are more likely to trip over their

are more likely to trip over their words and unintentionally use filler language like “um” to draw out the conversation as they struggle to concoct a believable story or to remember a prefabricated narrative. “This is something that is hard to control,” explains Mihalcea. “When you are thinking about what you are going to say, the words are rational and logical to convince other people of what you want to in dialogue. But the other sounds, you can’t control as much,” and they may inevitably slip out despite a liar’s best attempt otherwise.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีแนวโน้ม การใช้บริการมากกว่าพวกตั้งใจใช้ฟิลเลอร์ภาษาเช่น "อึม" เพื่อถอนการสนทนาพวกเขาต่อสู้ เพื่อ concoct เรื่องราวเชื่อ หรือจำมาจากเรื่องเล่า prefabricated "นี่คือสิ่งที่ยากที่จะควบคุม อธิบาย Mihalcea "เมื่อคุณคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะพูด คำได้เหตุผล และตรรกะที่พยายามชักจูงคนอื่น ๆ สิ่งที่คุณต้องการในการเจรจา แต่เสียงอื่น ที่ไม่สามารถควบคุม มากที่สุด"และพวกเขาอาจย่อมออกแม้ มีการโกหกสุดความพยายามอื่นใด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีแนวโน้มที่จะเดินทางมากกว่าคำพูดของพวกเขาและไม่ได้ตั้งใจใช้ภาษาฟิลเลอร์เช่น "หนอ" การวาดออกมาสนทนาในขณะที่พวกเขาต่อสู้เพื่อกุเรื่องเป็นเรื่องที่เชื่อหรือที่จะจำเรื่องเล่าสำเร็จรูป "นี่เป็นสิ่งที่ยากที่จะควบคุม" Mihalcea อธิบาย "เมื่อคุณกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะบอกว่าคำพูดที่มีเหตุผลและตรรกะที่จะโน้มน้าวให้คนอื่น ๆ ของสิ่งที่คุณต้องการในการเจรจา แต่เสียงอื่น ๆ ที่คุณไม่สามารถควบคุมได้มาก "และพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่อาจลื่นออกมาแม้จะมีความพยายามที่ดีที่สุดของคนโกหกมิฉะนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีแนวโน้มที่จะสะดุดคำพูดของพวกเขาและตั้งใจใช้ภาษาเหมือนตัว " อืม " วาดออกมาจากการสนทนาที่พวกเขาต่อสู้เพื่อเสกสรรเรื่องราวน่าเชื่อถือหรือจำรูปเรื่องเล่า " นี่เป็นสิ่งที่ยากที่จะควบคุม " อธิบาย mihalcea . " เมื่อคุณคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะพูดคำพูดที่มีเหตุผลและตรรกะที่จะโน้มน้าวให้คนอื่น ๆสิ่งที่คุณต้องการ ในการสนทนา แต่เสียงอื่น ๆที่คุณไม่สามารถควบคุมมาก และพวกเขาอาจย่อมออกมาแม้จะมีความพยายามที่ดีที่สุดของคนโกหกอย่างอื่น