Logical division of ideas is a patt

Logical division of ideas is a pattern of organization in which you divide a topic into points and discuss each point separately. You can use logical division to organize many kinds of topics, for example:

a) REASON for owning a Samsung/Blackerry, for exercising/ not exercising, for learning English. For being a teacher, etc.

b) KINDS for teachers/ foods/ drivers/friends/students, etc.

c) TYPES of books/movies/music/TV program you like or don’t you like.

d) ADVANTAGES or DISADVANTAGES of living in a small town/big city/college dormitory, of being the youngest child, etc.

e) QUALITY of a good employee/good friend/teacher/parent, etc.

In addition to unity, which has already been discussed in previous material, every paragraph must have coherence. A coherence paragraph flows smoothly from beginning to end. A reader can follow your ideas easily because one sentence leads naturally to the next one; there are no sudden jumps.

There are three main ways to make your paragraph coherent:

a) Use Nouns and Pronouns consistently throughout a paragraph.

One way to achieve coherence is to use nouns and pronouns consistently throughout a paragraph, that is, continue to use the same nouns and pronouns you start with. For example, if you begin with plural noun such as student, don’t change to singular. In addition, don’t change pronouns; don’t switch from you to they or he for no reason. Be consistent, if you use pronoun you at the beginning of your paragraph, keep it throughout.

Here’s a tip to help you use pronouns consistently. Use a plural noun (employees) rather than a singular noun (an employee) when writing about a group of people of both sexes. When you need to use pronouns, the plural pronouns they, them, and there are less awkward than the singular phrases he or she, him or her, and his or hers.

Awkward : An employee must wear his or her ID bagde at all times.

Better : Employees must wear their ID badges at all times.



b) Use transition signals to show relationships among ideas.

Transition signals are words and phrases that connect the idea in one sentence with the idea in another sentence. They are expressions such as first/second, furthermore, on the other hand, for example, and in conclusion. Transition signals are like traffic signals; they tell your reader when to slow down, turn around and stop. Using transition signals makes your paragraph smoother and helps your reader understand it more easily.

Example of transition signals:

First, second, etc

First of all,

Furthermore, also, in addition, moreover,

A second (reason, kind, advantage, etc)

The final (reason, kind, advantage, etc)



c) Put your ideas into some kind of logical order, such as logical division of ideas.



Steps to make a logical division of idea paragraph

1) Begin a logical division paragraph with a topic sentence.

2) In the supporting sentences, discuss each point one after the other. Introduce each new point with a signal word or phrase; in addition, support each point with a convincing detail such as an example or a statistic (numbers, amounts, percentages, etc).

3) End a logical division paragraph with a concluding sentence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนตรรกะของความคิดคือ รูปแบบขององค์กรที่คุณแบ่งหัวข้อจุด และอธิบายแต่ละจุดแยกต่างหาก คุณสามารถใช้ส่วนตรรกะเพื่อจัดระเบียบหัวข้อ หลายชนิดเช่น:

การ) ในการเป็นเจ้าของซัม ซุง/Blackerry สำหรับออกกำลังกาย / ไม่ออกกำลัง กาย เรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ สำหรับการเป็นครู เป็นต้น

b) ชนิดสำหรับครู / อาหาร/ ไดรเวอร์/เพื่อน/นักเรียน ฯลฯ

c) ประเภทหนังสือ/ภาพยนตร์/เพลง/ทีวีโปรแกรมเหมือน หรือไม่เหมือนกัน

d) ข้อดีหรือข้อเสียของที่อยู่อาศัยในขนาดเล็กเมือง/ใหญ่วิทยาลัยเมืองหอพัก เป็น เด็กที่อายุน้อยที่สุด ฯลฯ

e) คุณภาพดีพนักงานดี/เพื่อน/ครู/หลัก etc.

