The applicability of laser ablation

The applicability of laser ablation multi-collector inductively coupled plasma-mass spectrometry (LA-MC-ICPMS)
for the determination of the B isotopic composition in Roman glasses was investigated. The δ11B values
thus obtained provide information on the natron flux used during the glass-making process. The glass samples
used for this purpose were previously characterized using pneumatic nebulization (PN) MC-ICP-MS. Unfortunately,
this method is time-consuming and labor-intensive and consumes some 100 mg of sample, which is a
rather high amount for ancient materials. Therefore, the use of the less invasive and faster LA-MC-ICP-MS
approach was explored. In this work, the results for 29 Roman glasses and 4 home-made glasses obtained
using both techniques were compared to assess the suitability of LA-MC-ICP-MS in this context. The results are
in excellent agreement within experimental uncertainty. No difference in overall mass discrimination was observed
between the Roman glasses, NIST SRM 610 reference glass and B6 obsidian. The expanded uncertainty
of the LA-MC-ICP-MS approach was estimated to be b2‰, which is similar to that obtained upon sample
digestion and PN-MC-ICP-MS measurement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเกี่ยวข้องของเลเซอร์จี้หลายตัวเก็บรวบรวมของท่านควบคู่มวลพลาสม่า spectrometry (LA-MC-ICPMS)สำหรับความมุ่งมั่นของ B มีสอบสวนประกอบ isotopic ในแก้วโรมัน ค่า δ11Bจึง ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟลักซ์ natron ใช้ในระหว่างกระบวนการทำแก้ว ตัวอย่างแก้วใช้สำหรับวัตถุประสงค์นี้ได้ก่อนหน้านี้ลักษณะใช้ลม nebulization (PN) MC-ICP-นางสาวอับวิธีนี้จะใช้เวลานาน และ labor-intensive และใช้มก. 100 บางอย่าง ซึ่งเป็นการจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงสำหรับวัสดุโบราณ ดังนั้น ใช้การรุกราน และเร็วน้อย LA-MC-ICP-MSวิธีที่อุดม ในงานนี้ ผลแก้ว 29 โรมันและ 4 บ้านสร้างแก้วได้ใช้ทั้งได้เปรียบเทียบเทคนิคในการประเมินความเหมาะสมของ LA-MC-ICP-MS ในบริบทนี้ ผลลัพธ์ได้ในข้อตกลงที่ดีในความไม่แน่นอนทดลอง ไม่แตกต่างในการเลือกปฏิบัติโดยรวมทั้งหมดถูกตรวจสอบระหว่างแก้วโรมัน NIST SRM 610 อ้างอิงแก้ว และ B6 obsidian ความไม่แน่นอนขยายของ LA-MC-ICP-MS วิธีถูกประมาณ b2‰ ซึ่งเป็นได้รับตามตัวอย่างวัด PN-MC-ICP-MS และย่อยอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การบังคับใช้ของเลเซอร์นูหลายสะสม inductively คู่ spectrometry พลาสม่ามวล (LA-MC-ICPMS)
สำหรับการกำหนดองค์ประกอบของไอโซโทป B ในแก้วโรมันถูกตรวจสอบ ค่าδ11B
จึงได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟลักซ์ Natron ที่ใช้ในระหว่างขั้นตอนการทำแก้ว ตัวอย่างแก้ว
ใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้มีลักษณะการใช้ยาขยายหลอดลมก่อนหน้านี้นิวเมติก (PN) MC-ICP-MS แต่น่าเสียดายที่
วิธีนี้เป็นเวลานานและใช้แรงงานมากและสิ้นเปลืองประมาณ 100 มิลลิกรัมของกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็น
จำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงสำหรับวัสดุโบราณ ดังนั้นการใช้งานของการบุกรุกน้อยลงและเร็วขึ้น LA-MC-ICP-MS
วิธีการสำรวจ ในงานนี้ผลสำหรับ 29 แก้วโรมันและ 4 แก้วทำที่บ้านได้
โดยใช้เทคนิคทั้งสองถูกนำมาเปรียบเทียบเพื่อประเมินความเหมาะสมของ LA-MC-ICP-MS ในบริบทนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จะ
อยู่ในข้อตกลงที่ดีเยี่ยมภายในความไม่แน่นอนการทดลอง ความแตกต่างในการเลือกปฏิบัติมวลโดยรวมไม่มีการตั้งข้อสังเกต
ระหว่างแก้วโรมัน NIST SRM 610 แก้วอ้างอิงและ B6 รัค ความไม่แน่นอนของการขยายตัว
ของวิธี LA-MC-ICP-MS เป็นที่คาดกันว่าจะเป็น b2 ‰ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ได้รับเมื่อตัวอย่าง
การย่อยอาหารและการวัด PN-MC-ICP-MS

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประยุกต์ใช้เลเซอร์มัลติ สะสมการอุปนัยคู่พลาสมาแมส ( la-mc-icpms )
หาปริมาณไอโซโทป B องค์ประกอบในแก้วโรมันถูกตรวจสอบ การδ 11B ค่า
จึงได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้แก้วโซดาในระหว่างกระบวนการผลิต ตัวอย่าง
แก้วใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้ ก่อนหน้านี้มีลักษณะการใช้ลม nebulization ( PN ) mc-icp-ms. โชคร้าย
วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้เวลานาน และใช้แรงงาน และใช้บางตัวอย่าง 100 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูงสำหรับวัสดุ
โบราณ ดังนั้นการใช้น้อยกว่า invasive และ la-mc-icp-ms เร็ว
แบบสํารวจ ในงานนี้ผลลัพธ์สำหรับ 29 โรมันแว่นตาและแว่นตาทำที่บ้านได้
4 โดยใช้เทคนิคทั้งสองมาเปรียบเทียบเพื่อประเมินความเหมาะสมของ la-mc-icp-ms ในบริบทนี้ ผลลัพธ์
ในข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมภายในความไม่แน่นอนทดลอง ไม่มีความแตกต่างในการแบ่งแยกมวลชนโดยรวมพบว่า
ระหว่างโรมันแว่นตา , NIST SRM 610 อ้างอิงแก้วและ B6 ซิเดียน ความไม่แน่นอน
ขยายของ la-mc-icp-ms วิธีการประมาณจะ 2 ‰ซึ่งคล้ายกับที่ได้รับเมื่อการย่อยตัวอย่าง
pn-mc-icp-ms และการวัด