This research explores the impact o

This research explores the impact of interactive communication on business-tobusiness
(B2B) relationships. In the past decade the internet and especially social media
as a mode of communication has grown rapidly in both consumer and business markets.
Drawing on marketing channels and communications literature this paper identifies the
dimensions of interactive communication and develops a theoretical framework to
examine their impact on satisfaction, commitment, and advocacy. Media synchronicity
theory and the concept of the internet as an alternative to the real world are used to
distinguish between digital and non-digital modes of communication. Relationship
marketing is used to identify the dimensions of interactivity: rationality, social
interaction, contact density, and reciprocal feedback. The framework developed is used
to explore the influence of face-to-face (F2F), digital, and traditional, impersonal
communications on the dimensions of interactivity.


Hypotheses linking the mode of communication: personal, digital, and impersonal with the dimensions of interactivity and relational outcomes are empirically examined with data from the commercial printing and graphic design industry.
Confirmatory Factor Analysis is used to analyze the measurement and structural model.
Personal, F2F communication has the greatest impact on social interaction, reciprocal
feedback, and number of contacts. Digital communication has a weaker effect on these
dimensions and impersonal communication has the weakest effect. Personal and Digital
have equal impacts on rationality and rationality is the only dimension of interactivity
positively associated with relationship satisfaction. Contact density has a negative impact on relationship satisfaction and this negative impact is greater with personal
communication that it is with digital. The study shows that affective commitment leads to advocacy in a B2B channel, but trust and calculative commitment have no impact on
advocacy. The findings of the study have implications for both managers and researchers
regarding the mode and content of communications in B2B relationships.

Communication’s importance stems from its function in coordinating channel
activities (Anderson and Narus 1984; Mohr and Nevin 1990), increasing trust and
commitment (Morgan and Hunt 1994), enabling rational decisions, enhancing positive
emotions (Anderson and Narus 1990; Mohr and Spekman 1994), driving brand value,
6
identifying customer’s needs (Duncan and Moriarty 1998), and reducing uncertainty
(Moriarty and Spekman 1984). Increased levels of communication aid in the development