นอกจากสามัคคี ซึ่งได้แล้วการหารือในวัสดุก่อนหน้า ย่อหน้าต้องมีศักยภาพ ย่อหน้าศักยภาพทุนหมุนเวียนได้อย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้อ่านสามารถทำตามความคิดของคุณได้อย่างง่ายดาย เพราะประโยคหนึ่งที่นำไปสู่ธรรมชาติกับ ได้ไม่ฉับพลันกระโดด

มีวิธีหลักสามวิธีให้ย่อหน้าของ coherent:

การ) ใช้คำนามและสรรพนามอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งย่อหน้า

วิธีหนึ่งเพื่อให้บรรลุศักยภาพคือการ ใช้คำนามและสรรพนามอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งย่อหน้า ต่อไปคือ การใช้คำนามและสรรพนามที่คุณเริ่มต้นด้วยกัน ตัวอย่าง ถ้าคุณเริ่มต้น ด้วยคำนามพหูพจน์เช่นนักเรียน ไม่เปลี่ยนเอกพจน์ นอกจากนี้ ไม่เปลี่ยนสรรพนาม ไม่ไปจากคุณพวกเขาหรือเขาไม่มีเหตุผล จะสอดคล้องกัน ถ้าคุณใช้สรรพนามคุณจุดเริ่มต้นของย่อหน้าของคุณ เก็บไว้ตลอด

นี่เป็นคำแนะนำเพื่อช่วยให้คุณใช้สรรพนามอย่างสม่ำเสมอ ใช้คำนามพหูพจน์ (พนักงาน) แทนคำนามเอกพจน์ (พนักงาน) เมื่อเขียนเกี่ยวกับกลุ่มคนทั้งสองเพศ เมื่อคุณจำเป็นต้องใช้คำสรรพนาม คำสรรพนามพหูพจน์ พวกเขา และมีจะตกใจน้อยกว่า phrases เอกพจน์เขา หรือเธอ เขา หรือเธอ และเขา หรือเธอ

เชื่องช้า: พนักงานต้องสวม bagde ID ของเขา หรือเธอตลอดเวลา.

ดีกว่า: พนักงานต้องสวมป้าย ID ของพวกเขาทั้งหมดเท่านั้น



b) ใช้แปลงสัญญาณเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความคิด

เปลี่ยนสัญญาณมีคำและวลีที่เชื่อมต่อความคิดในประโยคหนึ่ง มีความคิดในประโยคอื่น จะได้นิพจน์เช่นแรกสุด นอก ในทางกลับกัน เช่น และเบียดเบียน จะเปลี่ยนสัญญาณเช่นสัญญาณจราจร พวกเขาบอกตัวอ่านของคุณจะช้าลง หันไปรอบ ๆ และหยุด ใช้เปลี่ยนสัญญาณทำให้ย่อหน้าของคุณนุ่มนวล และช่วยให้คุณผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างของสัญญาณเปลี่ยนแปลง:

ก่อน ที่สอง ฯลฯ

ครั้งแรกของทั้งหมด,

Furthermore ในนี้ นอกจากนี้ ยัง

สอง (เหตุผล ประเภท ประโยชน์ ฯลฯ)

สุดท้าย (เหตุผล ประเภท ประโยชน์ ฯลฯ)



c) ใส่ความคิดของคุณลงในบางชนิดของกรรม เช่นส่วนตรรกะของความคิด



ตอนทำส่วนตรรกะของความคิดย่อหน้า

1 ย่อหน้าส่วนตรรกะกับประโยคหัวข้อเป็นการเริ่มต้น

2) ในประโยคสนับสนุน สนทนาแต่ละจุดหนึ่งหลังจากอื่น ๆ แนะนำแต่ละจุดใหม่ ด้วยสัญญาณคำหรือวลี นอกจากนี้ สนับสนุนแต่ละจุด มีรายละเอียดน่าเชื่อถือเช่นตัวอย่างหรือสถิติ (ตัวเลข จำนวนเงิน เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ) .

3) จบย่อหน้า ด้วยประโยคสรุปส่วนตรรกะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนตรรกะของความคิดที่เป็นรูปแบบขององค์กรที่คุณได้แบ่งหัวข้อออกเป็นจุด และอธิบายแต่ละจุดต่างหาก คุณสามารถใช้ส่วนตรรกะที่จะจัดการหลายชนิดของหัวข้อ ตัวอย่าง :

) ที่เป็นเจ้าของ Samsung / blackerry , การออกกําลังกาย / ไม่ออกกำลังกาย สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ เป็นครู ฯลฯ

b ) ชนิดสำหรับครู / อาหาร / ไดรเวอร์ / เพื่อน / นักเรียน ฯลฯ

C ) ประเภทของหนังสือ / หนัง / เพลง / รายการทีวีที่คุณชอบ หรือ ไม่ชอบ

d ) ข้อดีหรือข้อเสียของการใช้ชีวิตในเมืองเล็ก เมืองใหญ่ / วิทยาลัย หอพัก เป็นลูกคนสุดท้อง ฯลฯ

