Students then transition to the sec

Students then transition to the second or pictorial step by drawing diagrams called "bar-models" to represent specific quantities of an object.[10][21] This involves drawing a rectangular bar to represent a specific quantity. For instance, one short bar would represent five paper clips whereas another bar that is twice as long would represent ten paperclips. By visualizing the difference between the two bars, students could learn to solve problems of addition by adding one bar to the other, which would, in this instance, produce an answer of fifteen paper clips. They can use this method to solve other mathematical problems involving subtraction, multiplication, and division.[10][18] As a tool, bar modeling is considered more efficient than the "guess-and-check" approach, whereby students try a combination of numbers until they found the right numbers that satisfy the conditions of a problem.[10]

Once students have learned to solve mathematical problems using bar modeling, they would transition to the third step by solving mathematical problems in an abstract way using numbers and symbols.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากนั้นให้นักเรียนเปลี่ยนขั้นที่สอง หรือ รูปภาพ โดยการเขียนแผนภาพเรียกว่า " รุ่น " บาร์เพื่อแสดงเฉพาะปริมาณของวัตถุ [ 10 ] [ 21 ] นี้เกี่ยวข้องกับรูปวาดแถบสี่เหลี่ยมเพื่อแสดงปริมาณที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่นหนึ่งบาร์สั้นจะแสดงห้าคลิปกระดาษในขณะที่แถบอื่นที่เป็นสองเท่าที่จะเป็นตัวแทนของสิบคลิปกระดาษ .โดยการแสดงผลความแตกต่างระหว่างสองแท่ง นักเรียนสามารถเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา นอกจากนี้ โดยการเพิ่มหนึ่งแถบๆ ซึ่งในตัวอย่างนี้ ผลิตคำตอบ 15 คลิปกระดาษ พวกเขาสามารถใช้วิธีนี้เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์อื่น ๆปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกองการลบการคูณและ [ 10 ] [ 18 ] เป็นเครื่องมือบาร์แบบถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า " เดาและตรวจสอบวิธีการ " ซึ่งนักเรียนลองชุดของตัวเลขจนกว่าพวกเขาจะพบตัวเลขด้านขวาที่ตรงกับเงื่อนไขของปัญหา [ 10 ]

เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้บาร์โมเดลพวกเขาจะเปลี่ยนขั้นตอนที่สามโดยการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในทางนามธรรม โดยใช้ตัวเลขและสัญลักษณ์