P1: The greater a firm’s internatio

P1: The greater a firm’s internationalization diversification,
the more likely it is to use marketing doctrine.

P2: The greater a firm’s related-product diversification, the
more likely it is to use marketing doctrine.

P3: The greater a firm’s decentralization of marketing authority,
the more likely it is to use marketing doctrine.

P4: The greater a firm’s decentralization of marketing activities,
the more likely it is to use marketing doctrine.

P5: The greater the marketing doctrine use in a firm, the
greater the firm’s marketing program creativity.

P6: The greater the marketing doctrine use in a firm, the lower
the firm’s marketing impulsivity.

P7: The greater the marketing doctrine use in a firm, the
greater the perceived value of marketing within the firm.


P8: The greater the marketing doctrine use in a firm, the better
the firm’s performance.

P9: As competitive intensity increases, there is a stronger positive
relationship between marketing doctrine use and firm
performance.

P10: As market turbulence increases, there is a weaker positive
relationship between marketing doctrine use and firm performance.

P11: As structural flux increases, there is a stronger positive
relationship between marketing doctrine use and firm
performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

P1: ยิ่งการกระจายการลงทุนระหว่างประเทศของ บริษัท
ที่มีโอกาสมากขึ้นก็คือการใช้หลักคำสอนการตลาด. P2: ยิ่งเป็น บริษัท ของการกระจายความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสมากขึ้นก็คือการใช้หลักคำสอนการตลาด. P3 การกระจายอำนาจมากขึ้นของ บริษัท ของผู้มีอำนาจในการตลาด , มีโอกาสมากขึ้นก็คือการใช้หลักคำสอนการตลาด. P4 การกระจายอำนาจมากขึ้นของ บริษัท ของกิจกรรมการตลาดที่มีแนวโน้มมากขึ้นก็คือการใช้หลักคำสอนการตลาด. P5: การใช้งานมากขึ้นคำสอนการตลาดใน บริษัท ที่มากขึ้นโปรแกรมการตลาดของบริษัท . คิดสร้างสรรค์P6: ยิ่งการใช้หลักคำสอนการตลาดใน บริษัท ที่ต่ำกว่าimpulsivity การตลาดของ บริษัท . P7: ยิ่งการใช้หลักคำสอนการตลาดใน บริษัท ที่. มากขึ้นการรับรู้คุณค่าของการตลาดภายใน บริษัทP8: ยิ่งการตลาด การใช้หลักคำสอนใน บริษัท ที่ดีกว่าผลการดำเนินงานของบริษัท . P9: การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงในการแข่งขันในฐานะที่มีความเป็นบวกแข็งแกร่งความสัมพันธ์ระหว่างการใช้หลักคำสอนการตลาดและบริษัท ที่ผลการดำเนินงาน. P10: ตามการเพิ่มขึ้นของความวุ่นวายในตลาดที่มีการบวกปรับตัวลดลงความสัมพันธ์ระหว่างการตลาดการใช้หลักคำสอน. และประสิทธิภาพการทำงานของ บริษัทP11: ตามการเพิ่มขึ้นของการไหลของโครงสร้างที่มีความแข็งแกร่งในเชิงบวกความสัมพันธ์ระหว่างการตลาดการใช้หลักคำสอนและบริษัท ที่ผลการดำเนินงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

P1 : มากขึ้นของ บริษัท สากลวิสาหกิจ
มีโอกาสมากขึ้นก็คือการใช้ทฤษฎีการตลาด

P2 : มากขึ้นของ บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการกระจายสินค้า ,
มีโอกาสมากขึ้นก็คือการใช้ทฤษฎีการตลาด

P3 : การกระจายอำนาจของ บริษัท ที่มากขึ้นของอำนาจการตลาด
มีโอกาสมากขึ้นคือ ใช้หลักการการตลาด

P4 :การกระจายอำนาจของ บริษัท ที่มากขึ้นของกิจกรรมการตลาด ,
มีโอกาสมากขึ้นก็คือการใช้ทฤษฎีการตลาด

P5 : มากขึ้นด้วยการตลาดที่ใช้ในบริษัท ,
มากขึ้นของบริษัทการตลาดสร้างสรรค์

P6 : มากขึ้นด้วยการตลาดที่ใช้ในบริษัท , ลด
ของ บริษัทการตลาดหุนหันพลันแล่น .

p7 : มากขึ้นด้วยการตลาดที่ใช้ในบริษัท ,
เพิ่มมูลค่าการรับรู้ของตลาดภายในบริษัท


P8 : มากขึ้นด้วยการตลาดที่ใช้ในบริษัท , การทำงานของบริษัทดีกว่า
.

P9 : เป็นการแข่งขันความเข้มเพิ่มขึ้น มีแข็งแกร่งบวก
ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ทฤษฎีการตลาดและผลการดำเนินงาน
.

P10 : เพิ่มขึ้น ความวุ่นวายในตลาด มีแข็งแกร่งบวก
ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ทฤษฎีการตลาดและผลการดำเนินงาน

P11 : เป็นโครงสร้างฟลักซ์เพิ่มขึ้น มีแข็งแกร่งบวก
ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ทฤษฎีการตลาดและผลการดำเนินงาน