The aim of this study was to assess

The aim of this study was to assess the contents of indigo’s bioactive compounds, its antioxidant and anticancer activities in acetone, hexane and DMSO extracts and to compare the overall bioactivity with another more used medicinal plant named prolipid. It was found that the contents of the bioactive com-pounds in the studied extracts from different parts of indigo plant varied (P < 0.05): the significantly highest content of polyphenols and flavonoids was in DMSO extract of prolipid, flavanols – in acetone extract of brown seeds (P < 0.05 in both cases) and tannins – in DMSO extract of green leaves, but not sig-nificantly (P > 0.05). Also the level of antioxidant activity was different: the highest antioxidant activity of all studied samples was in prolipid: according to ABTS, FRAP and CUPRAC tests in DMSO extract (P < 0.05 in all 3 cases), and only in acetone extract according to DPPH was not significant (P > 0.05). The correla-tions between polyphenol compounds and the antioxidant activities were relatively high. DPPH kinetic measurements were used to compare and distinguish the antiradical activity among indigo extracts by multivariate analysis. The FT-IR spectroscopy evaluated the presence of polyphenols. The interaction between DMSO polyphenol extracts of indigo plant and BSA showed that indigo has a strong ability as other medicinal plants such as prolipid to quench the intrinsic fluorescence of BSA by forming complexes and was measured by 3-dimensional fluorescence (3D-FL). The highest anticancer activity was in pro-lipid in concentrations of 800 g/mL against Calu-6, following by indigo brown leaves. In conclusion, organic extracts of indigo brown leaves were analyzed for their antioxidant and anticancer activities and compared with prolipid, using polyphenols composition, antioxidant activities and fluorescence prop-erties. The indigo ability to quench the intrinsic fluorescence of BSA, relatively high content of phenolic compounds and anticancer properties can be used as medicinal plant. © 2012 Published by Elsevier B.V.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ประเมินเนื้อหาของสารกรรมการกของอินดิโก้ กิจกรรม anticancer ในอะซิโตน เฮกเซน และ DMSO และสารต้านอนุมูลอิสระของสารสกัด และการเปรียบเทียบทางชีวภาพโดยรวมกับพืชสมุนไพรขึ้นใช้อีกชื่อ prolipid พบว่า เนื้อหาของ com-ปอนด์กรรมการกในสารสกัด studied จากส่วนต่าง ๆ ของพืชครามแตกต่างกัน (P < 0.05): เป็นเนื้อหาอย่างมีนัยสำคัญสูงสุดของโพลีฟีนและ flavonoids ใน DMSO สารสกัดของ prolipid, flavanols – ในอะซีโตนสารสกัดของเมล็ดสีน้ำตาล (P < 0.05 ในทั้งสองกรณี) และ tannins – ใน DMSO แยกของใบไม้สีเขียว แต่ไม่ sig nificantly (P > 0.05) ยัง กิจกรรมต้านอนุมูลอิสระในระดับไม่แตกต่างกัน: กิจกรรมต้านอนุมูลอิสระสูงสุดอย่าง studied ทั้งหมดอยู่ใน prolipid: แยกตามรเรียน CUPRAC และ FRAP ทดสอบใน DMSO (P < 0.05 ในทุกกรณี 3), และเฉพาะในอะซีโตน สารสกัดตาม DPPH ไม่สำคัญ (P > 0.05) Correla-tions ระหว่างกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระและสาร polyphenol ค่อนข้างสูง DPPH เดิม ๆ วัดได้ใช้ในการเปรียบเทียบ และแยกกิจกรรม antiradical ระหว่างสารสกัดจากคราม โดยวิเคราะห์ตัวแปรพหุ ก FT-IR ประเมินสถานะของโพลีฟีน การโต้ตอบระหว่าง DMSO polyphenol สารสกัดพืชครามและบีเอสเอพบว่า อินดิโก้มีความแข็งแรงเป็นยาอื่น ๆ พืชดังกล่าวเป็น prolipid เพื่อแก้ fluorescence intrinsic ของบีเอสเอ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการขึ้นรูปถูกวัด fluorescence 3 มิติ (3D-FL) กิจกรรม anticancer สูงสุดอยู่ในกระบวนการสนับสนุนในความเข้มข้นของ 800 g/mL กับ Calu-6 ต่อ ด้วยใบครามสีน้ำตาล เบียดเบียน สารสกัดอินทรีย์ของใบครามสีน้ำตาลถูกวิเคราะห์สารต้านอนุมูลอิสระและกิจกรรม anticancer และเปรียบเทียบกับองค์ประกอบของโพลี prolipid ใช้ กิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระ และ fluorescence prop erties อินดิโก้สามารถดับ fluorescence intrinsic ของบีเอสเอ ม่อฮ่อมและคุณสมบัติ anticancer เนื้อหาค่อนข้างสูงสามารถใช้เป็นพืชสมุนไพร © 2012 เผยแพร่ โดย Elsevier b.v

