Action of silver nanoparticles on m

Action of silver nanoparticles on microbes
The exact mechanism which silver nanoparticles employ
to cause antimicrobial effect is not clearly known and is
a debated topic. There are however various theories on
the action of silver nanoparticles on microbes to cause
the microbicidal effect.
Silver nanoparticles have the ability to anchor to the bacterial
cell wall and subsequently penetrate it, thereby causing
structural changes in the cell membrane like the
permeability of the cell membrane and death of the cell.
There is formation of ‘pits’ on the cell surface, and there is
accumulation of the nanoparticles on the cell surface [3].
The formation of free radicals by the silver nanoparticles
may be considered to be another mechanism by which the
cells die. There have been electron spin resonance spectroscopy
studies that suggested that there is formation of
free radicals by the silver nanoparticles when in contact
with the bacteria, and these free radicals have the ability to
damage the cell membrane and make it porous which can
ultimately lead to cell death [4,5].
It has also been proposed that there can be release of
silver ions by the nanoparticles [6], and these ions can
interact with the thiol groups of many vital enzymes and
inactivate them [7]. The bacterial cells in contact with
silver take in silver ions, which inhibit several functions
in the cell and damage the cells. Then, there is the generation
of reactive oxygen species, which are produced
possibly through the inhibition of a respiratory enzyme
by silver ions and attack the cell itself. Silver is a soft
acid, and there is a natural tendency of an acid to react
with a base, in this case, a soft acid to react with a soft
base [8]. The cells are majorly made up of sulfur and
phosphorus which are soft bases. The action of these
nanoparticles on the cell can cause the reaction to take
place and subsequently lead to cell death. Another fact
is that the DNA has sulfur and phosphorus as its major
components; the nanoparticles can act on these soft
bases and destroy the DNA which would definitely lead
to cell death [9]. The interaction of the silver nanoparticles
with the sulfur and phosphorus of the DNA can
lead to problems in the DNA replication of the bacteria
and thus terminate the microbes.
It has also been found that the nanoparticles can
modulate the signal transduction in bacteria. It is a wellestablished
fact that phosphorylation of protein substrates
in bacteria influences bacterial signal transduction.
Dephosphorylation is noted only in the tyrosine
residues of gram-negative bacteria. The phosphotyrosine
profile of bacterial peptides is altered by the nanoparticles.
It was found that the nanoparticles dephosphorylate
