Agriculture and horticulture seek t

Agriculture and horticulture seek to optimize the capture of solar energy in order to optimize the productivity of plants. Techniques such as timed planting cycles, tailored row orientation, staggered heights between rows and the mixing of plant varieties can improve crop yields.[67][68] While sunlight is generally considered a plentiful resource, the exceptions highlight the importance of solar energy to agriculture. During the short growing seasons of the Little Ice Age, French and English farmers employed fruit walls to maximize the collection of solar energy. These walls acted as thermal masses and accelerated ripening by keeping plants warm. Early fruit walls were built perpendicular to the ground and facing south, but over time, sloping walls were developed to make better use of sunlight. In 1699, Nicolas Fatio de Duillier even suggested using a tracking mechanism which could pivot to follow the Sun.[69] Applications of solar energy in agriculture aside from growing crops include pumping water, drying crops, brooding chicks and drying chicken manure.[44][70] More recently the technology has been embraced by vintners, who use the energy generated by solar panels to power grape presses.[71]

Greenhouses convert solar light to heat, enabling year-round production and the growth (in enclosed environments) of specialty crops and other plants not naturally suited to the local climate. Primitive greenhouses were first used during Roman times to produce cucumbers year-round for the Roman emperor Tiberius.[72] The first modern greenhouses were built in Europe in the 16th century to keep exotic plants brought back from explorations abroad.[73] Greenhouses remain an important part of horticulture today, and plastic transparent materials have also been used to similar effect in polytunnels and row covers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกษตรและพืชสวนแสวงหาการเพิ่มประสิทธิภาพการจับพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตของพืช เทคนิคเช่นเวลาปลูกรอบ ออกแบบวางแนวแถว สูงเหลื่อมกันระหว่างแถวและการผสมพันธุ์ของพืชสามารถเพิ่มผลผลิตพืช [67] [68] ในขณะที่แสงแดดโดยทั่วไปถือว่าทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ข้อยกเว้นที่กล่าวถึงความสำคัญของพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร ในช่วงสั้นปลูกฤดูกาลของยุคน้ำแข็งน้อย เกษตรกรฝรั่งเศส และอังกฤษใช้ผนังผลไม้เพื่อเพิ่มการเก็บรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์ กำแพงเหล่านี้เป็นมวลความร้อน และเร่งการสุก โดยต้นไม้ให้อบอุ่น ต้นผลไม้กำแพงถูกสร้างตั้งฉากกับพื้นดินและใต้หัน แต่ตลอดเวลา ผนังลาดถูกพัฒนาให้ใช้แสงแดด ใน 1699, Nicolas Fatio de Duillier ได้แนะนำให้ใช้กลไกการติดตามซึ่งสามารถหมุนไปตามการใช้งานวันอาทิตย์ [69] ของพลังงานแสงอาทิตย์ในการเกษตรนอกเหนือจากการปลูกพืช ได้แก่สูบน้ำ แห้งพืช ลูกไก่กกไข่ และมูลไก่แห้ง [44] [70] เมื่อเร็ว ๆ นี้ เทคโนโลยีได้รับการกอด โดยวินท์เนอร์ส ที่ใช้พลังงานจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์การกดไฟองุ่น [71]โรงเรือนแปลงแสงอาทิตย์ให้ความร้อน การเปิดใช้งานการผลิตตลอดทั้งปีและการเติบโตของพืชพิเศษและพืชอื่น ๆ ที่ไม่เป็นธรรมชาติเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในท้องถิ่น (ในสภาพแวดล้อมปิดล้อม) โรงเรือนดั้งเดิมถูกใช้ครั้งแรกในช่วงเวลาที่โรมันผลิตแตงกวาได้ตลอดทั้งปีของจักรพรรดิโรมันจักรพรรดิไทบีเรียส [72 โรงเรือนที่ทันสมัย]แรกถูกสร้างขึ้นในยุโรปในศตวรรษที่ 16 เพื่อให้พืชแปลกใหม่นำกลับไปจากการสำรวจในต่างประเทศ [73] เรือนยังคง เป็นส่วนสำคัญของพืชสวนในวันนี้ และพลาสติกใสยังเคยมีผลคล้ายคลึงกันใน polytunnels และครอบคลุมแถว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเกษตรและพืชสวนพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการจับตัวของพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของพืช เทคนิคเช่นหมดเวลารอบการเพาะปลูกการวางแนวแถวปรับแต่งความสูงได้ถูกย้ายระหว่างแถวและการผสมของพันธุ์พืชสามารถปรับปรุงผลผลิตพืชได้. [67] [68] ในขณะที่แสงแดดโดยทั่วไปถือว่าเป็นทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์มีข้อยกเว้นที่เน้นความสำคัญของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร ในช่วงฤดูการเจริญเติบโตในระยะสั้นของยุคน้ำแข็งน้อย, ฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษเกษตรกรลูกจ้างผนังผลไม้เพื่อเพิ่มคอลเลกชันของพลังงานแสงอาทิตย์ ผนังเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นมวลความร้อนและเร่งการสุกโดยการเก็บรักษาพืชที่อบอุ่น ผนังไม้ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นตั้งฉากกับพื้นดินและหันทิศใต้ แต่เมื่อเวลาผ่านผนังลาดถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำให้การใช้งานที่ดีขึ้นของแสงแดด ใน 1699, นิโคลัส Fatio de Duillier แม้แนะนำการใช้กลไกการติดตามซึ่งสามารถหมุนตามดวงอาทิตย์ [69] การประยุกต์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการเกษตรนอกเหนือจากการปลูกพืชรวมถึงการสูบน้ำแห้งพืชครุ่นคิดลูกไก่และมูลไก่อบแห้ง. [44] [70] เมื่อเร็ว ๆ นี้เทคโนโลยีที่ได้รับการกอดโดย Vintners ที่ใช้พลังงานที่สร้างขึ้นโดยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่จะรีดพลังองุ่น. [71]