E ) คุณภาพของพนักงานที่ดี / เพื่อนรัก / ครู / ผู้ปกครอง ฯลฯ

นอกจากนี้เพื่อความสามัคคี ซึ่งได้มีการกล่าวถึงในเนื้อหาก่อนหน้านี้ ทุกวรรค ต้องสัมพันธ์กันการเชื่อมโยงกันวรรคไหลได้อย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้อ่านสามารถติดตามความคิดของคุณได้อย่างง่ายดายเพราะประโยคหนึ่งที่นำธรรมชาติต่อไป ไม่มีการกระโดดกระทันหัน

มีสามวิธีหลักเพื่อให้ย่อหน้าของคุณติดต่อกัน :

) ใช้คำนามและสรรพนามอย่างต่อเนื่องตลอดวรรค .

วิธีหนึ่งที่จะบรรลุความสอดคล้องคือการใช้คำนามสรรพนามและอย่างต่อเนื่องตลอด ย่อหน้านั่นคือ ยังคงใช้คำนามและสรรพนามเดียวกัน คุณเริ่มต้นด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเริ่มต้น ด้วยนามพหูพจน์ เช่น นักเรียน นักศึกษา ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นเอกพจน์ นอกจากนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนสรรพนาม ไม่สลับจากคุณกับพวกเขาหรือเขาโดยไม่มีเหตุผล มีความสอดคล้องกัน ถ้าคุณใช้สรรพนามที่จุดเริ่มต้นของย่อหน้าของคุณ เก็บไว้ตลอด

ที่นี่เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณใช้สรรพนามอย่างสม่ําเสมอใช้เป็นคำนามพหูพจน์ ( พนักงาน ) แทนที่จะเป็นคำนามเอกพจน์ ( ลูกจ้าง ) เมื่อเขียนเกี่ยวกับกลุ่มของคนทั้งสองเพศ เมื่อคุณต้องใช้สรรพนามพหูพจน์คำสรรพนาม พวกเขา พวกเขา และมีอึดอัดน้อยกว่า เอกพจน์ วลีที่เขา หรือเธอ เขาหรือเธอ และเขาหรือเธอ .

เขิน : พนักงานของเขาหรือเธอต้องใส่ ID bagde ตลอดเวลา

ดีกว่า :พนักงานต้องใส่ป้าย ID ของพวกเขาตลอดเวลา



b ) ใช้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความคิด

เปลี่ยนสัญญาณที่เป็นคำและวลีที่เชื่อมต่อความคิดในหนึ่งประโยคกับความคิดในประโยคอื่น พวกเขาจะแสดงออกเช่นแรก / วินาที นอกจากนี้ บนมืออื่น ๆเช่น และสรุป สัญญาณเปลี่ยนเป็นเหมือนสัญญาณการจราจร ;พวกเขาบอกผู้อ่านของคุณเมื่อชะลอตัวลง หันหลัง และหยุด โดยใช้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ย่อหน้าของคุณเรียบเนียนและช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงสัญญาณ :



เป็นครั้งแรกที่สอง ฯลฯ

ก่อนอื่น

นอกจากนี้ยังนอกจากนี้ยัง

2 ( เหตุผล ประเภท ประโยชน์ ฯลฯ )

สุดท้าย ( เหตุผล ประเภท ประโยชน์ ฯลฯ )



c ) ใส่ความคิดของคุณลงในบางประเภทของการสั่งซื้อตรรกะเช่นส่วนตรรกะของความคิด .



ขั้นตอนเพื่อให้ตรรกะความคิด

แบ่งวรรค 1 ) เริ่มแบ่งวรรคประโยคตรรกะกับหัวข้อ

2 ) ในการสนับสนุนประโยคอธิบายแต่ละจุดหนึ่งหลังจากที่อื่น ๆ แนะนำใหม่แต่ละจุดที่มีสัญญาณคำหรือวลี ; นอกจากนี้สนับสนุนแต่ละจุดมีรายละเอียดน่าเชื่อถือ เช่น ตัวอย่าง หรือ สถิติ ( ตัวเลข , จำนวน , ร้อยละ , ฯลฯ ) .

3 ) จบย่อหน้าส่วนตรรกะกับจบประโยค