In particular, we study managers’ p

In particular, we study managers’ proprietary and agency cost motives to hide abnormal
segment profits, which we define as a segment’s rate of return relative to that of its industry.
Given the limited set of items that are disclosed in segment footnotes, we argue that segment
profitability is likely the most valuable piece of information managers might wish to withhold
from competitors and investors. Managers face proprietary costs of segment disclosure
if the revelation of a segment that earns high abnormal profits attracts more competition
and, hence, reduces the segment’s abnormal profits. On the other hand, managers face
agency costs of segment disclosure if the revelation of a segment that earns low abnormal
profits reveals unresolved agency problems and ultimately leads to heightened external
monitoring. We therefore hypothesize that managers tend to withhold the segments with
relatively high (low) abnormal segment profits when the proprietary (agency) cost motive dominates (hereafter, the proprietary (agency) cost motive hypothesis).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเรียนผู้จัดการของฟทร์แวร์และหน่วยต้นทุนไม่สนคำครหาซ่อนความผิดปกติกำไรส่วน ซึ่งเรากำหนดเป็นอัตราผลตอบแทนสัมพันธ์กับที่อุตสาหกรรมของเซกเมนต์เรากำหนดชุดของรายการที่เปิดเผยในส่วนเชิงอรรถจำกัด โต้เถียงเมนต์กำไรมีแนวโน้มที่ชิ้นส่วนคุณค่าของข้อมูลผู้จัดการอาจต้องหักณที่จ่ายจากคู่แข่งและนักลงทุน ต้นทุนกรรมสิทธิ์ของเซ็กเมนต์เปิดเผยใบหน้าผู้จัดการถ้าเพิ่มเติมการแข่งขันดึงดูดวิวรณ์ของเซ็กเมนต์ที่ทำแต้มได้กำไรสูงผิดปกติและ จึง ลดกำไรปกติของเซ็กเมนต์ บนมืออื่น ๆ หน้าผู้จัดการต้นทุนหน่วยงานของเซ็กเมนต์เปิดเผยถ้าเปิดเผยของเซ็กเมนต์ที่ได้รับคะแนนต่ำผิดปกติผลกำไรแสดงถึงหน่วยงานที่ยังไม่ได้แก้ไขปัญหา และนำไปสู่ภายนอกสูงสุดตรวจสอบ เราจึง hypothesize ที่ผู้จัดการมักจะ หักเซ็กเมนต์ด้วยค่อนข้างสูง (ต่ำ) ผิดปกติส่วนผลกำไรเมื่อกุมอำนาจฟทร์แวร์ (หน่วย) ต้นทุนแรงจูงใจ (โดย ฟทร์แวร์ (หน่วย) ต้นทุนสมมติฐานแรงจูงใจ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราศึกษาผู้จัดการ 'เป็นกรรมสิทธิ์และหน่วยงานแรงจูงใจค่าใช้จ่ายที่จะซ่อนความผิดปกติของ
ผลกำไรส่วนที่เรากำหนดเป็นอัตราส่วนของญาติกลับไปที่อุตสาหกรรม.
ให้ชุด จำกัด ของรายการที่ได้เปิดเผยไว้ในเชิงอรรถส่วนเรายืนยันว่า ส่วน
การทำกำไรมีแนวโน้มเป็นชิ้นที่มีค่าที่สุดของผู้จัดการข้อมูลอาจต้องการที่จะระงับ
จากคู่แข่งและนักลงทุน ผู้จัดการเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เป็นกรรมสิทธิ์ของการเปิดเผยข้อมูลส่วน
ถ้าการเปิดเผยของกลุ่มที่แสวงหาผลกำไรที่สูงผิดปกติดึงดูดการแข่งขันมากขึ้น
และจึงช่วยลดส่วนของผลกำไรที่ผิดปกติ ในทางตรงกันข้ามผู้จัดการเผชิญกับ
ค่าใช้จ่ายที่หน่วยงานของการเปิดเผยข้อมูลส่วนถ้าการเปิดเผยของกลุ่มที่มีรายได้ต่ำผิดปกติ
ผลกำไรที่เผยให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขหน่วยงานและในที่สุดนำไปสู่การมีความคิดริเริ่มภายนอก
ตรวจสอบ ดังนั้นเราจึงตั้งสมมติฐานว่าผู้บริหารมีแนวโน้มที่จะระงับการจ่ายส่วนที่มี
ค่อนข้างสูง (ต่ำ) กำไรส่วนที่ผิดปกติเมื่อกรรมสิทธิ์ (หน่วย) แรงจูงใจค่าใช้จ่าย dominates (ต่อกรรมสิทธิ์ (หน่วย) แรงจูงใจค่าใช้จ่ายสมมติฐาน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยเฉพาะ เราสามารถศึกษาและผู้บริหารหน่วยงานต้นทุนเป็นแรงจูงใจที่จะซ่อนไร
ส่วนที่ผิดปกติ ซึ่งเราเรียกว่าอัตราผลตอบแทนของส่วนของญาติที่อุตสาหกรรมของตน .
ได้รับชุด จำกัด ของรายการที่ถูกเปิดเผยในส่วนเชิงอรรถ เรายืนยันว่าส่วน
กำไรมีแนวโน้มชิ้นที่มีคุณค่ามากที่สุดของผู้จัดการ ข้อมูลอาจจะต้องระงับ
จากคู่แข่ง และนักลงทุน ผู้จัดการค่าใช้จ่ายส่วนใบหน้าซึ่งเปิดเผย
ถ้าการเปิดเผยส่วนที่แสวงหากำไรปกติสูงจะดึงดูดมากขึ้นและการแข่งขัน
จึงช่วยลดความผิดปกติของส่วนกำไร บนมืออื่น ๆ , บริหารใบหน้าค่าใช้จ่าย
หน่วยงานเปิดเผยส่วนถ้าการเปิดเผยส่วนที่ earns
ปกติต่ำกำไร เผยปัญหาค้างคาและในที่สุดนำไปสู่การเพิ่มหน่วยงานตรวจสอบภายนอก

ดังนั้นเราจึงพบว่าผู้จัดการมีแนวโน้มที่จะยับยั้งกลุ่มกับ
ค่อนข้างสูง ( ต่ำ ) ส่วนกำไรปกติเมื่อเจ้าของ ( บริษัท ) แรงจูงใจพนักงาน ( ต้นทุนปรโลกกรรมสิทธิ์ ( หน่วยงาน ) ต้นทุนสมมุติฐานแรงจูงใจ )