the peptide substrates on tyrosine residues, which leads
to signal transduction inhibition and thus the stoppage
of growth. It is however necessary to understand that
further research is required on the topic to thoroughly
establish the claims

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดำเนินการเก็บกักเงินในจุลินทรีย์กลไกที่แน่นอนซึ่งเก็บกักเงินจ้างทำจุลินทรีย์ ผลยังไม่ชัดเจนรู้จัก และเป็นหัวข้อ debated มีหลากหลายอย่างไรก็ตามทฤษฎีในการเก็บกักเงินในจุลินทรีย์ทำให้เกิดการดำเนินการลักษณะพิเศษของ microbicidalเก็บกักเงินมีความสามารถในการยึดกับแบคทีเรียผนังเซลล์ และต่อมาบุก มันจึงก่อให้เกิดเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ต้องการpermeability ของเยื่อเซลล์และการตายของเซลล์มีการก่อตัวของ "หลุม" บนผิวเซลล์ และมีสะสมของเก็บกักบนพื้นผิวเซลล์ [3]การก่อตัวของอนุมูลอิสระโดยการเก็บกักเงินอาจถือว่าเป็น กลไกอื่น ๆ ซึ่งการเซลล์ตาย มีอิเล็กตรอนหมุนสั่นพ้องกการศึกษาที่แนะนำไว้ว่า มีการก่อตัวของอนุมูลอิสระ โดยการเก็บกักเงินในผู้ติดต่อมีแบคทีเรีย และอนุมูลอิสระเหล่านี้มีความสามารถในการเยื่อหุ้มเซลล์เสียหาย และทำให้ porous สามารถที่ในที่สุด ทำให้เซลล์ตาย [4,5]มันได้ถูกเสนอว่า อาจมีการกันเงิน โดยเก็บกัก [6], และประจุเหล่านี้สามารถโต้ตอบกับกลุ่ม thiol เอนไซม์สำคัญมาก และยกพวกเขา [7] เซลล์แบคทีเรียติดต่อด้วยใช้เงินในเงินกัน ยับยั้งหลายฟังก์ชันในเซลล์ และทำลายเซลล์ แล้ว เป็นรุ่นที่มีพันธุ์ ออกซิเจนปฏิกิริยาที่มีผลิตอาจผ่านการยับยั้งเอนไซม์ทางเดินหายใจโดยการกันเงินและโจมตีเซลล์เอง เงินมีความกรด และมีแนวโน้มตามธรรมชาติของกรดมีการตอบสนองมีฐาน ในกรณีนี้ กรดอ่อนเพื่อตอบสนองกับความฐาน [8] เซลล์ majorly มีซัลเฟอร์ และฟอสฟอรัสซึ่งนุ่มฐาน การดำเนินการเหล่านี้เก็บกักในเซลล์อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาการสถานที่ และในเวลาต่อมาทำให้เซลล์ตาย ข้อเท็จจริงอื่นดีเอ็นเอมีกำมะถันและฟอสฟอรัสเป็นหลักของส่วนประกอบ เก็บกักสามารถดำเนินการกับเหล่านี้อ่อนฐาน และทำลายดีเอ็นเอที่จะแนะนำเซลล์ตาย [9] การโต้ตอบเก็บกักเงินกำมะถันและฟอสฟอรัสของดีเอ็นเอนำไปสู่ปัญหาในการจำลองดีเอ็นเอของแบคทีเรียและจึง จบการทำงานของจุลินทรีย์ก็ยังพบว่า สามารถเก็บกักที่modulate transduction สัญญาณในแบคทีเรีย เป็นการ wellestablishedข้อเท็จจริงว่า phosphorylation ของโปรตีนได้ในแบคทีเรียมีผลต่อสัญญาณแบคทีเรีย transductionDephosphorylation จะกล่าวเฉพาะใน tyrosineการตกค้างของเชื้อแบคทีเรียแบคทีเรียแกรมลบ Phosphotyrosineโปรไฟล์ของเปปไทด์จากแบคทีเรียมีการเปลี่ยนแปลง โดยการเก็บกักพบว่า การเก็บกัก dephosphorylateได้เพปไทด์บน tyrosine ตก ซึ่งการยับยั้งสัญญาณ transduction จึงหยุดการเจริญเติบโต มันเป็นอย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าเพิ่มเติม งานวิจัยจำเป็นต้องใช้ในหัวข้อการทำสร้างการเรียกร้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกระทำของอนุภาคนาโนเงินจุลินทรีย์กลไกที่แน่นอนซึ่งอนุภาคเงินจ้างที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อยาต้านจุลชีพที่ไม่เป็นที่รู้จักได้อย่างชัดเจนและเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกัน มี แต่ทฤษฎีต่างๆเกี่ยวกับการกระทำของอนุภาคนาโนเงินจุลินทรีย์ที่จะทำให้เกิดผลกระทบmicrobicidal ได้. อนุภาคนาโนซิลเวอร์มีความสามารถในการยึดกับแบคทีเรียผนังเซลล์และต่อมาเจาะมันจึงก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในเยื่อหุ้มเซลล์เช่นการซึมผ่านของเซลล์เมมเบรนและการตายของเซลล์. มีการก่อตัวของ 'หลุม' บนผิวเซลล์และมีการสะสมของอนุภาคนาโนบนพื้นผิวเซลล์[3]. การก่อตัวของอนุมูลอิสระโดยอนุภาคเงินอาจจะถือว่าเป็นกลไกอื่นโดยที่เซลล์ตาย มีการสปินสเปกโทรสโกด้วยคลื่นอิเล็กตรอนการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่ามีการก่อตัวของอนุมูลอิสระโดยอนุภาคเงินเมื่อสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียและอนุมูลอิสระเหล่านี้มีความสามารถที่จะสร้างความเสียหายให้เยื่อหุ้มเซลล์และทำให้มันมีรูพรุนซึ่งสามารถที่สุดนำไปสู่เซลล์ตาย [4,5]. นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอว่าจะมีการเปิดตัวของไอออนเงินโดยอนุภาคนาโน [6] และไอออนเหล่านี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มthiol ของเอนไซม์ที่สำคัญจำนวนมากและยับยั้งพวกเขา[7] เซลล์แบคทีเรียในการติดต่อกับเงินใช้เวลาในการไอออนเงินซึ่งยับยั้งการหลายฟังก์ชั่นในเซลล์และความเสียหายของเซลล์ จากนั้นมีการสร้างของออกซิเจนซึ่งมีการผลิตอาจจะผ่านการยับยั้งเอนไซม์ทางเดินหายใจโดยไอออนเงินและโจมตีเซลล์ของตัวเอง เงินเป็นนุ่มกรดและมีแนวโน้มตามธรรมชาติของกรดในการตอบสนองที่มีฐานในกรณีนี้กรดอ่อนเพื่อทำปฏิกิริยากับนุ่มฐาน[8] เซลล์ที่ทำ majorly ขึ้นของกำมะถันและฟอสฟอรัสซึ่งเป็นฐานที่อ่อนนุ่ม การกระทำของเหล่านี้อนุภาคนาโนในเซลล์สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาที่จะใช้สถานที่และต่อมานำไปสู่การตายของเซลล์ ความจริงอีกประการหนึ่งคือการที่ดีเอ็นเอมีกำมะถันและฟอสฟอรัสที่สำคัญเป็นองค์ประกอบ อนุภาคนาโนที่สามารถทำหน้าที่เกี่ยวกับการอ่อนเหล่านี้ฐานและทำลายดีเอ็นเอซึ่งแน่นอนจะนำไปสู่การตายของเซลล์[9] การทำงานร่วมกันของอนุภาคนาโนเงินกับกำมะถันและฟอสฟอรัสของดีเอ็นเอสามารถนำไปสู่ปัญหาในการจำลองดีเอ็นเอของแบคทีเรียและทำให้ยุติจุลินทรีย์. มันยังได้รับพบว่าอนุภาคนาโนสามารถปรับสัญญาณในแบคทีเรีย มันเป็น wellestablished ความจริงที่ว่า phosphorylation ของพื้นผิวโปรตีนในแบคทีเรียที่มีอิทธิพลต่อสัญญาณแบคทีเรีย. dephosphorylation ตั้งข้อสังเกตเฉพาะในซายน์ตกค้างของแบคทีเรียแกรมลบ phosphotyrosine รายละเอียดของเปปไทด์ของเชื้อแบคทีเรียมีการเปลี่ยนแปลงโดยอนุภาคนาโน. พบว่าอนุภาคนาโน dephosphorylate พื้นผิวเปปไทด์ในตกค้างซายน์ซึ่งนำไปสู่การส่งสัญญาณการยับยั้งพลังงานและทำให้การสกัดกั้นการเจริญเติบโต แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะเข้าใจว่าการวิจัยต่อไปจะต้องมีเรื่องอย่างทั่วถึงสร้างการเรียกร้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การกระทำของอนุภาคเงินต่อจุลินทรีย์ในกลไกที่แน่นอน

ซึ่งอนุภาคเงินจ้างให้ผลต้านจุลชีพไม่ชัดเจนเป็นที่รู้จักและมีการอภิปรายหัวข้อ อย่างไรก็ตาม การกระทำต่าง ๆทฤษฎี
อนุภาคเงินต่อจุลินทรีย์ในเหตุผล microbicidal
.