of group benefits (Peters and Fletcher 2004) and change the focus of exchange from
transactional to more relational (Mohr and Nevin 1990). According to Groonroos (1996)
interaction is the set of joint activities that take place in a relationship.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยนี้สำรวจผลกระทบของการสื่อสารแบบโต้ตอบบนธุรกิจ-tobusinessความสัมพันธ์ (B2B) ในทศวรรษอินเทอร์เน็ตและสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นวิธีการสื่อสารได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งผู้บริโภคและตลาดธุรกิจรูปวาดบนกระดาษนี้ระบุเอกสารประกอบการช่องทางและสื่อสารการตลาดมิติของการสื่อสารโต้ตอบ และกรอบทฤษฎีการพัฒนาตรวจสอบผลความพึงพอใจ ความมุ่งมั่น และหลุย สื่อ synchronicityทฤษฎีและแนวคิดของอินเทอร์เน็ตเป็นทางเลือกโลกใช้ในการความแตกต่างระหว่างโหมดดิจิตอล และ ดิจิตอลไม่ใช่การสื่อสาร ความสัมพันธ์การตลาดใช้ระบุขนาดของการโต้ตอบ: rationality สังคมโต้ตอบ ความหนาแน่นติดต่อ และความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ใช้กรอบการพัฒนาการสำรวจอิทธิพลของลมี (F2F), ดิจิตอล และวัฒนธรรม ไม้มีการสื่อสารในมิติของการโต้ตอบสมมุติฐานวิธีการสื่อสารเชื่อมโยง: ส่วนบุคคล ดิจิตอล และไม้มี มีมิติของผลลัพธ์ของการโต้ตอบ และเชิงจะ empirically ตรวจสอบกับข้อมูลจากการพิมพ์และอุตสาหกรรมการออกแบบกราฟิกวิเคราะห์ปัจจัยเสร็จใช้วิเคราะห์วัดและแบบจำลองโครงสร้างส่วนบุคคล สื่อสาร F2F มีผลกระทบมากที่สุดในสังคม ซึ่งกันและกันความคิดเห็น และจำนวนของผู้ติดต่อ สื่อสารดิจิตอลมีลักษณะพิเศษมีความแข็งแกร่งเหล่ามิติและการสื่อสารที่ไม้มีมีผลกำจัดจุด ส่วนตัว และดิจิตอลมีผลกระทบเท่ากับ rationality และ rationality เป็นมิติเดียวของการโต้ตอบเชิงบวกเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ความพึงพอใจ ความหนาแน่นติดต่อได้เท่าใดความพึงพอใจของความสัมพันธ์ และผลกระทบเชิงลบนี้มีค่ากับบุคคลการสื่อสารที่ มีดิจิตอล การศึกษาแสดงว่า มั่นผลนำไปสู่หลุยในช่อง B2B แต่ความไว้วางใจและความมุ่งมั่น calculative มีไม่ส่งผลกระทบในหลุย พบการศึกษามีผลกระทบทั้งผู้บริหารและนักวิจัยเกี่ยวกับโหมดและเนื้อหาของการสื่อสารในความสัมพันธ์ของ B2Bความสำคัญของสื่อสารที่เกิดจากการทำหน้าที่ในการประสานงานสถานีกิจกรรม (แอนเดอร์สันและ Narus 1984 Mohr และ Nevin 2533), เพิ่มความเชื่อถือ และความมุ่งมั่น (มอร์แกนและล่า 1994), เปิดใช้งานตัดสินใจเชือด เพิ่มบวกอารมณ์ (แอนเดอร์สันและ Narus 1990 Mohr และ Spekman 1994), ขับค่าแบรนด์6ระบุความต้องการของลูกค้า (ดันแคนและ Moriarty 1998), และการลดความไม่แน่นอน(Moriarty และ Spekman 1984) เพิ่มระดับของการสื่อสารช่วยในการพัฒนาของกลุ่มผลประโยชน์ (Peters และเฟล็ตเชอร์ 2004) และเปลี่ยนโฟกัสของแลกเปลี่ยนจากทรานแซคชันการเพิ่มเติมเชิง (Mohr Nevin 1990) ตาม Groonroos (1996)โต้ตอบเป็นชุดของกิจกรรมร่วมที่ใช้ในความสัมพันธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยนี้เป็นการศึกษาผลกระทบของการสื่อสารโต้ตอบในธุรกิจ tobusiness
(B2B) ความสัมพันธ์