โรงเรือนแปลงไฟแสงอาทิตย์ให้ความร้อนช่วยให้การผลิตตลอดทั้งปีและการเจริญเติบโต (ในสภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบ) ของพืชพิเศษและพืชอื่น ๆ ไม่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศตามธรรมชาติในท้องถิ่น เรือนดั้งเดิมถูกนำมาใช้ครั้งแรกในช่วงสมัยโรมันในการผลิตแตงกวารอบปีจักรพรรดิโรมัน Tiberius. [72] เรือนที่ทันสมัยแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นในยุโรปในศตวรรษที่ 16 เพื่อให้พืชที่แปลกใหม่นำกลับมาจากการสำรวจในต่างประเทศ. [73] เรือนกระจกยังคงเป็นส่วนสำคัญของพืชสวนในวันนี้และวัสดุโปร่งใสพลาสติกยังได้รับการใช้เพื่อผลที่คล้ายกันใน polytunnels และแถวที่ครอบคลุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเกษตรและพืชสวนแสวงหาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจับพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มผลผลิตของพืช เทคนิค เช่น เวลาปลูกรอบตามแนวแถว โงนเงนความสูงระหว่างแถวและการผสมพันธุ์ของพืชสามารถเพิ่มผลผลิต [ 67 ] [ 68 ] ในขณะที่แสงแดดโดยทั่วไปถือว่าอุดมสมบูรณ์ทรัพยากร ข้อยกเว้นที่เน้นความสำคัญของพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร ในช่วงฤดูกาลการเติบโตของยุคน้ำแข็งสั้นๆ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาอังกฤษ เกษตรกรที่ใช้ผนังผลไม้เพื่อเพิ่มคอลเลกชันของพลังงานแสงอาทิตย์ กำแพงเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นมวลความร้อนและเร่งการรักษาพืชที่อบอุ่น ผนังไม้แรกถูกสร้างขึ้นตั้งฉากกับพื้น และหันหน้าไปทางทิศใต้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป , ลาดผนังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้ดีกว่าของแสงแดด ใน 1699 , นิโคลัส fatio de duillier ก็แนะใช้กลไกการติดตาม ซึ่งจะหมุนตามดวงอาทิตย์ [ 69 ] การประยุกต์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการเกษตร นอกจากปลูกพืช ได้แก่ การสูบน้ำแห้งพืชกกลูกไก่และมูลไก่แห้ง [ 44 ] [ 70 ] มากขึ้นเมื่อเร็ว ๆนี้เทคโนโลยีได้ถูกโอบกอดโดยผู้ทำเหล้าองุ่น , ที่ใช้พลังงานที่สร้างขึ้นจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อกดองุ่นพลัง [ 71 ]โรงเรือนแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ความร้อน ทำให้การผลิตตลอดทั้งปีและการเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่แนบ ) พิเศษของพืชและพืชอื่น ๆไม่เป็นธรรมชาติเหมาะกับอากาศท้องถิ่น เรือนกระจกแบบดั้งเดิมถูกใช้เป็นครั้งแรกในยุคโรมันในการผลิตแตงกวาตลอดทั้งปีสำหรับจักรพรรดิโรมันไทบีเรียส [ 72 ] เรือนกระจกสมัยใหม่แรกถูกสร้างขึ้นในยุโรปในศตวรรษที่ 16 เพื่อให้พืชที่แปลกใหม่นำกลับมาจากการสำรวจในต่างประเทศ [ 73 ] เรือนกระจกยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของพืชสวนวันนี้และวัสดุพลาสติกใสก็ถูกใช้เพื่อ ผลที่คล้ายกันใน polytunnels และแถวที่ครอบคลุม