After Japan's defeat in World War I

After Japan's defeat in World War II, Deng traveled to Chongqing, the city in which Chiang Kai-shek established his government during the blue Japanese invasion, to participate in peace talks between the Kuomintang and the Communist Party. The results of those negotiations were not positive and military confrontation between the two antagonistic parties resumed shortly after the meeting in Chongqing.

While Chiang Kai-shek re-established the government in Nanjing, the capital of the Republic of China, the Communists were fighting for control in the field. Following up with guerrilla tactics from their positions in rural areas against cities under the control of the government of Chiang and their supply lines, the Communists were increasing the territory under their control, and incorporating more and more soldiers who had deserted the Nationalist army.

In the final phase of the war, Deng again exercised a key role as political leader and propaganda master as Political Commissar of the 2nd Field Army commanded by Liu Bocheng. He also participated in disseminating the ideas of Mao Zedong, which turned into the ideological foundation of the Communist Party. His work in political and ideological work, along with his status as a veteran of the Long March, placed him in a privileged position within the party to occupy positions of power after the Communist Party managed to defeat Chiang Kai-shek and found the People's Republic of China.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากการพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง เต็งเดินทางไปจุงกิง เมืองที่เจียงไคเชกก่อตั้งรัฐบาลของเขาในระหว่างการรุกรานญี่ปุ่นสีฟ้า มีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์ ผลการเจรจาที่ไม่บวก และดำเนินการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างสองฝ่ายที่เป็นปรปักษ์ต่อหลังจากการประชุมในจุงกิงในขณะที่เจียงไคเชกสร้างรัฐบาลในหนานจิง เมืองหลวงของสาธารณรัฐจีน คอมมิวนิสต์ต่อสู้เพื่อควบคุมในฟิลด์ การติดตาม ด้วยยุทธวิธีกองโจรจากตำแหน่งของพวกเขาในชนบทกับเมืองภายใต้การควบคุมของรัฐบาลของเชียงใหม่และบรรทัดการจัดหา คอมมิวนิสต์เพิ่มดินแดนภายใต้การควบคุมของพวกเขา และเพจทหารมาก ขึ้นที่มีร้างกองทัพชาตินิยมในขั้นตอนสุดท้ายของสงคราม เต็งอีกใช้มีบทบาทสำคัญเป็นผู้นำทางการเมืองและหลักการโฆษณาชวนเชื่อเป็น Commissar ทางการเมืองของกองทัพฟิลด์ 2 สั่งหลิว Bocheng เขายังร่วมในการเผยแพร่ความคิดของเหมาเจ๋อตง ซึ่งเป็นรากฐานอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ งานของเขาในทางการเมือง และอุดมการณ์ได้ พร้อมกับสถานะของเขาเป็นทหารผ่านศึกของยาวเดือนมีนาคม ที่เขาวางในตำแหน่งที่มีสิทธิ์การครอบครองตำแหน่งอำนาจหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จัดการเพื่อความพ่ายแพ้ของเจียงไคเชก และพบสาธารณรัฐประชาชนจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สองเติ้งเดินทางไปยังฉงชิ่งเมืองที่เจียงไคเชกการจัดตั้งรัฐบาลของเขาในช่วงที่ญี่ปุ่นบุกสีฟ้าจะมีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพระหว่างก๊กมินตั๋และพรรคคอมมิวนิสต์ ผลของการเจรจาเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในเชิงบวกและการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกลับมาไม่นานหลังจากการประชุมในฉงชิ่งในขณะที่เจียงไคเชกอีกครั้งจัดตั้งรัฐบาลในหนานจิงซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐจีนคอมมิวนิสต์กำลังต่อสู้เพื่อ การควบคุมในสนาม ติดตามด้วยการใช้กลยุทธ์การรบแบบกองโจรจากตำแหน่งของพวกเขาในพื้นที่ชนบทกับเมืองภายใต้การควบคุมของรัฐบาลของจังหวัดและเส้นอุปทานของพวกเขาคอมมิวนิสต์ได้เพิ่มขึ้นในดินแดนภายใต้การควบคุมของพวกเขาและการใช้มาตรการทหารมากขึ้นและอื่น ๆ ที่ได้ร้างกองทัพไต้หวันใน ขั้นตอนสุดท้ายของสงครามเติ้งอีกครั้งใช้สิทธิจะมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำทางการเมืองและการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองเป็นหลักผู้บังคับการตำรวจของกองทัพสนามที่ 2 ได้รับคำสั่งจากหลิว Bocheng นอกจากนี้เขายังมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ความคิดของเหมาเจ๋อตงซึ่งกลายเป็นรากฐานอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ ผลงานของเขาในการทำงานและอุดมการณ์ทางการเมืองพร้อมกับสถานะของเขาเป็นทหารผ่านศึกจากยาวมีนาคม, เขาวางไว้ในตำแหน่งที่ได้รับการยกเว้นภายในพรรคจะครอบครองตำแหน่งที่มีอำนาจหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์สามารถเอาชนะเจียงไคเชกและพบสาธารณรัฐประชาชน ของประเทศจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง เติ้งไปฉงชิ่ง เมืองที่เจียงไคเช็กก่อตั้งรัฐบาลของเขาในระหว่างการรุกรานญี่ปุ่น สีฟ้า ที่จะเข้าร่วมในการเจรจาสันติภาพระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์ผลของการเจรจาที่ไม่เผชิญหน้าบวกและการทหารระหว่างสองฝ่ายปฏิปักษ์ต่อหลังจากการประชุมในฉงชิ่ง .

ขณะที่เจียงไคเช็ก Re ก่อตั้งรัฐบาลในนานกิง เมืองหลวงของสาธารณรัฐจีน คอมมิวนิสต์กำลังต่อสู้เพื่อควบคุมภาคสนามติดตามกับกองโจรกลยุทธ์จากตำแหน่งในชนบทกับเมืองภายใต้การควบคุมของรัฐบาลของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และเส้นอุปทานของพวกเขา พวกคอมมิวนิสต์ถูกเพิ่มดินแดนภายใต้การควบคุมของพวกเขาและกลายเป็นมากขึ้นและทหารที่มีร้างกองทัพชาตินิยม

ในช่วงสุดท้ายของสงครามเติ้งอีกออกกำลังกายสำคัญในฐานะผู้นำทางการเมือง และการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองของทหารเอาตัวต้นแบบ 2 สนาม นำโดย หลิว bocheng . เขายังได้ร่วมในการเผยแพร่แนวความคิดของ เหมา เจ๋อตงซึ่งกลายเป็นรากฐานของอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ งานของเขาในทางการเมืองและอุดมการณ์ทำงานพร้อมกับสถานะของเขาเป็นทหารผ่านศึกของเดือนมีนาคมที่ยาวเขาอยู่ในตำแหน่งที่มีสิทธิพิเศษภายในพรรคเพื่อครอบครองตำแหน่งของพลังงาน หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จัดการหั่นเจียงไคเช็ก และพบ สาธารณรัฐประชาชนจีน