The Palatine gleamed in the sunligh

The Palatine gleamed in the sunlight as she set out with a full crew, a long list of passengers, and a hull full of merchandise for the American Colonies the winter of 1750-1751. Certainly, there was no indication that morning of the destiny fate had in store for her.

It was not until the first of the storms blew the ship off course that the passengers began to sense the trouble brewing under the surface between the captain and his crew. By the time the storms had ended, the captain was dead, murdered by his crew, and the passengers were prisoners. During the days which followed, the sailors forced the passengers to pay exorbitant prices for a bit of bread and some water to drink.

One morning, the passengers awoke to find that the crew had stolen all of their money and stores and had abandoned the ship. Terrified, they could do nothing but ride out the next series of storms sent by the devils which rule the Atlantic in winter.

The Palatine came to ruin just off of Block Island. The shore folk bravely faced the storm to rescue the starving passengers from the wreck. Then they set fire to the ship so that it would not endanger any passing ships. But as the ship burned, the shore folk heard a wild scream. A mad woman, confined on the ship during the voyage, had been left on board!

Every year since then, on the day of the tragedy, the Palatine reappears off the shore and is wrecked and burned before the eyes of any who watch for her.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพดานปากประกายในแสงแดดในขณะที่เธอออกไปกับทีมเต็มรูปแบบรายการยาวของผู้โดยสารและเรือที่เต็มไปด้วยสินค้าเพื่ออาณานิคมอเมริกันช่วงฤดู​​หนาว 1750-1751 แน่นอนมีข้อบ่งชี้ในตอนเช้าของโชคชะตาโชคชะตาที่มีในร้านสำหรับเธอ.

มันไม่ได้จนกว่าแรกของพายุพัดเรือออกนอกเส้นทางที่ผู้โดยสารเริ่มที่จะรู้สึกเบียร์ปัญหาภายใต้พื้นผิวระหว่างกัปตันและลูกเรือของเขา ตามเวลาที่พายุจบกัปตันตายฆ่าโดยลูกเรือของเขาและผู้โดยสารเป็นนักโทษ ในช่วงวันที่ตามลูกเรือถูกบังคับให้ผู้โดยสารที่จะจ่ายราคาแพงเกินไปสำหรับบิตของขนมปังและน้ำดื่มบาง.

เช้าวันหนึ่งผู้โดยสารตื่นขึ้นมาพบว่าลูกเรือได้ขโมยเงินทั้งหมดของและร้านค้าของพวกเขาและได้ละทิ้งเรือ กลัวพวกเขาจะทำอะไร แต่นั่งออกชุดต่อไปของพายุส่งโดยปีศาจซึ่งกฎแอตแลนติกในช่วงฤดู​​หนาว.

เพดานปากมาทำลายเพียงแค่ออกจากบล็อกเกาะ พื้นบ้านชายฝั่งอย่างกล้าหาญเผชิญหน้ากับพายุที่จะช่วยเหลือผู้โดยสารที่หิวโหยจากการก่อวินาศกรรม แล้วพวกเขาก็จุดไฟเผาเรือเพื่อที่ว่ามันจะไม่เป็นอันตรายต่อเรือผ่านใด ๆ แต่ในขณะที่เรือเผาพื้นบ้านชายฝั่งได้ยินเสียงกรีดร้องป่า เป็นผู้หญิงที่บ้าถูกคุมขังอยู่บนเรือระหว่างการเดินทางที่ถูกทิ้งไว้บนกระดาน

! ทุกปีตั้งแต่นั้นมาในวันที่ของโศกนาฏกรรมที่เพดานปากโผล่ออกจากฝั่งและอับปางและเผาต่อหน้าต่อตาของใด ๆ ที่ดูสำหรับเธอ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Palatine ที่ gleamed ในแสงแดดเธอตั้งออกเรือเต็ม รายการยาวของผู้โดยสาร และตัวเรือที่เต็มไปด้วยสินค้าในอาณานิคมอเมริกันฤดูหนาวของ 1750-1751 แน่นอน มีข้อบ่งชี้ไม่ว่า เช้าของโชคชะตาโชคชะตาที่มีในร้านเธอ

จนกว่าที่แรกพายุได้พัดเรือปิดหลักสูตรที่ผู้โดยสารเริ่มสัมผัสปัญหาในที่ทำการหมักภายใต้พื้นผิวระหว่างกัปตันและลูกเรือของเขา ไม่ได้ โดยเวลาสิ้นสุดลงในพายุ กัปตันตาย ฆาตกรรม โดยลูกเรือของเขา และผู้โดยสารถูกนักโทษ ในระหว่างวันซึ่งตาม ชาวเรือบังคับผู้โดยสารชำระราคาด้วยการขนมปังและน้ำให้ดื่ม