อนุภาคเงินมีความสามารถในการยึดกับผนังเซลล์แบคทีเรีย
และต่อมาเจาะมันจึงก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ เช่น
การซึมผ่านของเยื่อเซลล์และการตายของเซลล์
มีการก่อตัวของ ' หลุม ' บนผิวเซลล์ และมีการสะสมของอนุภาคนาโน
บนผิวเซลล์ [ 3 ] .
การก่อตัวของอนุมูลอิสระ โดยอนุภาคเงิน
อาจ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลไกที่
เซลล์ตายมีเทคนิคอิเล็กตรอนสปินเรโซแนนซ์
การศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่ามีการก่อตัวของอนุมูลอิสระ โดยอนุภาคนาโนเงิน

เมื่อสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรีย และอนุมูลอิสระเหล่านี้มีความสามารถ
เสียหายเยื่อหุ้มเซลล์ และให้มันมีรูพรุนซึ่งสามารถ
ในที่สุดนำไปสู่การตายของเซลล์ [ 4 , 5 ] .
มันได้ยัง ได้เสนอว่า สามารถปล่อย
โดยอนุภาคนาโนซิลเวอร์ไอออน [ 6 ] และไอออนเหล่านี้สามารถ
โต้ตอบกับขนาดกลุ่มของเอนไซม์ที่สำคัญมาก และทำให้พวกเขา
[ 7 ] เซลล์แบคทีเรียสัมผัสกับ
เงินใช้ในเงินไอออนซึ่งยับยั้ง
หลายหน้าที่ในเซลล์ และทำลายเซลล์ แล้วมีรุ่น
ของชนิดออกซิเจนปฏิกิริยาที่ผลิต
อาจจะผ่านการยับยั้งเอนไซม์การหายใจของ
โดยเงินไอออนและการโจมตีเซลล์นั่นเอง เงินเป็นกรดอ่อน
และมีนิสัยธรรมชาติของกรดโต้กลับ
กับฐาน ในกรณีนี้ การทำปฏิกิริยากับกรดอ่อนเบสอ่อน
[ 8 ] เซลล์มีการเข้มงวดขึ้นของกำมะถัน และ ฟอสฟอรัส ซึ่งจะนิ่ม
เบส การกระทำของอนุภาคเหล่านี้
บนเซลล์สามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ใช้
สถานที่และต่อมาทำให้เซลล์ตายได้ ข้อเท็จจริงอื่น
คือว่าดีเอ็นเอมีกำมะถันและฟอสฟอรัส เป็นส่วนประกอบหลัก
; นาโนสามารถทำบนฐานนุ่ม
เหล่านี้และทำลายดีเอ็นเอ ซึ่งจะนำ
กับการตายของเซลล์ [ 9 ] ปฏิกิริยาของอนุภาคเงิน
กับกำมะถันและฟอสฟอรัสของดีเอ็นเอสามารถ
นำไปสู่ปัญหาในดีเอ็นเอของแบคทีเรียและจุลินทรีย์จึงยุติ
.
ก็ยังได้รับพบว่าอนุภาคนาโนสามารถ
ปรับสัญญาณพลังงานในแบคทีเรีย มันเป็น wellestablished
ที่ว่า ฟอสโฟริเลชันของโปรตีนในแบคทีเรียพื้นผิว
อิทธิพลการแปรสัญญาณแบคทีเรีย .
ดีฟอ ฟริเลชันไว้ในซีน
ตกค้างของแบคทีเรียแกรมลบ การ phosphotyrosine
โปรไฟล์ของแบคทีเรีย เปปไทด์ คือการเปลี่ยนแปลงโดย
อนุภาคพบว่า อนุภาคนาโน dephosphorylate
ดพื้นผิวที่ตกค้างแต่อย่างใด ซึ่งทำให้สัญญาณการยับยั้งและจึงผ่าน

หยุดการเจริญเติบโต มันเป็น แต่ต้องเข้าใจว่า
ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในหัวข้อให้ละเอียด

สร้างอ้าง