Recent research has begun to inspect this issue through attribution studies including examination of the effect of the global
warming trend on temperate extremes and variability (Rhamstorf and Coumou, 2011; Medvigy and Beaulieu, 2012;
Barriopedro et al., 2011; Hansen et al., 2012). Rhamstorf and Coumou (2011) suggest an approximate 80% probability that
the July 2011 heat record in Moscow would not have occurred without global warming. Hansen et al. (2012) use a statistical
summary analysis to illustrate changes in the distribution of the surface air temperature anomalies around the globe from
1951 to 2010, normalised by local standard deviation estimates. Their analysis indicated that both the location and spread of
this distribution increased over time, but because no statistical model was constructed they were unable to test for the statistical
significance of these changes.
งานวิจัยล่าสุดได้เริ่มมีการตรวจสอบปัญหาผ่านการศึกษาลักษณะนี้รวมทั้งการตรวจสอบผลกระทบของโลก
ร้อนแนวโน้มในสุดขั้วกาลเทศะและความแปรปรวน (Rhamstorf และ Coumou, 2011; Medvigy และ Beaulieu, 2012;
. Barriopedro, et al, 2011; แฮนเซนและคณะ , 2012) Rhamstorf และ Coumou (2011) ชี้ให้เห็นความน่าจะเป็นประมาณ 80% ของ
การบันทึกความร้อนกรกฎาคม 2011 ในมอสโกจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีการลดภาวะโลกร้อน แฮนเซนและคณะ (2012) ใช้สถิติ
วิเคราะห์สรุปให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการกระจายของความผิดปกติอุณหภูมิของอากาศพื้นผิวทั่วโลกจาก
ปี 1951 เพื่อ 2010, ปกติโดยประมาณการค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานท้องถิ่น การวิเคราะห์ของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าทั้งสถานที่และการแพร่กระจายของ
การกระจายนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่เพราะไม่มีแบบจำลองทางสถิติที่สร้างพวกเขาไม่สามารถที่จะทดสอบสำหรับสถิติที่
สำคัญของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
การแปล กรุณารอสักครู่..