ในทศวรรษที่ผ่านมาอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นรูปแบบของการสื่อสารที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในตลาดผู้บริโภคและธุรกิจ. การวาดภาพบนช่องทางการตลาดและวรรณกรรมสื่อสารบทความนี้ระบุขนาดของการสื่อสารโต้ตอบและพัฒนากรอบทฤษฎีที่จะตรวจสอบผลกระทบต่อความพึงพอใจของความมุ่งมั่นและการสนับสนุน สื่อบังเอิญทฤษฎีและแนวคิดของอินเทอร์เน็ตเป็นทางเลือกให้กับโลกแห่งความจริงที่จะใช้ในการแยกความแตกต่างระหว่างโหมดดิจิตอลและไม่ใช่ดิจิตอลของการสื่อสาร ความสัมพันธ์การตลาดจะใช้เพื่อระบุขนาดของการติดต่อสื่อสาร: เหตุผลทางสังคมปฏิสัมพันธ์ความหนาแน่นของการติดต่อและความคิดเห็นซึ่งกันและกัน กรอบการพัฒนาถูกนำมาใช้ในการสำรวจอิทธิพลของใบหน้าเพื่อใบหน้า (F2F) ที่ดิจิตอลและแบบดั้งเดิมที่ไม่มีตัวตนการสื่อสารในมิติของการติดต่อสื่อสาร. สมมติฐานการเชื่อมโยงโหมดของการสื่อสาร: ส่วนบุคคลดิจิตอลและตัวตนที่มีขนาดของการติดต่อสื่อสาร และผลลัพธ์ที่สัมพันธ์มีการตรวจสอบสังเกตุที่มีข้อมูลจากการพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมการออกแบบกราฟิก. การวิเคราะห์องค์ประกอบยืนยันจะใช้ในการวิเคราะห์การวัดและรูปแบบโครงสร้าง. ส่วนบุคคลการสื่อสาร F2F มีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งกันและกันข้อเสนอแนะและจำนวนของรายชื่อผู้ติดต่อ การสื่อสารแบบดิจิตอลมีผลกระทบเหล่านี้ปรับตัวลดลงในขนาดและการสื่อสารที่ไม่มีตัวตนมีผลกระทบที่อ่อนแอที่สุด ดิจิตอลส่วนบุคคลและมีผลกระทบเท่ากันบนเหตุผลและเหตุผลเป็นเพียงมิติของการติดต่อสื่อสารความสัมพันธ์เชิงบวกกับความพึงพอใจความสัมพันธ์ ความหนาแน่นของการติดต่อที่มีผลกระทบในทางลบต่อความพึงพอใจของความสัมพันธ์และผลกระทบเชิงลบนี้เป็นส่วนบุคคลมากขึ้นด้วยการสื่อสารที่จะมีดิจิตอล ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะนำไปสู่อารมณ์การสนับสนุนในช่อง B2B แต่ความไว้วางใจและความมุ่งมั่น calculative ไม่มีผลกระทบต่อการสนับสนุน ผลการศึกษาที่มีความหมายสำหรับผู้บริหารและนักวิจัยเกี่ยวกับโหมดและเนื้อหาของการสื่อสารในความสัมพันธ์ B2B. สำคัญสื่อสารเกิดจากฟังก์ชั่นในการประสานงานช่องทางกิจกรรม (แอนเดอนารัส 1984; Mohr และ Nevin 1990) เพิ่มขึ้นความไว้วางใจและความมุ่งมั่น( มอร์แกนและล่า 1994) ที่ช่วยให้การตัดสินใจที่มีเหตุผลเพิ่มบวกอารมณ์(แอนเดอนารัส 1990; Mohr และ Spekman 1994) ขับรถมูลค่าแบรนด์, 6 การระบุความต้องการของลูกค้า (ดันแคนและอริอาร์ตี้ 1998) และลดความไม่แน่นอน(อริอาร์ตี้และ Spekman 1984) ระดับที่เพิ่มขึ้นของความช่วยเหลือในการติดต่อสื่อสารในการพัฒนาของผลประโยชน์กลุ่ม (ปีเตอร์และเฟล็ทเชอ 2004) และเปลี่ยนจุดเน้นของการแลกเปลี่ยนจากการทำธุรกรรมมากขึ้นสัมพันธ์(Mohr และ Nevin 1990) ตามที่ Groonroos (1996) การทำงานร่วมกันเป็นชุดของกิจกรรมร่วมกันที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาผลกระทบของการสื่อสารแบบโต้ตอบบน
ตามธุรกิจ ( B2B ) ความสัมพันธ์ ในทศวรรษที่ผ่านมาอินเทอร์เน็ตและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อสังคม
เป็นโหมดของการสื่อสารมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในตลาดผู้บริโภคและธุรกิจ .
