เรื่องสะพานขาวเป็นเรื่องจริง ไม่อิงนิยาย เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณ 20 กว่าปีผ่านมาแล้ว สมัยนั้น ม.ข.มีสภาพเป็นป่าอยู่มากและมีนักศีกษาอยู่น้อย(ปัจจุบันมี 16 คณะ นักศึกษาประมาณ 2 หมื่นคน) ได้มีหนุ่มคณะวิศวะคนหนึ่ง มีแฟนที่รักกกันมากเป็นสาวคณะพยาบาล ตอนแรกก็รักกันดีอยู่ ต่อมาไม่นานก็เริ่มทะเลาะกันเนื่องจากผู้ชายเจ้าชู้ไปจีบเพื่อนของฝ่ายหญิงซึ่งอยู่คณะพยาบาลด้วยกัน ฝ่ายหญิงจับได้ ก็โกรธมากๆมีปากเสียงกันรุนแรงจนถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกันจนเพื่อนๆต้องห้ามปรามกันยกใหญ่ แล้วทั้งคู่ก็เลิกกันโดยฝ่ายชายก็ไปควงคู่กับเพื่อนฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เคยสนุกสนานร่าริง กลับเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดจากับใคร ส่วนฝ่ายชายก็ขี่มอไซค์มารับแฟนใหม่ที่หอพักเป็นประจำ และกลับหอพักทางสะพานขาวดึกๆทุกวัน ซึ่งแฟนเก่าก็จับตาดูทุกขณะ หารู้ไม่ว่าเธอกำลังจะคิดทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด มีอยู่คืนหนึ่ง ที่ฝ่ายชายขับมอไซค์มารับแฟนใหม่ที่หอพักไปเที่ยวในเมือง แล้วแฟนเก่าก็ไปดักรอที่สะพานขาวพร้อมกับขึงลวดเหล็กไว้ระหว่างสะพาน แล้วเวลาที่เธอรอคอยก็มาถึง 2 คนนั้นมาถึงสะพานขาวด้วยความเร็ว พร้อมกับสายฝนโปรยปราย ปรากฏว่าลวดที่ขึงไว้ได้ทำหน้าที่ของมัน ทำให้คอผู้หญิงซึ่งเป็นคนนั่งซ้อนท้ายขาดและตกลงตรงกลางสะพานขาว ฝ่ายชายยังไม่รู้ตัว จนขับรถไปเติมน้ำมัน เด็กปั๊มร้องด้วยความตกใจ จึงได้รู้ว่า แฟนใหม่ของตนได้คอขาดไปแล้ว หลังจากนั้น วิญญาณของหญิงสาวก็วนเวียนหลอกหลอนนักศึกษาและผู้คนทั่วไปที่ขับรถผ่านสะพานขาวมาจนถึงปัจจุบัน ... แต่บางคน้กอเล่าว่า ทั้งคู่ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ยังรักกันดีอยู่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่ ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านสะพานขาวกลางดึก แล้วถูกปล้นตีหัว ชิงมอเตอร์ไซค์ เหตุการณ์เป็นไงไม่รู้ แต่....ตายทั้งคู่ และปรากฏว่าวิญญาณเฮี้ยนมากหลังจากนั้น ทาง มข.จึงได้ทำพิธีกรรม อัญเชิญอัฐิ(ไม่รู้ใช้คำถูกรึเปล่านะ) ของทั้งคู่ฝังไว้ในเสาสะพาน โดยแยกไว้คนละด้าน ภายหลังมีพิธีรับน้องใหม่ โดยกลางดึกให้เฟรชชี่จับคู่ นับเสาสะพานมาจากคนละด้าน จะนับได้ไม่เท่ากัน หรือให้เดินข้ามสะพานทีละคู่ หรือทีละคนเนี่ยแหละกลางดึก ว่ากันว่าถ้ากลั้นหายใจระหว่างที่นั่งรถข้ามสะพานไปจนสุดสะพานได้ โดยที่ไม่ผ่อนลมหายใจนะ จะอธิษฐานขอพรอะไรก็ได้