าและต้องหยุดชะงักเป็นระยะๆ เนื่องจากมีอุปสรรคจากปัญหาทางการเมืองและการบริหาร เช่น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งการปฏิวัติและการชุมนุมประท้วง ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งทำให้ภาคธุรกิจมีต้นทุนแฝงสูงมาก ตลอดจนปัญหาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น

จากการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของประเทศไทยเมื่อต้องเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ AEC คำ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

จุดแข็งของประเทศไทย AEC ผมเห็นว่า การค้าและการลงทุนของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน1) ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ระดับการพัฒนาประเทศ ขณะที่สถาบันกฎระเบียบสิ่งอำนวยความ สะดวกต่างๆมีการพัฒนามากพอสมควร ขนาดของประเทศและตลาด ไทยยังมีประชากรจำนวนมาก ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับอาเซียน 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2553 หรือร้อยละ 15 นับเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย 1.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์และเป็นเพียง 1 ใน 3 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ระดับการเปิดประเทศในระดับของการเปิดกว้างของไทยสูงถึงร้อยละ 129 ของจีดีพีในปี 2548 ซึ่งหมายความว่าการเข้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC มากกว่าประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC มีอยู่หลายประเด็นเช่นกัน AEC มากขึ้น1) การขาดความเข้าใจและขาดความตระหนัก ผลการสำรวจของหลายสถาบัน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผลกระทบและความจำเป็นในการเตรียม ความพร้อม ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ได้ทันเวลา2) การไม่รู้จักเพื่อนบ้าน ภาษาวัฒนธรรมเศรษฐกิจเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านขณะ ที่สิ่งอำนายความสะดวกต่างๆไม่เอื้อต่อการติดต่อค้าขายลงทุน แม้ว่าจากการจัดอันดับการทำธุรกิจของธนาคารโลกประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 จาก 183 ประเทศ (สิงค์โปรอยู่อันดับ 1 และมาเลเซียอันดับ 18) ได้แก่"การเริ่มต้นธุรกิจ" มีขั้นตอนหลายขั้นตอน โดยเฉพาะรายย่อย 30 สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงขึ้น เช่นอินโดนีเซียเมียนมาร์เป็นต้น ปัญหาทางการเมืองและการบริหาร เช่นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองทั้งการ ปฏิวัติและการชุมนุมประท้วง AEC คำ





























การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: