Relative humidity (RH) of a space w

Relative humidity (RH) of a space will affect the rate of evaporation from the skin. The RH is the ratio of the partial
pressure (or density) of the water vapour in the air to the saturation pressure (or density) of water vapour at the same
temperature and the same total pressure [15]. At high air temperatures (approaching average skin temperature of 34
°C) evaporation heat loss is important to maintain comfort. Human occupants are sensitive to the variation of
temperature rather than relative humidity [16] and there is little conclusive evidence to show that either high or low
humidity is detrimental to the health of normal people. However, some studies (e.g. [17]) indicate that people, when
exposed to low relative humidity conditions, may develop dry and irritated skin, mainly due to the increase in
evaporation rate from the skin. A study conducted by [18] on thermal comfort at high relative humidity shows that
there are no significant psychological or physiological differences in human response to exposure of between 60%
to 90% relative humidity for the temperature range of 20ºC to 26ºC while sedentary.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความชื้นสัมพัทธ์ (RH) ของพื้นที่จะมีผลต่ออัตราการระเหยจากผิว เป็นอัตราส่วนที่บางส่วนของ RHความดัน (หรือความหนาแน่น) ของไอน้ำในอากาศอิ่มตัวความดัน (หรือความหนาแน่น) ของไอน้ำที่เหมือนกันอุณหภูมิและความดันรวมเดียวกัน [15] ที่อุณหภูมิอากาศสูง (อุณหภูมิเฉลี่ย approaching ผิว 34สูญเสียความร้อนระเหย° C) จะต้องรักษาความสะดวกสบาย อาศัยมนุษย์มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมากกว่าความชื้นสัมพัทธ์ [16] และมีหลักฐานแน่ชัดเล็กน้อยแสดงว่าสูง หรือต่ำความชื้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนปกติ อย่างไรก็ตาม บางคนศึกษา (เช่น [17]) แสดงว่า คนที่ เมื่อสภาพความชื้นสัมผัสต่ำ อาจพัฒนาแห้ง และระคายเคืองผิวหนัง ส่วนใหญ่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราการระเหยจากผิว การศึกษาที่ดำเนินการ โดย [18] ในความสะดวกสบายความร้อนที่ความชื้นสัมพัทธ์สูงแสดงว่ามีไม่สำคัญทางสรีรวิทยา หรือจิตวิทยาความแตกต่างในการตอบสนองสัมผัสของมนุษย์ระหว่าง 60%ความชื้นสัมพัทธ์ 90% สำหรับช่วงอุณหภูมิ 20 ºc เพื่อ 26ºC ในขณะที่เคลื่อนไหวน้อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความชื้นสัมพัทธ์ (RH) ของพื้นที่จะมีผลต่ออัตราการระเหยจากผิว RH คืออัตราส่วนของส่วน
ความดัน (หรือความหนาแน่น) ของไอน้ำในอากาศความดันอิ่มตัว (หรือความหนาแน่น) ของไอน้ำในเวลาเดียวกัน
อุณหภูมิและความดันรวมที่เท่ากัน [15] ที่อุณหภูมิอากาศสูง (ใกล้อุณหภูมิผิวเฉลี่ยของ 34
° C) การสูญเสียความร้อนระเหยเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาความสะดวกสบาย อาศัยของมนุษย์มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของ
อุณหภูมิมากกว่าความชื้นสัมพัทธ์ [16] และมีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่จะแสดงให้เห็นว่าทั้งสูงหรือต่ำ
ความชื้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนปกติ แต่บางการศึกษา (เช่น [17]) แสดงให้เห็นว่าคนที่เมื่อ
สัมผัสกับสภาพความชื้นสัมพัทธ์ต่ำอาจก่อให้ผิวแห้งและระคายเคืองเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ
อัตราการระเหยจากผิว จากการศึกษาโดย [18] ต่อสภาวะน่าสบายความชื้นสัมพัทธ์สูงแสดงให้เห็นว่า
ไม่มีความแตกต่างทางด้านจิตใจหรือทางสรีรวิทยาที่สำคัญในการตอบสนองของมนุษย์กับการสัมผัสระหว่าง 60%
ความชื้นสัมพัทธ์ 90% สำหรับช่วงอุณหภูมิ20ºCเพื่อ26ºCขณะที่อยู่ประจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความชื้นสัมพัทธ์ ( RH ) ของพื้นที่จะมีผลต่ออัตราการระเหยของน้ำจากผิว ที่ใช้ คือ อัตราส่วนของบางส่วนความดัน ( หรือความหนาแน่นของไอน้ำในอากาศกับน้ำอิ่มตัวความดัน ( หรือความหนาแน่นของไอน้ำที่เหมือนกันอุณหภูมิและความดันเดียวกันทั้งหมด [ 15 ] ที่อุณหภูมิสูงอากาศ ( อุณหภูมิเฉลี่ย 34 ใกล้ผิว° C ) ค่าการสูญเสียความร้อนเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาความสะดวกสบาย มนุษย์อาศัยมีความแปรปรวนของอุณหภูมิมากกว่าความชื้นสัมพัทธ์ [ 16 ] และมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าสูงหรือต่ำความชื้นเป็น detrimental เพื่อสุขภาพของคนปกติ อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางอย่าง ( เช่น [ 17 ] ) ระบุว่า คน เมื่อสัมผัสกับสภาวะความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ อาจพัฒนาแห้งและระคายเคืองผิว ส่วนใหญ่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นในอัตราการระเหยจากผิว จากการศึกษาโดย [ 18 ] ต่อภาวะสบายเชิงความร้อนที่ความชื้นสัมพัทธ์สูง แสดงให้เห็นว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางด้านจิตวิทยา หรือความแตกต่างในการตอบสนองของมนุษย์เพื่อการสัมผัสระหว่าง 60%90% ความชื้นในช่วงอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสº 26 º C ในขณะที่กลุ่ม .