รูปวาดในช่องทางการตลาดและวรรณคดีการสื่อสารกระดาษนี้ระบุ
มิติของการสื่อสารและพัฒนาแนวคิดเชิงทฤษฎีเพื่อตรวจสอบผลกระทบ
ต่อความพึงพอใจ ความผูกพันและการสนับสนุน . สื่อ Synchronicity
ทฤษฎีและแนวคิดของอินเทอร์เน็ตเป็นทางเลือกที่โลกจริงจะใช้ในการแยกความแตกต่างระหว่างดิจิตอลและดิจิตอล
ไม่ใช่โหมดของการสื่อสาร การตลาดความสัมพันธ์
ถูกใช้เพื่อระบุขนาดของการติดต่อสื่อสาร :ความมีเหตุผล , การปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
ติดต่อความหนาแน่น และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กรอบการพัฒนาใช้
เพื่อศึกษาอิทธิพลของแบบตัวต่อตัว ( คำย่อของ face-to-face ) , ดิจิตอลและแบบดั้งเดิม ในมิติของการสื่อสารที่



และการเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสาร โหมดของการสื่อสารส่วนบุคคล , ดิจิตอลกับที่กับมิติของการติดต่อสื่อสารและผลเชิงสัมพันธ์จะใช้ตรวจสอบกับข้อมูลที่ได้จากการพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมการออกแบบกราฟิก .
การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันจะใช้เพื่อวิเคราะห์การวัดและโมเดลโครงสร้าง .
ส่วนบุคคลการสื่อสารคำย่อของ face-to-face ได้ผลกระทบมากที่สุดการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งกันและกัน
ติชม และหมายเลขของผู้ติดต่อการสื่อสารดิจิตอลมีแข็งแกร่งมีผลต่อมิติเหล่านี้
และการสื่อสารที่ได้ผล อ่อนแอมาก ส่วนบุคคลและดิจิตอล
กระทบเท่าบนเหตุผลและเหตุผลเป็นมิติเดียวของการติดต่อสื่อสาร
ความสัมพันธ์เชิงบวกกับความพึงพอใจในความสัมพันธ์ . ติดต่อความหนาแน่นมีผลกระทบทางลบต่อความพึงพอใจในความสัมพันธ์และผลกระทบเชิงลบนี้เป็นมากกว่าเรื่องส่วนบุคคล
การสื่อสารที่เป็นดิจิตอล ผลการศึกษาพบว่า ความมุ่งมั่นทางอารมณ์ นำไปสู่การสนับสนุนในช่องทาง B2B แต่ความไว้วางใจและความมุ่งมั่นผลประโยชน์ไม่มีผลกระทบต่อ
การสนับสนุน . ผลการศึกษามีข้อเสนอแนะทั้งผู้จัดการและนักวิจัย
เกี่ยวกับโหมดและเนื้อหาของการสื่อสารในความสัมพันธ์ B2B .

ความสำคัญของการสื่อสารเกิดจากการทำงานของมันในช่อง
กิจกรรมประสานงาน ( Anderson และ narus 1984 ; มอร์ เนวิน และ 1990 ) , เพิ่มความน่าเชื่อถือและ
ความมุ่งมั่น ( มอร์แกนและล่า 1994 ) ช่วยในการตัดสินใจที่มีเหตุผล เพิ่มอารมณ์ทางบวก
( Anderson และ narus 1990 และ 1994 ; มอร์ spekman ) ทำให้มูลค่าของแบรนด์
6
ระบุ ความต้องการของลูกค้า ( ดันแคนกับมอริอาตี้ 1998 )และลดความไม่แน่นอน
( มอริอาตี้ และ spekman 1984 ) ระดับที่เพิ่มขึ้นของความช่วยเหลือการสื่อสารในการพัฒนา
ผลประโยชน์กลุ่ม ( ปีเตอร์และเฟล็ทเชอร์ 2004 ) และเปลี่ยนโฟกัสของแลกเปลี่ยนจากการสัมพันธ์มากขึ้น ( Mohr
กับเนวินและ 1990 ) ตาม groonroos ( 1996 )
) คือชุดของการร่วมกิจกรรมนั้นเกิดขึ้นในความสัมพันธ์