The effects of different fire inten

The effects of different fire intensities on physiochemical soil properties have been studied in this research. The experiment was conducted in a eucalyptus forested area near the Namadgi National Park (ACT, Australia), and four fire intensities were achieved by adding different amounts of fuel load: 0 kg m− 2 (control), 2 kg m− 2 (low fire intensity), 4 kg m− 2 (moderate fire intensity) and 8 kg m− 2 (high fire intensity). Soil surface peak temperatures reached at each plot were 14, 142, 317 and 525 °C, respectively. Immediate changes in soil properties under different fuel loads were studied and monitored monthly during a 7-month period.

Average pH increased significantly with fuel load immediately after fire and decreased progressively to initial values. Changes in soil pH from burnt plots seem to be caused mainly by an ephemeral ash layer, and the recovery time has been relatively short. The complete oxidation of soil organic matter and the release of substantial amounts of cations after high fire intensity also contributed to increased pH. Only small variations in soil texture have been observed in this study even after high intensity fire, although the clay content decreased slightly during the experiment. This can be due to relatively low pre-burn clay content, but also to spatial variability of texture. In this case, post-fire erosion processes might have contributed to decreased clay content and are probably more important than other processes associated to temperature. Aggregate stability indices showed good correlation coefficients with the organic matter content. The role of organic matter as cementing agent of soil aggregates is extremely important after fire, since aggregate stability indices showed good correlation coefficients with the organic matter content. Low intensity fire enhanced soil water repellency. In this case, fire-enhanced soil water repellency persisted or increased progressively, but decreased below initial levels at the end of the experiment, but soil water repellency was completely destroyed after moderate or high fuel load treatments. The persistence of wettable conditions after destruction of soil water repellency can be considered as an index of fire severity, since it is a direct consequence of strong reduction of organic matter content

