The purpose of this study was to de

The purpose of this study was to determine the status
of risk management in secondary school physical education
programs in Tennessee. One hundred and sixty secondary
school physical education department chairs were surveyed
through the use of a questionnaire. A national panel of
experts validated the instrument. Fifty-nine physical
education department chairs responded, representing a
response of 37.0%.
The study was divided into four sections: (1)
demographics, (2) risk management procedures related to
facilities and equipment, (3) risk management procedures
related to the physical education program, and (4) risk
management procedures related to medical standards and
practices. Frequencies and percentages of responses to the
questions were analyzed and reported. Chi-square analysis
was used to determine differences between some responses.
The findings from the investigation revealed that the
majority of all public and private secondary schools in
Tennessee have a specific person responsible for risk
management in physical education. There were no respondents
in this study who had been found guilty of negligence in a
court of law, nor had any been formally accused of
negligence. There were significant differences between
public and private schools in regard to some items on the
questionnaire. The results indicated that public schools
formally addressed more physical education risk management
issues than private schools. Conclusions and
recommendations were made based on information acquired from
the administration of this study.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ กำหนดสถานะการบริหารความเสี่ยงในมัธยมพลศึกษาโปรแกรมในเทนเนสซี หนึ่งร้อย และหกรองเก้าอี้กรมพลศึกษาโรงเรียนได้สำรวจโดยใช้แบบสอบถาม แผงของชาติผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือ จริงห้าสิบเก้าตอบการศึกษาแผนกเก้าอี้ การแทนตอบ 37.0%การศึกษาได้แบ่งออกเป็นสี่ส่วน: (1)ข้อมูลประชากร, (2) กระบวนการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ ขั้นตอนการบริหารความเสี่ยง (3)เกี่ยวข้องกับโปรแกรมพลศึกษา และความเสี่ยง (4)กระบวนการจัดการที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานทางการแพทย์ และปฏิบัติการ เปอร์เซ็นต์ของคำตอบและความถี่ในการคำถามที่วิเคราะห์ และรายงาน วิเคราะห์ chi-squareถูกใช้เพื่อกำหนดความแตกต่างระหว่างคำตอบบางอย่างเปิดเผยผลการวิจัยจากการสอบสวนที่ส่วนใหญ่ของโรงเรียนการศึกษาทั้งหมด และเอกชนในเทนเนสซีมีบุคคลรับผิดชอบความเสี่ยงการจัดการในพลศึกษา มีผู้ตอบไม่ในการศึกษานี้ที่ได้พบความละเลยในการศาล ไม่มีใด ๆ อย่างเป็นกิจจะลักษณะถูกกล่าวหาของละเลยการ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างรัฐและโรงเรียนเอกชนเรื่องการแบบสอบถาม ระบุผลที่โรงเรียนอย่างเป็นกิจจะลักษณะอยู่เสี่ยงพลศึกษาเพิ่มเติมปัญหากว่าโรงเรียนเอกชน บทสรุป และคำแนะนำทำตามข้อมูลที่ได้มาจากในการจัดการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบสถานะ
ของการบริหารความเสี่ยงในโรงเรียนมัธยมการศึกษาทางกายภาพ
โปรแกรมในรัฐเทนเนสซี หนึ่งร้อยหกสิบมัธยม
โรงเรียนเก้าอี้กรมพลศึกษาได้ทำการสำรวจ
โดยใช้แบบสอบถาม แผงชาติของ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบเครื่องมือ ห้าสิบเก้ากายภาพ
เก้าอี้แผนกการศึกษาการตอบสนองที่เป็นตัวแทนของ
การตอบสนองของ 37.0%.
การศึกษาได้แบ่งออกเป็นสี่ส่วนคือ (1)
กลุ่มผู้เข้าชม (2) วิธีการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ
สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ (3) วิธีการบริหารความเสี่ยง
ที่เกี่ยวข้องกับการ โปรแกรมการศึกษาทางกายภาพและ (4) ความเสี่ยง
ขั้นตอนการจัดการที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานทางการแพทย์และ
การปฏิบัติ ความถี่และร้อยละของการตอบสนองต่อ
คำถามที่ถูกวิเคราะห์และรายงาน การวิเคราะห์ไคสแควร์
ถูกใช้ในการตรวจสอบความแตกต่างระหว่างการตอบสนองบาง.
ผลการวิจัยจากการตรวจสอบพบว่า
ส่วนใหญ่ของทุกโรงเรียนมัธยมของรัฐและเอกชนใน
รัฐเทนเนสซีมีบุคคลที่ระบุความรับผิดชอบสำหรับความเสี่ยง
ในการจัดการศึกษาทางกายภาพ มีผู้ตอบแบบสอบถามไม่ได้
ในการศึกษาครั้งนี้ผู้ที่ได้รับพบว่ามีความผิดจากความประมาทใน
การพิจารณาของศาลและไม่ได้รับการกล่าวหาใด ๆ อย่างเป็นทางการของ
ความประมาท มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง
โรงเรียนรัฐและเอกชนในเรื่องบางรายการใน
แบบสอบถาม ผลการศึกษาพบว่าโรงเรียนของรัฐ
อย่างเป็นทางการที่กายมากขึ้นการบริหารความเสี่ยงการศึกษา
ปัญหามากกว่าโรงเรียนเอกชน ข้อสรุปและ
ข้อเสนอแนะที่ถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของข้อมูลที่ได้มาจาก
การบริหารงานของการศึกษาครั้งนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการบริหารความเสี่ยงในโปรแกรมการศึกษา

ทางโรงเรียนมัธยมในเทนเนสซี หนึ่งร้อยหกสิบสังกัดกรมพลศึกษา

โรงเรียนเก้าอี้สํารวจโดย ใช้แบบสอบถาม แผงแห่งชาติ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือ . ห้าสิบเก้าทางกายภาพ
กรมเก้าอี้แทน
ตอบการตอบสนองของเพิ่ม %
การศึกษาแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ( 1 )
ประชากร ( 2 ) ความเสี่ยงการจัดการกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับ
เครื่องและอุปกรณ์ ( 3 ) กระบวนการบริหารความเสี่ยง
ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมการศึกษาทางกายภาพและ ( 4 ) ความเสี่ยงการจัดการกระบวนการมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และ
) ความถี่และร้อยละของการตอบสนองต่อ
คำถาม วิเคราะห์และรายงาน
การวิเคราะห์ไคสแควร์ถูกใช้เพื่อกำหนดความแตกต่างระหว่างการตอบสนอง .
จากผลการสืบสวนพบว่าส่วนใหญ่ของภาครัฐและเอกชน

โรงเรียนมัธยมในเทนเนสซีมีเฉพาะบุคคล รับผิดชอบบริหารความเสี่ยง
ทางพลศึกษา ไม่มีผู้ตอบ
ในการศึกษาที่ได้รับการพบความผิดของการละเลยใน
ศาลของกฎหมายหรือมีอะไรอย่างที่ถูกกล่าวหาว่า
ความประมาท มีความแตกต่างระหว่าง
โรงเรียนรัฐและเอกชนในเรื่องสินค้าบางอย่างบน
แบบสอบถาม ผลการวิจัยพบว่า โรงเรียน
อย่างเป็นทางการทางกายภาพมากขึ้นความเสี่ยงการจัดการแก้ไขปัญหามากกว่า
โรงเรียนเอกชน ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ คือ ได้จากข้อมูล

ได้มาจากการบริหารจัดการศึกษา