Baby corns (Zea mays L.) were treat

Baby corns (Zea mays L.) were treated with ascorbic acid and its derivatives (ascorbic acid,

ascorbic acid 2- phosphate and isoascorbate) in a concentration-dependent manner up to 1%. They were

dipped in each solution for 2 min and wrapped with PVC film prior to storage at 4°C for 8 days. The

treatments did not produce changes in weight loss and total sugar content. Phenolic content was

significantly different on day 2 of storage. However, the ascorbic acid treatment presented the lowest

Coliforms, Yeast and Mold. The results suggest that the ascorbic acid and isoascorbic acid could be used

to maintain the quality of baby corn by reducing coliforms, yeast and mold.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เด็กข้าวโพด (Zea mays L. ) ได้รับการรักษาด้วยวิตามินซีและอนุพันธ์ (วิตามินซี, วิตามินซี 2- ฟอสเฟตและ isoascorbate) ในลักษณะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นสูงสุดถึง 1% พวกเขาถูกจุ่มลงในสารละลายเป็นเวลา 2 นาทีในแต่ละครั้งและห่อด้วยฟิล์มพีวีซีก่อนที่จะมีการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 8 วัน การรักษาไม่ได้ผลิตการเปลี่ยนแปลงในการลดน้ำหนักและปริมาณน้ำตาลรวม เนื้อหาฟีนอลเป็นอย่างมีนัยสำคัญที่แตกต่างกันในวันที่ 2 ของการจัดเก็บ อย่างไรก็ตามการรักษาวิตามินซีที่นำเสนอต่ำสุดColiforms, ยีสต์และรา ผลการชี้ให้เห็นว่าวิตามินซีและกรด isoascorbic สามารถนำมาใช้ในการรักษาคุณภาพของข้าวโพดฝักอ่อนโดยการลดโคลิฟอร์มยีสต์และเชื้อรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทารกข้าวโพด ( Zea mays L . ) ได้รับการรักษาด้วยกรดแอสคอร์บิค ( วิตามินซีและอนุพันธ์

2 - ฟอสเฟตและกรดแอสคอร์บิก isoascorbate ) ในลักษณะที่ขึ้นอยู่กับปริมาณถึง 1 % พวกเขาถูก

จิ้มแต่ละโซลูชั่นสำหรับ 2 นาทีและหุ้มด้วยฟิล์ม PVC ก่อนเก็บที่ 4 ° C เป็นเวลา 8 วัน

รักษาไม่ผลิตการเปลี่ยนแปลงในการสูญเสียน้ำหนักทั้งหมด และปริมาณน้ำตาล เนื้อหา

ฟีโนลิกแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในวันที่ 2 ของการจัดเก็บ อย่างไรก็ตาม กรดแอสคอร์บิกการเสนอค่า

โคลิฟอร์ม ยีสต์ และรา พบว่า กรดแอสคอร์บิก และกรด isoascorbic สามารถใช้

เพื่อรักษาคุณภาพของข้าวโพดฝักอ่อนโดยการลดปริมาณโคลิฟอร์ม ยีสต์ และรา