We investigated motorcycle rider de

We investigated motorcycle rider death rates between states with full motorcycle helmet laws and those without. This was done using both unadjusted bivariate analyses and multivariate random-effects generalized least squares regression models of rider death rates. Multivariate models were adjusted for the competing influences of several explanatory variables, including the existence of a motorcycle helmet law. From 1994 to 1996, states with helmet laws experienced a median death rate of 6.20 riders per 10 000 registered motorcycles and states without helmet laws experienced a median death rate of 5.07 riders per 10 000 registered motorcycles (P=0.008). After controlling for other factors that affect motorcycle rider fatalities (most notably population density and temperature), death rates in states with full helmet laws were shown to be lower on average than deaths rates in states without full helmet laws (P=0.740). Our study weakens the claim that rider death rates are significantly lower in states without full motorcycle helmet laws.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราตรวจสอบอัตราตายขี่รถจักรยานยนต์ระหว่างอเมริกากฎหมายหมวกนิรภัยมอเตอร์ไซค์เต็มและผู้ที่ไม่ นี้ทำโดยใช้วิเคราะห์ bivariate ได้ปรับและตัวแปรพหุผลสุ่มทั่วไปอัตราการตายของไรเดอร์รุ่นถดถอยกำลังสองน้อยสุด รูปแบบตัวแปรพหุถูกปรับสำหรับการแข่งขันอิทธิพลของตัวแปรอธิบายหลาย รวมทั้งการดำรงอยู่ของกฎหมายรถจักรยานยนต์หมวกกันน็อค จากปี 1994 ถึงปี 1996 อเมริกากฎหมายหมวกนิรภัยที่มีประสบการณ์อัตราตายเฉลี่ย 6.20 ขี่ต่อ 10 000 จดทะเบียนรถจักรยานยนต์ และอเมริกา โดยกฎหมายหมวกนิรภัยพบอัตราการตายเฉลี่ยของผู้ขับขี่ 5.07 ต่อ 10 000 จดทะเบียนรถจักรยานยนต์ (P = 0.008) หลังจากควบคุมสำหรับปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต (สะดุดตาที่สุดประชากรความหนาแน่นและอุณหภูมิ), อัตราการตายในอเมริกากฎหมายหมวกนิรภัยเต็มถูกแสดงจะลดลงเฉลี่ยกว่าอัตราตายในอเมริกาโดยกฎหมายหมวกนิรภัยเต็ม (P = 0.740) ศึกษาของเราอ่อนตัวอ้างว่า อัตราการตายของไรเดอร์อยู่ต่ำในอเมริกาโดยกฎหมายหมวกนิรภัยมอเตอร์ไซค์เต็ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราตรวจสอบอัตราการตายขับขี่รถจักรยานยนต์ระหว่างรัฐกับกฎหมายรถจักรยานยนต์หมวกกันน็อกเต็มรูปแบบและผู้ที่ไม่มี นี้ทำโดยใช้ทั้งสองตัวแปรเท็มเพลตวิเคราะห์และหลายตัวแปรสุ่มผลทั่วไปอย่างน้อยรุ่นสี่เหลี่ยมถดถอยของอัตราการตายของไรเดอร์ รุ่นหลายตัวแปรมีการปรับสำหรับการแข่งขันอิทธิพลของตัวแปรอธิบายหลายแห่งรวมถึงการดำรงอยู่ของกฎหมายรถจักรยานยนต์หมวกกันน็อก จาก 1994-1996, สหรัฐอเมริกาที่มีกฎหมายหมวกกันน็อกที่มีประสบการณ์อัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยของผู้ขับขี่ 6.20 ต่อ 10 000 จดทะเบียนรถจักรยานยนต์และรัฐโดยไม่ต้องกฎหมายหมวกกันน็อกที่มีประสบการณ์อัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยของผู้ขับขี่ 5.07 ต่อ 10 000 จดทะเบียนรถจักรยานยนต์ (p = 0.008) หลังจากควบคุมปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์ (ที่สุดความหนาแน่นของประชากรและอุณหภูมิ) อัตราการตายในรัฐที่มีกฎหมายหมวกกันน็อกเต็มรูปแบบที่มีการแสดงที่จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอัตราการเสียชีวิตในรัฐโดยไม่ต้องกฎหมายหมวกกันน็อคแบบเต็มรูปแบบ (p = 0.740) การศึกษาของเราอ่อนตัวอ้างว่าอัตราการตายของไรเดอร์ที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญในรัฐโดยไม่ต้องกฎหมายหมวกกันน็อคแบบเต็มรูปแบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราตรวจสอบอัตราผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตระหว่างรัฐกับกฎหมายหมวกนิรภัยรถจักรยานยนต์ทั้งหมด และผู้ที่ไม่มี . นี้ได้ใช้ทั้งการวิเคราะห์ถดถอยแบบหลายตัวแปรและยังคงลักษณะ Generalized Least Squares Regression แบบของอัตราการเสียชีวิตของผู้ขับขี่ เมื่อทำการปรับรุ่นสำหรับการแข่งขันอิทธิพลของตัวแปรอธิบายหลายแห่งรวมถึงการดำรงอยู่ของรถจักรยานยนต์หมวกกันน็อกกฎหมาย จากปี 1994 ถึง 1996 รัฐกับกฎหมายหมวกนิรภัยที่มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยของ 6.20 คนต่อ 10   000 จดทะเบียนรถจักรยานยนต์และรัฐไม่มีกฎหมายหมวกนิรภัยที่มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยของ 17 คนต่อ 10   000 จดทะเบียนรถจักรยานยนต์ ( p = 0.008 ) หลังจากควบคุมปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ( ส่วนใหญ่ยวด ประชากรหนาแน่นและอุณหภูมิ ) , อัตราการเสียชีวิตในสหรัฐอเมริกามีกฎหมายหมวกนิรภัยเต็มแสดงให้ลดลงในอัตราเฉลี่ยมากกว่าเสียชีวิตในรัฐไม่มีกฎหมายหมวกนิรภัยเต็ม ( P = 0.740 ) การศึกษาของเราอ่อนแอลง อ้างว่า อัตราการตายจะลดลงในสหรัฐอเมริกา โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กฎหมายเต็มหมวก