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการประเมินเนื้อหาของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพครามของกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็งในอะซีโตนเฮกเซนและสารสกัด DMSO และเปรียบเทียบทางชีวภาพโดยรวมอีกด้วยพืชสมุนไพรที่ใช้มากขึ้นชื่อ prolipid พบว่าเนื้อหาของปอนด์คอมออกฤทธิ์ทางชีวภาพในการศึกษาสารสกัดจากส่วนต่างๆของพืชสีครามที่แตกต่างกัน (P <0.05) อย่างมีนัยสำคัญเนื้อหาสูงสุดของโพลีฟีนและ flavonoids อยู่ใน DMSO สารสกัดจาก prolipid, flavanols - ในสารสกัดจากอะซิโตนของ เมล็ดสีน้ำตาล (P <0.05 ในทั้งสองกรณี) และแทนนิน - ใน DMSO สารสกัดจากใบสีเขียว แต่ไม่ sig-nificantly (P> 0.05) นอกจากนี้ยังมีระดับของสารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกัน: สารต้านอนุมูลอิสระที่สูงที่สุดของกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาทั้งหมดอยู่ใน prolipid: ตาม ABTS, FRAP และการทดสอบ CUPRAC ในสารสกัด DMSO (P <0.05 ทั้ง 3 ราย) และเฉพาะในสารสกัดจากอะซิโตนตาม DPPH ไม่ได้มีนัยสำคัญ (P> 0.05) correla tions ระหว่างสารประกอบโพลีฟีนและกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระที่มีค่อนข้างสูง DPPH วัดการเคลื่อนไหวถูกนำมาใช้ในการเปรียบเทียบและเห็นความแตกต่างในหมู่กิจกรรม antiradical สารสกัดครามโดยการวิเคราะห์หลายตัวแปร สเปกโทรสโก FT-IR ประเมินการปรากฏตัวของโพลีฟีน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารสกัด DMSO โพลีฟีนของพืชสีครามและแสดงให้เห็นว่าบีเอสเอครามมีความสามารถที่แข็งแกร่งเป็นพืชสมุนไพรอื่น ๆ เช่น prolipid เพื่อดับเรืองแสงที่แท้จริงของบีเอสเอโดยการสร้างคอมเพล็กซ์และได้รับการวัดจากการเรืองแสง 3 มิติ (3D ฟลอริดา) กิจกรรมต้านมะเร็งสูงที่สุดอยู่ในโปรไขมันในระดับความเข้มข้น 800 กรัม / มิลลิลิตรกับ Calu-6 ต่อไปนี้โดยครามใบสีน้ำตาล สรุปได้ว่าสารสกัดอินทรีย์ครามใบสีน้ำตาลวิเคราะห์สำหรับกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็งของพวกเขาและเมื่อเทียบกับ prolipid โดยใช้องค์ประกอบของโพลีฟีนกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระและการเรืองแสง prop-erties ความสามารถที่จะดับครามเรืองแสงที่แท้จริงของบีเอสเอเนื​​้อหาที่ค่อนข้างสูงของสารประกอบฟีนอลและคุณสมบัติต้านมะเร็งที่สามารถใช้เป็นพืชสมุนไพร © 2012 เผยแพร่โดย Elsevier BV

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เพื่อประเมินเนื้อหาของครามเป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ , กิจกรรมต้านมะเร็งในเฮกเซนและ DMSO สารสกัดอะซีโตน และเพื่อเปรียบเทียบการใช้พืชสมุนไพรรวมกับอีกชื่อ prolipid . พบว่าเนื้อหาของปอนด์ด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในการศึกษาสารสกัดจากส่วนต่างๆของต้นครามที่แตกต่างกัน ( P < 0.05 )เนื้อหาที่สำคัญสูงสุดของโพลีฟีนและ flavonoids ใน DMSO สารสกัดจาก prolipid flavanols , และสารสกัดของเมล็ดสีน้ำตาล ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) ในทั้งสองกรณี ) และแทนนินใน DMSO สารสกัดใบเขียว แต่ไม่ใช่ sig nificantly อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P > 0.05 ) นอกจากนี้ ระดับสารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกัน : สูงสุดของสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรมการศึกษาใน prolipid Abbr : ตาม ,VDO และการทดสอบใน DMSO สารสกัด cuprac อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ในทั้ง 3 กรณี ) และเท่านั้น ) แยกตาม dpph อย่างมีนัยสำคัญ ( P > 0.05 ) การ correla tions ระหว่างสารประกอบโพลีฟีนอล สารต้านอนุมูลอิสระ และกิจกรรมมีค่อนข้างสูง dpph จลนศาสตร์การวัดเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกิจกรรมและอนุภาคขนาดเล็กพิเศษสารสกัดสีครามโดยการวิเคราะห์หลายตัวแปรโดย FT-IR spectroscopy ประเมินสถานะของโพลีฟีน . ปฏิสัมพันธ์ระหว่างโพลีฟีนอล สารสกัดจากต้นครามและ DMSO BSA แสดงว่าครามมีความสามารถที่แข็งแรงเป็นพืชสมุนไพรอื่นๆ เช่น prolipid ดับเรืองแสงในประเทศโดยการขึ้นรูป 3 มิติเชิงซ้อนและวัดด้วยการเรืองแสง ( 3d-fl )กิจกรรมต้านมะเร็งมากที่สุด คือ โปร ค่าความเข้มข้นของ 800 กรัม / มิลลิลิตรต่อ calu-6 ตามด้วยสีครามใบสีน้ำตาล สรุป อินทรีย์สารสกัดจากใบคราม สีน้ำตาล วิเคราะห์สารต้านอนุมูลอิสระ และต้านมะเร็งต่างๆ เมื่อเทียบกับ prolipid โดยใช้โพลีองค์ประกอบ ฤทธิ์การต้านออกซิเดชันและการประกอบ erties .สีครามสามารถดับการแท้จริงของบีเอสเอ เนื้อหาค่อนข้างสูงของสารประกอบฟีนอลิกและคุณสมบัติต้านมะเร็งสามารถใช้เป็นพืชสมุนไพร สงวนลิขสิทธิ์ 2012 ที่ตีพิมพ์โดยเอลส์เท่า