the ancient city of Butrint was aba

the ancient city of Butrint was abandoned in the late Middle ages, when marshes covered the whole area. In 1386, the Venetian Republic purchased the area from the Angevin Kings and held control of Butrint and the island of Corfu just across the straits until the fall of the Venetian Empire in the late 1700’s. Following periods of Byzantine and Venetian rule the city was largely abandoned at the end of the Middle Ages when marshland encroached on its territory. By the early 19th century it was merely a small fishing village set around a Venetian fortress on the southern bank of the Vivari Channel. After that the Butrint area fell under Ottoman Rule until Albanian Independence was declared in 1912. During communist regime when Kruschev made a visit in 1960, a road was constructed from Saranda to the Butrint archaeological site. The Soviet leader proposed to build a submarine base in Lake Butrint with a deepened channel connected to the Straits of Corfu.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมืองโบราณ Butrint ถูกทอดทิ้งในช่วงปลายยุคกลาง เมื่อบึงครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ใน 1386 เวนิสสาธารณรัฐซื้อพื้นที่จากกษัตริย์ Angevin และจัดขึ้นควบคุม Butrint และเกาะของ Corfu เพียงข้ามช่องแคบจนกระทั่งการล่มสลายของจักรวรรดิ Venetian ในโคลงกลอนปลาย ต่อระยะเวลาของกฎไบแซนไทน์และเวนิส เมืองถูกส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้งเมื่อสิ้นสุดยุคกลางเมื่อวัชพืชล่วงล้ำในอาณาเขตของตน โดยต้นศตวรรษที่ 19 มันเป็นเพียงเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ตั้งป้อมปราการเวทางทิศใต้ของสถานี Vivari หลังจากที่ พื้นที่ Butrint ตกภายใต้การปกครองของออตโตมันจนถูกประกาศเอกราชแอลเบเนียใน 1912 ระหว่างการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ เมื่อ Kruschev ทำไปใน 1960 ถนนที่ถูกสร้างขึ้นจากสะอาดเพื่อ Butrint เว็บไซต์ ผู้นำโซเวียตเสนอให้สร้างเรือดำน้ำในทะเลสาบ Butrint มีฐานช่อง deepened เชื่อมต่อกับช่องแคบคอร์ฟู

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมืองโบราณของ Butrint ถูกทอดทิ้งในปลายยุคกลางเมื่อบึงครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ใน 1386, สาธารณรัฐเวนิสซื้อจากพื้นที่ Angevin กษัตริย์และจัดขึ้นการควบคุมของ Butrint และเกาะคอร์ฟูเพียงข้ามช่องแคบจนล่มสลายของจักรวรรดิ Venetian ในช่วงปลายยุค 1700 ที่ ต่อไปนี้ระยะเวลาของอาณาจักรโรมันปกครองและ Venetian เมืองที่ถูกละทิ้งในตอนท้ายของยุคกลางเมื่อลุ่มรุกรานดินแดนของตน โดยในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มันเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่รอบป้อมปราการ Venetian บนฝั่งทางตอนใต้ของ Vivari ช่อง หลังจากนั้นพื้นที่ Butrint ตกอยู่ภายใต้กฎของออตโตมันจนกว่าแอลเบเนียอิสรภาพถูกประกาศในปี 1912 ในระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์เมื่อ Kruschev ทำครั้งในปี 1960 ซึ่งเป็นถนนที่สร้างขึ้นจากสากับโบราณสถาน Butrint ผู้นำของสหภาพโซเวียตที่นำเสนอเพื่อสร้างฐานเรือดำน้ำในทะเลสาบ Butrint กับช่องลึกความเชื่อมต่อกับช่องแคบ Corfu

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมืองโบราณของบูทรินท์ถูกทอดทิ้งในช่วงปลายยุคกลาง เมื่อบึงครอบคลุมทั้งพื้นที่ ในตอนนี้ , สาธารณรัฐเวนิสซื้อพื้นที่จากงเจวินกษัตริย์และจัดคุมบูทรินท์และเกาะคอร์ฟู แค่ข้ามช่องแคบจนถึงการล่มสลายของอาณาจักรเวนิสในปลาย 1700 . ต่อไปนี้ระยะเวลาของไบเซนไทน์เวนิสและปกครองเมืองไปทิ้งที่ปลายยุคกลางเมื่อบุกรุกบนพื้นที่ชื้นแฉะ . โดยศตวรรษที่ 19 ต้นมันเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆตั้งอยู่รอบป้อม Venetian ในภาคใต้ของธนาคารช่องทาง vivari . หลังจากที่พื้นที่บูทรินท์ล้มตุรกีภายใต้การปกครอง จนกระทั่งเป็นอิสระแอลเบเนียถูกประกาศใน 1912 . ในระบอบคอมมิวนิสต์เมื่อ kruschev ให้เยี่ยมชมใน 1960 , ถนนถูกสร้างจากซาแรนด้ากับโบราณสถานบูทรินท์ . ผู้นำสหภาพโซเวียตได้เสนอให้สร้างฐานเรือดำน้ำในทะเลสาบบูทรินท์กับลึกช่องทางเชื่อมต่อกับช่องแคบคอร์ .