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีการศึกษาผลของการปลดปล่อยก๊าซต่าง ๆ ไฟบนคุณสมบัติดิน physiochemical ในงานวิจัยนี้ ทดลองได้ดำเนินการในพื้นที่ยูคาลิปตัสมองใกล้นาอุทยานแห่งชาติ (พระราชบัญญัติ ออสเตรเลีย), และปลดปล่อยก๊าซไฟสี่ความสำเร็จ โดยการเพิ่มจำนวนความจุเชื้อเพลิงแตกต่าง: กก. 0 m− 2 (ควบคุม), กิโลกรัม 2 m− 2 (ความเข้มไฟต่ำ), กิโลกรัม 4 m− 2 (ความเข้มปานกลางไฟ) และ m− 8 กก. (ความเข้มสูงไฟ) 2 อุณหภูมิสูงสุดที่พื้นผิวดินในแต่ละแผนมี 14, 142, 317 และ 525 ° C ตามลำดับ เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินใต้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างโหลดทันทีได้ศึกษา และตรวจสอบรายเดือนในช่วงระยะเวลา 7 เดือนPH เฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณเชื้อเพลิงทันทีหลังจากไฟ และลดความก้าวหน้าค่าเริ่มต้น เปลี่ยนแปลงค่า pH ดินจากผืนไหม้ดูเหมือนว่ามีสาเหตุส่วนใหญ่จากชั้นเถ้าข้อมูลแบบชั่วคราวที่ และเวลากู้คืนได้ค่อนข้างสั้น ออกซิเดชันที่สมบูรณ์ของจำนวนพบเป็นของหายากหลังจากที่ความเข้มสูงไฟส่วน pH ที่เพิ่มขึ้นและดินอินทรีย์ ขนาดเล็กรูปในเนื้อดินได้ถูกตรวจสอบในการศึกษานี้แม้หลังจากที่ไฟความเข้มสูง แม้ว่าเนื้อหาของดินลดลงเล็กน้อยในระหว่างการทดลอง นี้ได้เนื่อง จากเนื้อหาค่อนข้างต่ำดินเขียนก่อน แต่ยังสำหรับความผันผวนปริภูมิของพื้นผิว ในกรณีนี้ กระบวนการกัดเซาะไฟหลังอาจมีส่วนเนื้อหาของดินลดลง และอาจสำคัญกว่ากระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิ ดัชนีความมั่นคงรวมพบว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ดีกับเนื้อหาอินทรีย์ บทบาทของอินทรีย์เป็น cementing agent ของดินผลเป็นสิ่งสำคัญมากที่หลังจากไฟไหม้ เนื่องจากดัชนีความมั่นคงรวมแสดงสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ดีกับเรื่องเกษตรอินทรีย์เนื้อหา ความเข้มต่ำไฟเพิ่ม repellency น้ำดิน ในกรณีนี้ เพิ่มไฟ repellency น้ำดินยังคง หรือเพิ่มความก้าวหน้า แต่ลดลงต่ำกว่าระดับเริ่มต้นที่จุดสิ้นสุดของการทดลอง แต่ดินน้ำ repellency ทั้งหมดถูกทำลายหลังจากบำบัดโหลดน้ำมันปานกลาง หรือสูง ติดตาของ wettable เงื่อนไขหลังจากที่ทำลายดินน้ำ repellency ถือได้ว่าเป็นดัชนีของความรุนแรงของไฟไหม้ เป็นเวรโดยตรงแข็งแรงลดการอินทรีย์เนื้อหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลของความเข้มไฟที่แตกต่างกันเกี่ยวกับคุณสมบัติทางเคมีกายภาพของดินได้รับการศึกษาในการวิจัยครั้งนี้ การทดลองที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ป่ายูคาที่อยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติ Namadgi (ACT, ออสเตรเลีย) และสี่เข้มไฟกำลังประสบความสำเร็จโดยการเพิ่มจำนวนเงินที่แตกต่างกันของการโหลดน้ำมันเชื้อเพลิง: 0 กิโลกรัม m- 2 (ควบคุม) 2 กก m- 2 (ต่ำ ความเข้มไฟ), 4 กิโลกรัม m- 2 (ความเข้มไฟปานกลาง) และ 8 กิโลกรัม m- 2 (ความเข้มไฟสูง) อุณหภูมิสูงสุดผิวดินถึงที่แต่ละแปลง 14, 142, 317 และ 525 องศาเซลเซียสตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงทันทีในคุณสมบัติของดินภายใต้แรงเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันมีการศึกษาและตรวจสอบเป็นรายเดือนในช่วงระยะเวลา 7 เดือน. ค่า pH เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับภาระน้ำมันเชื้อเพลิงทันทีหลังจากที่ไฟไหม้และมีความก้าวหน้าในการลดลงค่าเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลงในค่า pH ของดินจากแปลงที่ถูกเผาไหม้ดูเหมือนจะส่วนใหญ่เกิดจากชั้นเถ้าชั่วคราวและเวลาการกู้คืนที่ได้รับค่อนข้างสั้น ออกซิเดชันที่สมบูรณ์ของอินทรียวัตถุในดินและการเปิดตัวของจำนวนมากของไพเพอร์หลังจากที่ความเข้มไฟสูงยังสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของค่า pH เพียง แต่รูปแบบขนาดเล็กในเนื้อดินที่ได้รับการปฏิบัติในการศึกษาครั้งนี้แม้กระทั่งหลังจากที่ไฟไหม้เข้มสูงแม้ว่าเนื้อหาดินลดลงเล็กน้อยในระหว่างการทดลอง นี้ได้เนื่องจากค่อนข้างต่ำก่อนการเผาไหม้เนื้อหาดิน แต่ยังรวมถึงความแปรปรวนเชิงพื้นที่ของพื้นผิว ในกรณีนี้กระบวนการการพังทลายของการโพสต์ไฟอาจจะมีส่วนร่วมในการลดลงเนื้อหาดินและอาจจะมีความสำคัญมากกว่ากระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิ ดัชนีความมั่นคงรวมแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ดีค่าสัมประสิทธิ์ที่มีเนื้อหาสารอินทรีย์ บทบาทของสารอินทรีย์ที่เป็นตัวแทนประสานของมวลรวมในดินที่มีความสำคัญอย่างมากหลังจากที่ไฟไหม้เนื่องจากดัชนีความมั่นคงรวมแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ดีค่าสัมประสิทธิ์ที่มีเนื้อหาสารอินทรีย์ ไฟความเข้มต่ำ repellency น้ำในดินเพิ่มขึ้น ในกรณีนี้ repellency น้ำดินไฟที่เพิ่มขึ้นยังคงมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น แต่ลดลงต่ำกว่าระดับเริ่มต้นในตอนท้ายของการทดลอง แต่ repellency น้ำในดินถูกทำลายหลังจากการรักษาโหลดเชื้อเพลิงปานกลางหรือสูง ความคงทนของสภาพเปียกหลังจากการล่มสลายของ repellency น้ำดินถือได้ว่าเป็นดัชนีของความรุนแรงไฟเพราะมันเป็นผลโดยตรงจากการลดลงที่แข็งแกร่งของเนื้อหาสารอินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของความเข้มที่แตกต่างกันไฟดิน physiochemical ได้ศึกษาในงานวิจัยนี้ การทดลองทำในป่ายูคาลิปตัส พื้นที่ใกล้ Rutherglen ( พระราชบัญญัติออสเตรเลีย ) , และสี่ไฟความเข้มได้สำเร็จ โดยการเพิ่มปริมาณของโหลดเชื้อเพลิง : 0 กก. m − 2 ( ควบคุม ) 2 กก. m − 2 ( ความเข้มต่ำไฟ )4 kg m − 2 ( หนักปานกลาง ไฟ ) และ 8 kg m − 2 ( ความเข้มสูงไฟ ) อุณหภูมิสูงสุดถึงที่ดินแต่ละแปลงจำนวน 14 , 142 , แล้วก็ 525 ° C ตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินภายใต้การเชื้อเพลิงต่าง ๆ ได้ศึกษาและตรวจสอบรายเดือนในช่วงระยะเวลาเข้า

pH เฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับโหลดเชื้อเพลิงทันทีหลังจากไฟและลดลงโดยค่าเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลง pH ของดินจากการเผาแปลง ดูเหมือนจะเกิดเป็นชั้นหินไม่ยั่งยืน และเวลาการกู้คืนได้รับค่อนข้างสั้นสมบูรณ์ของดินอินทรีย์ออกซิเดชันและปลดปล่อยปริมาณแคตไอออนความเข้มมาก หลังจากไฟสูงยังสนับสนุนการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น การเปลี่ยนแปลง pH ในเนื้อดินได้พบในการศึกษานี้ แม้ไฟความเข้มสูง แม้ว่าดินปริมาณลดลงเล็กน้อยระหว่างการทดลอง นี้ได้เนื่องจากค่อนข้างต่ำก่อนเผาดินเนื้อหา