เช้าวันหนึ่ง ผู้โดยสารที่ตื่นขึ้นมาพบว่า เรือมีขโมยเงินและร้านค้าของพวกเขาทั้งหมด และได้แข่งขันเรือ คนกลัว พวกเขาสามารถทำอะไรแต่นั่งออกชุดถัดไปของพายุที่ส่ง โดยปีศาจซึ่งปกครองมหาสมุทรแอตแลนติกในฤดูหนาวได้

Palatine มาทำลายเพียงออกจากเกาะบล็อก พื้นฝั่งอย่างกล้าหาญเผชิญพายุเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสาร starving จากความพินาศ แล้ว ก็ตั้งไฟไปเรือจะอันตรายต่อเรือผ่านใด ๆ แต่ เป็นเรือ เขียน ชายฝั่งพื้นบ้านได้ยินเสียงกรีดร้องป่า ผู้หญิงบ้า ถูกขังบนเรือระหว่างเดินทาง ได้ถูกทิ้งบนเรือ!

ทุกปีตั้งแต่นั้น ในวันของโศกนาฎกรรม Palatine reappears ออกจากฝั่ง และจนอับปางลง และเขียนก่อนตาของผู้ชมสำหรับเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพดานที่ส่องแสงวาวในแสงอาทิตย์ที่ที่เธอตั้งค่าออกมาพร้อมด้วยลูกเรือเต็มที่รายการของผู้โดยสารและตัวเรือที่ครบครันของสินค้าสำหรับชาวอเมริกันอาณานิคมที่ฤดูหนาวของ 1750-1751 แน่นอนว่าไม่มีการแสดงให้เห็นว่าช่วงเช้าของชะตากรรมชะตาชีวิตที่มีในที่จัดเก็บสำหรับเธอ.

มันเป็นไม่ได้จนกว่าครั้งแรกของพายุฝนฟ้าคะนองที่พัดเรือออกจากหลักสูตรที่ผู้โดยสารที่เริ่มในความรู้สึกที่มีปัญหาการต้มใต้พื้นระหว่างกัปตันและลูกเรือของเขา โดยช่วงเวลาที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองที่จะสิ้นสุดลงผู้กองเป็นคนตายถูกฆ่าตายโดยลูกเรือของเขาและคนโดยสารที่เป็นนักโทษ ในระหว่างช่วงวันที่ตามด้วยกะลาสีเรือที่ถูกบังคับให้ผู้โดยสารที่ต้องชำระราคามากเกินไปใช่หรือไม่?สำหรับบิตของขนมปังและน้ำบางส่วนสำหรับการดื่ม.

เช้าวันหนึ่งคนโดยสารที่ตื่นขึ้นมาพบว่าลูกเรือที่ได้ถูกขโมยและจัดเก็บเงินของพวกเขาทั้งหมดและมีเรือที่ถูกทอดทิ้ง ตื่นกลัวจะทำอะไรแต่การเดินทางออกจากชุดถัดไปของพายุฝนฟ้าคะนองส่งโดยพวก ภู ตผีปีศาจซึ่งกฎข้อที่แอตแลนติกในช่วงฤดูหนาว.

เพดานที่เข้ามาทำลายอยู่ถัดจากอาคารของเกาะ ชาวบ้านริมฝั่งที่กล้าหาญต้องเผชิญกับพายุที่เข้าไปช่วยเหลือผู้โดยสารที่หิวโซจากเรืออับปาง จากนั้นก็ตั้งค่าไฟเพื่อไปยังเรือเพื่อที่มันจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือผ่านใดๆ แต่เป็นเรือที่เผาชาวบ้านริมฝั่งที่ได้ยินเสียงกรีดร้องป่า ผู้หญิงคนนั้นคลั่งไคล้ที่ถูกกักตัวอยู่บนเรือในระหว่างการเดินทางที่ได้รับไปทางซ้ายบนบอร์ด!

ทุกปีนับตั้งแต่แล้วในวันที่ของโศกนาฏกรรมที่เพดานที่ปรากฏขึ้นอีกครั้งจากฝั่งและอับปางและเผาก่อนตาของผู้ที่รับชมสำหรับเธอแล้ว.