On 23 June 2010, after meetings thr

On 23 June 2010, after meetings throughout the evening between Gillard and Prime Minister Kevin Rudd, as well as factional leaders, Rudd addressed the waiting media at 10:30 pm AEST and announced that Gillard had asked him to hold a leadership ballot in the 115-member caucus the following day to determine the leadership of the Labor Party and hence the prime ministership of Australia.

Rudd initially said he would challenge Gillard at the caucus. However, it soon became apparent that he didn't have enough support to fend off Gillard's challenge. Hours before the vote, he stood aside as leader and ended his candidacy, leaving Gillard to take the leadership unopposed. At the same caucus meeting, Treasurer Wayne Swan was elected unopposed to succeed Gillard as Labor's deputy leader, and hence Deputy Prime Minister.

Shortly afterward, Gillard was sworn in as the 27th Prime Minister of Australia by the Governor-General, Quentin Bryce, and Wayne Swan was sworn in as her deputy. The other members of Kevin Rudd's ministry, except Rudd himself, became the remaining members of the First Gillard Ministry.

Later that day, in her first press conference as Prime Minister, she said that at times the Rudd Government "went off the tracks", and "I came to the view that a good Government was losing its way". She also said that she wouldn't move into The Lodge unless she was elected Prime Minister in her own right, preferring to divide her time between a flat in Canberra and her home in Altona, a western suburb of Melbourne. She eventually moved into The Lodge on 26 September 2010.

As well as being the first woman and the first who has never been married, Gillard is the first Prime Minister since Billy Hughes (1915–1923) to have been born overseas.

