1. The value of an item. Inexpensiv

1. The value of an item. Inexpensive items will tend to have higher tolerances than the expensive ones.
2. The frequency and volume of usage. Items used more frequently will be more subject to error.
3. The lead-time. Shorter lead times can mean higher tolerances.
4. The criticality of an item. More critical items require lower tolerances or possibly zero tolerance. For example, items at
higher levels in the bill are more likely to be shipment stoppers; therefore, they may have lower tolerances.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1.มูลค่าของสินค้า สินค้าราคาไม่แพงจะมักจะ มีการยอมรับสูงกว่ามีราคาแพง2. ความถี่และปริมาณการใช้ รายการที่ใช้บ่อยจะ มีข้อผิดพลาดเพิ่มเติม3. lead-time เวลารอคอยสินค้าสั้นอาจหมายถึง การยอมรับสูง4.ประการที่สามคือสินค้า สินค้าสำคัญมากต้องยอมรับลดลงหรืออาจเป็นศูนย์การยอมรับ ตัวอย่าง สินค้าที่ระดับที่สูงขึ้นในมีแนวโน้มที่จะ จัดส่งจุก ดังนั้น พวกเขาอาจยอมรับต่ำกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. มูลค่าของรายการ รายการที่ราคาถูกจะมีแนวโน้มที่จะมีความคลาดเคลื่อนสูงกว่าคนที่มีราคาแพง.
2 ความถี่และปริมาณการใช้งาน รายการที่ใช้บ่อยครั้งมากขึ้นจะต้องมีมากขึ้นที่จะเกิดข้อผิดพลาด.
3 นำเวลา เวลานำสั้นอาจหมายถึงความคลาดเคลื่อนสูง.
4 วิกฤตของรายการ รายการที่สำคัญมากขึ้นจำเป็นต้องมีความคลาดเคลื่อนต่ำกว่าหรืออาจจะเป็นศูนย์ความอดทน ตัวอย่างเช่นรายการใน
ระดับที่สูงขึ้นในการเรียกเก็บเงินที่มีแนวโน้มที่จะมีการจัดส่ง stoppers; ดังนั้นพวกเขาอาจจะมีความคลาดเคลื่อนต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . มูลค่าของสินค้า สินค้าไม่แพงมักจะมีความอดทนสูงกว่าราคาแพง .
2 ความถี่และปริมาณของการใช้ รายการที่ใช้บ่อยจะมีการผิดพลาด .
3 รอคอยเวลา สั้นนำครั้งสามารถหมายถึงความอดทนสูงกว่า .
4 วิกฤตของรายการ รายการที่สำคัญ ต้องใช้ความอดทนต่ำ หรืออาจจะศูนย์ความอดทน ตัวอย่าง สินค้าที่
ระดับที่สูงขึ้นในรายการจะจัดส่ง stoppers ; ดังนั้นจึงอาจมีความคลาดเคลื่อนต่ำกว่า