บทนำ : โรคแผลในทางเดินอาหาร มีแนวทา

บทนำ : โรคแผลในทางเดินอาหาร มีแนวทางการรักษาคือปรับพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่พบคือ ผู้ป่วยไม่ตระหนักถึงการปรับพฤติกรรมสุขภาพ รวมถึงรับประทานยาอย่างไม่ต่อเนื่องและผิดวิธี เภสัชกรจึงมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้และคำปรึกษาด้านการใช้ยารวมถึงการแนะนำการปฏิบัติตนแก่ผู้ป่วย เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยเภสัชกรที่มีความเชี่ยวชาญนั้น จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาเภสัชวิทยาเป็นอย่างดี อันได้มาจากการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันการเรียนในประเทศไทยยังเน้นการเรียนภาคบรรยาย ซึ่งเป็นการสร้างความจำระยะสั้น ดังนั้น หากต้องการมีความจำที่ดีขึ้น ควรมีกระบวนการสร้างความจำที่ดีและทำการทบทวนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการพบว่าการเรียนรู้ผ่านรูปภาพช่วยส่งเสริมความจำได้ดีกว่าตัวอักษร และรูปภาพเหล่านั้นควรมีความสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะเป็นรูปภาพที่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วย ซึ่งบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) มีการนำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดีย ได้แก่ ภาพเคลื่อนไหว เสียง และกราฟฟิก ซึ่งช่วยเสริมสร้างความจำระยะยาวได้
แต่ในการศึกษา CAI ที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดในด้านความรู้ของผู้เรียน และเวลาที่ใช้ในการเรียน ดังนั้นผู้วิจัยจึงทำการพัฒนาและประเมินบทเรียน CAI ในรายวิชาเภสัชวิทยาเรื่องยารักษาโรคแผลในทางเดินอาหารโดยมีการควบคุมข้อจำของงานวิจัยที่ผ่านมา
วิธีดำเนินงานวิจัย : งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลอง โดยมีผู้เข้าร่วมการศึกษาคือนิสิตคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ชั้นปีที่ 3 จำนวน 120 คน ซึ่งจะแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมการศึกษาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น โดยใช้ผลการเรียนวิชาเภสัชวิทยา 1 เป็นตัวแบ่ง จากนั้นจึงใช้วิธีสุ่มแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เรียนรู้ผ่าน CAI และกลุ่มที่เรียนรู้ผ่านเอกสารประกอบการเรียน โดยทำการทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน และหลังเรียน 2 สัปดาห์เพื่อวัดความคงทนในการจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทนำ: โรคแผลในทางเดินอาหารมีแนวทางการรักษาคือปรับพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องแต่ปัญหาที่พบคือผู้ป่วยไม่ตระหนักถึงการปรับพฤติกรรมสุขภาพรวมถึงรับประทานยาอย่างไม่ต่อเนื่องและผิดวิธีเภสัชกรจึงมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้และคำปรึกษาด้านการใช้ยารวมถึงการแนะนำการปฏิบัติตนแก่ผู้ป่วยเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเภสัชกรที่มีความเชี่ยวชาญนั้นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาเภสัชวิทยาเป็นอย่างดีอันได้มาจากการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพปัจจุบันการเรียนในประเทศไทยยังเน้นการเรียนภาคบรรยายซึ่งเป็นการสร้างความจำระยะสั้นดังนั้นหากต้องการมีความจำที่ดีขึ้นควรมีกระบวนการสร้างความจำที่ดีและทำการทบทวนอย่างสม่ำเสมอโดยมีการพบว่าการเรียนรู้ผ่านรูปภาพช่วยส่งเสริมความจำได้ดีกว่าตัวอักษรและรูปภาพเหล่านั้นควรมีความสัมพันธ์กันโดยเฉพาะเป็นรูปภาพที่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยซึ่งบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) มีการนำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดียได้แก่ภาพเคลื่อนไหวเสียงและกราฟฟิกซึ่งช่วยเสริมสร้างความจำระยะยาวได้ แต่ในการศึกษาไกที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดในด้านความรู้ของผู้เรียนและเวลาที่ใช้ในการเรียนดังนั้นผู้วิจัยจึงทำการพัฒนาและประเมินบทเรียนไคในรายวิชาเภสัชวิทยาเรื่องยารักษาโรคแผลในทางเดินอาหารโดยมีการควบคุมข้อจำของงานวิจัยที่ผ่านมา วิธีดำเนินงานวิจัย: งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองโดยมีผู้เข้าร่วมการศึกษาคือนิสิตคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคามชั้นปีที่ 3 จำนวน 120 คนซึ่งจะแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมการศึกษาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นโดยใช้ผลการเรียนวิชาเภสัชวิทยา 1 เป็นตัวแบ่งจากนั้นจึงใช้วิธีสุ่มแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่เรียนรู้ผ่านไกและกลุ่มที่เรียนรู้ผ่านเอกสารประกอบการเรียนโดยทำการทดสอบก่อนเรียนหลังเรียนและหลังเรียน 2 สัปดาห์เพื่อวัดความคงทนในการจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ: โรคแผลในทางเดินอาหารมีแนวทาง การรักษาคือปรับพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่พบคือผู้ป่วยไม่ตระหนักถึงการปรับพฤติกรรมสุขภาพรวมถึงรับประทานยาอย่างไม่ต่อเนื่องและผิดวิธีเภสัชกร จึงมีบทบาทสำคัญในการให้ความ รู้และคำปรึกษาด้านการใช้ยารวมถึงการแนะนำการปฏิบัติตนแก่ผู้ป่วยเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเภสัชกรที่มีความเชี่ยวชาญนั้นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาเภสัชวิทยาเป็นอย่างดี อันได้มาจากการเรียนการสอน ที่มีประสิทธิภาพปัจจุบันการเรียนในประเทศไทยยังเน้นการเรียนภาคบรรยายซึ่งเป็นการสร้างความจำระยะสั้นดังนั้นหากต้องการมีความจำที่ดีขึ้นควรมีกระบวนการสร้างความจำที่ดีและทำการทบทวนอย่าง สม่ำเสมอโดยมีการพบว่าการเรียน รู้ผ่านรูปภาพช่วยส่งเสริมความจำได้ดีกว่าตัวอักษรและรูปภาพเหล่านั้นควรมีความสัมพันธ์กันโดยเฉพาะเป็นรูปภาพที่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยซึ่งบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) มีการนำเสนอใน รูปแบบมัลติมีเดีย ได้แก่ ภาพเคลื่อนไหวเสียงและกราฟฟิกซึ่งช่วยเสริมสร้างความสามารถจำระยะยาวได้
แต่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การศึกษาเป็นบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผ่านมายังมีข้อ จำกัด ในด้าน ความรู้ของผู้เรียนและเวลาที่ใช้ในการเรียนดังนั้นผู้วิจัยจึงทำการพัฒนาและ ประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในห้างหุ้นส่วนจำกัดรายวิชาเภสัชวิทยาเรื่องยารักษาโรคแผลในห้างหุ้นส่วนจำกัดทางเดินอาหารโดยมีหัวเรื่อง: การควบคุมข้อจำของงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยที่ทางทหารผ่านมา
วิธีดำเนินงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัย: งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองโดย มีผู้เข้าร่วมการศึกษาคือนิสิตคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามชั้นปีที่ 3 จำนวน 120 คนซึ่งจะแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วม การศึกษาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นโดยใช้ผลการเรียนวิชาเภสัชวิทยา 1 เป็นตัวแบ่งจากนั้นจึงใช้วิธี สุ่มแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่เรียนรู้ผ่านบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและกลุ่มที่เรียนรู้ผ่านเอกสารประกอบ การเรียนโดยทำการทดสอบก่อนเรียนหลังเรียนและหลังเรียน 2 สัปดาห์เพื่อวัดความคงทนในการจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ : โรคแผลในทางเดินอาหารมีแนวทางการรักษาคือปรับพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องแต่ปัญหาที่พบคือผู้ป่วยไม่ตระหนักถึงการปรับพฤติกรรมสุขภาพรวมถึงรับประทานยาอย่างไม่ต่อเนื่องและผิดวิธีเภสัชกรจึงมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้และคำปรึกษาด้ านการใช้ยารวมถึงการแนะนำการปฏิบัติตนแก่ผู้ป่วยเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเภสัชกรที่มีความเชี่ยวชาญนั้นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาเภสัชวิทยาเป็นอย่างดีอันได้มาจากการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพปัจจุบันการเรียนในประเทศไทยยังเน้นการเรียนภาคบรรยายซ ึ่งเป็นการสร้างความจำระยะสั้นดังนั้นหากต้องการมีความจำที่ดีขึ้นควรมีกระบวนการสร้างความจำที่ดีและทำการทบทวนอย่างสม่ำเสมอโดยมีการพบว่าการเรียนรู้ผ่านรูปภาพช่วยส่งเสริมความจำได้ดีกว่าตัวอักษรและรูปภาพเหล่านั้นควรมีความสัมพันธ์กันโดยเฉพาะเป็นรูปภาพที่ สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยซึ่งบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ( CAI ) มีการนำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดียได้แก่ภาพเคลื่อนไหวเสียงและกราฟฟิกซึ่งช่วยเสริมสร้างความจำระยะยาวได้แต่ในการศึกษาไช่ที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดในด้านความรู้ของผู้เรียนและเวลาที่ใช้ในการเรียนดังนั้นผู้วิจัยจึงทำการพัฒนาและประเมินบทเรียนในรายวิชาเภสัชวิทยาเรื่องยารักษาโรคแผลในทางเดินอาหารโดยมีการควบคุมข้อจำของงานวิจัยที่ผ่านมาคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิธีดำเนินงานวิจัย : งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองโดยมีผู้เข้าร่วมการศึกษาคือนิสิตคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคามชั้นปีที่ 3 จำนวน 120 คนซึ่งจะแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมการศึกษาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นโดยใช้ผลการเรียนวิชาเภสัชวิทยา 1 เป็นตัวแบ่งจากนั้นจึงใ ช้วิธีสุ่มแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่เรียนรู้ผ่านไช่และกลุ่มที่เรียนรู้ผ่านเอกสารประกอบการเรียนโดยทำการทดสอบก่อนเรียนหลังเรียนและหลังเรียน 2 สัปดาห์เพื่อวัดความคงทนในการจำ