In the aftermath of the leadership challenge, Bill Shorten, former trade union leader, and key Parliamentary member of the ALP Right Faction, nominated the government's handling of the insulation program; the sudden announcement of change of policy on the Carbon Pollution Reduction Scheme; and the way in which they had "introduced the debate" about the Resource Super Profits Tax as the key considerations which had led to a shift in support from Kevin Rudd to Julia Gillard as leader of the party.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บน 23 2010 มิถุนายน หลังการประชุมตลอดทั้งเย็นระหว่างอย่าง และนายกรัฐมนตรี Kevin รัด ตลอดจนผู้ นำ factional รัดส่งสื่อรอเวลา 10:30 น. AEST และประกาศว่า อย่างได้ขอให้เขาค้างลงคะแนนความเป็นผู้นำในคอคัสสมาชิก 115 วันต่อไปนี้เพื่อกำหนดความเป็นผู้นำพรรคแรงงาน และด้วยเหตุนี้ ministership นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย รัดเริ่มต้นกล่าวเขาจะท้าทายอย่างที่ในคอคัส อย่างไรก็ตาม มันจนกลายเป็นชัดว่า ไม่ได้มีเพียงพอสนับสนุนเพื่อปัดเป่าปิดของอย่างท้าทาย ชั่วโมงก่อนลงคะแนน เขายืนเฉยเป็นผู้นำ และสิ้นสุดของ candidacy ออกอย่างจะนำ unopposed ในการประชุมเดียวกันของคอคัส สวอน Wayne เหรัญญิกได้รับเลือก unopposed ประสบความสำเร็จอย่างเป็นหัวหน้าของแรงงาน และด้วยเหตุนี้รองนายกรัฐมนตรี ในไม่ช้าหลังจากนั้น อย่างที่สาบานในการเป็นนายกรัฐมนตรี 27 ของออสเตรเลีย โดย Governor-General เควนตินไบร์ซ และ Wayne สวอนได้สาบานในการเป็นรองของเธอ สมาชิกคนอื่น ๆ ของ Kevin รัดกระทรวง ยกเว้นรัดตัวเอง เป็น สมาชิกที่เหลือของกระทรวงอย่างแรก ภายหลังวันที่ ในเธอแรกแถลงข่าวเป็นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บางครั้งรัฐบาลรัด "ออกไปแทร็ค" และ "ผมมาดูที่รัฐบาลดีไม่แพ้ทาง" เธอยังกล่าวว่า เธอจะไม่ย้ายไปเดอะลอดจ์เว้นแต่เธอได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในสิทธิของตนเอง พลุกพล่านแบ่งเวลาระหว่างแบนในแคนเบอร์ราและ Altona ปริมณฑลตะวันตกของบ้านของเธอของเธอ เธอก็ย้ายเข้าเดอะลอดจ์ 26 กันยายน 2553 ตลอดจนเป็นผู้หญิงคนแรกและครั้งแรกที่ไม่ได้แต่ง อย่างจะแรกนายกรัฐมนตรีตั้งแต่บิลลี่ฮิวจ์ส (1915-1923) ได้เกิดต่างประเทศ ผลพวงของการเป็นผู้นำ ท้าทาย ตั๋ว Shorten ผู้นำอดีตสหภาพ สมาชิกรัฐสภาที่สำคัญของฝ่ายขวาแอลป์ และเสนอการจัดการของรัฐบาลรายการฉนวนกันความร้อน ประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายในแผนการลดคาร์บอนมลพิษ ฉับพลัน และวิธีที่พวกเขามี "นำการอภิปราย" เกี่ยวกับภาษีกำไรซูเปอร์ทรัพยากรเป็นการพิจารณาที่สำคัญที่มีกะสนับสนุนจาก Kevin รัดกับจูเลียอย่างเป็นผู้นำของพรรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันที่ 23 มิถุนายน 2010 หลังจากการประชุมตลอดช่วงเย็นระหว่างกิลลาร์และนายกรัฐมนตรีเควินรัดด์เช่นเดียวกับผู้นำเห็นแก่รัดด์จ่าหน้าสื่อรออยู่ที่ 10:30 AEST และประกาศว่ากิลลาร์ได้ขอให้เขาลงคะแนนเสียงถือเป็นผู้นำใน 115 -Member คองเกรสในวันรุ่งขึ้นเพื่อตรวจสอบความเป็นผู้นำของพรรคแรงงานและด้วยเหตุนี้นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย. รัดด์ครั้งแรกบอกว่าเขาจะท้าทายกิลลาร์ที่พรรคการเมือง แต่มันก็กลายเป็นที่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รับการสนับสนุนมากพอที่จะปัดเป่าปิดความท้าทายของกิลลาร์ ชั่วโมงก่อนที่จะลงคะแนนเสียงที่เขายืนอยู่กันในฐานะผู้นำและสิ้นสุดวันที่ผู้สมัครของเขาออกจากกิลลาร์ที่จะใช้ความเป็นผู้นำค้าน ในการประชุมพรรคเดียวกันเหรัญญิกเวย์นสวอนได้รับการเลือกตั้งค้านจะประสบความสำเร็จกิลลาร์เป็นรองหัวหน้าแรงงานและด้วยเหตุนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง. หลังจากนั้นไม่นานกิลลาร์สาบานว่าในฐานะที่ 27 นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียโดยผู้ว่าราชการทั่วไป, เควนตินไบรซ์และ เวย์นสวอนสาบานว่าในฐานะรองผู้อำนวยการของเธอ สมาชิกคนอื่น ๆ ของกระทรวงเควินรัดด์ของยกเว้นรัดด์ตัวเองกลายเป็นสมาชิกที่เหลือของกิลลาร์ครั้งแรกที่กระทรวง. หลังจากวันนั้นในการแถลงข่าวครั้งแรกของเธอในฐานะนายกรัฐมนตรีเธอบอกว่าในช่วงเวลาที่รัฐบาลรัดด์ "ออกไปแทร็ค" และ "ฉันมาถึงมุมมองที่รัฐบาลที่ดีได้รับการสูญเสียทาง" เธอยังบอกว่าเธอจะไม่ย้ายเข้าไปลอดจ์ถ้าเธอได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในสิทธิของเธอเลือกที่จะแบ่งเวลาของเธอระหว่างแบนในแคนเบอร์ราและบ้านของเธอในอัลโต, ชานเมืองทางตะวันตกของเมลเบิร์น ในที่สุดเธอก็ย้ายเข้ามาอยู่ลอดจ์ในวันที่ 26 เดือนกันยายน 2010 เช่นเดียวกับการเป็นผู้หญิงคนแรกและเป็นครั้งแรกที่ได้ไม่เคยแต่งงาน, กิลลาร์เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่บิลลี่ฮิวจ์ส (1915-1923) จะได้รับการเกิดในต่างประเทศ. จีพีเอส ของความท้าทายความเป็นผู้นำบิลร่นผู้นำสหภาพแรงงานอดีตสมาชิกรัฐสภาที่สำคัญของฝ่าย ALP ขวาเสนอชื่อเข้าชิงการจัดการของรัฐบาลของโปรแกรมฉนวนกันความร้อน; ประกาศอย่างฉับพลันของการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการลดมลพิษคาร์บอนโครงการ; และวิธีการที่พวกเขาได้ "แนะนำการอภิปราย" เกี่ยวกับภาษีซูเปอร์ทรัพยากรกำไรเป็นพิจารณาที่สำคัญซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในการสนับสนุนจากเควินรัดด์จะจูเลียกิลลาร์ดในฐานะผู้นำของพรรคที่