with the unemployment rate reaching

with the unemployment rate reaching 10.1%. The US Department of Labor’s Bureau of Labor
Statistics unemployment figures record the increase in unemployment between December 2006
and December 2009 as 7.2 million. The US national press described the drop in employment
as the biggest decline since the Great Depression. The total US unemployment figure for
2006 was 7 million and by 2009 it had reached 14.27 million (9.3%). Job losses had not only
occurred in the housing and service industries (banks and insurance companies) which were
directly affected by the subprime turmoil but had spread to retail, manufacturing, leisure and
professional services. Falling house prices, combined with news of rising unemployment in
other parts of the country, made homeowners both less wealthy and more cautious, contributing
to a gradual decline in spending. Less consumer spending eventually weakened the economy,
prompting companies to start laying off workers in a vicious cycle that caused households to
become even more frugal.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่มีอัตราการว่างงานถึง 10.1% สหรัฐอเมริกากรมสำนักแรงงานแรงงานตัวเลขการว่างงานบันทึกสถิติการว่างงานเพิ่มขึ้นในระหว่างธันวาคม 2006 และธันวาคมปี 2009 เป็น 7,200,000 หนังสือพิมพ์แห่งชาติสหรัฐอธิบายการลดลงของการจ้างงานในขณะที่ลดลงมากที่สุดตั้งแต่ Great Depression รวมตัวเลขการว่างงานของสหรัฐสำหรับปี 2006 7 ล้านบาทและภายในปี 2009 จะได้ถึง 14,270,000 (9.3%) การสูญเสียงานได้ไม่เพียง แต่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยและบริการ(ธนาคารและ บริษัท ประกันภัย) ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากความวุ่นวายซับไพรม์แต่ได้แพร่กระจายไปยังร้านค้าปลีก, การผลิต, การพักผ่อนและการบริการระดับมืออาชีพ ลดลงของราคาบ้านรวมกับข่าวของการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในส่วนอื่น ๆ ของประเทศทำให้เจ้าของบ้านน้อยที่ร่ำรวยและระมัดระวังมากขึ้นเอื้อที่จะค่อยๆลดลงในการใช้จ่าย ใช้จ่ายผู้บริโภคน้อยที่สุดก็อ่อนแอเศรษฐกิจที่กระตุ้นให้ บริษัท ที่จะเริ่มต้นวางปิดคนงานในวงจรที่ทำให้เกิดผู้ประกอบการที่จะกลายเป็นประหยัดมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีอัตราการว่างงานถึง 10.1% สหรัฐอเมริกากรมแรงงานสำนักงานแรงงาน
สถิติตัวเลขการว่างงานบันทึกการว่างงานเพิ่มขึ้นในระหว่างธันวาคม 2549
และธันวาคม 2009 เป็น 7.2 ล้าน สหรัฐอเมริกาแห่งชาติกดอธิบายลดลงในการจ้างงาน
เป็นลดลงมากที่สุดตั้งแต่ Great อาการซึมเศร้า . รวมรูปสำหรับ
เราว่างงานปี 2549 อยู่ที่ 7 ล้านบาท และลดลงได้ถึง 14.27 ล้าน ( 9.3% ) การสูญเสียงานไม่ได้เท่านั้น
เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมบริการ ที่อยู่อาศัยและธนาคารและบริษัทประกัน ) ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติ subprime
แต่ได้แพร่กระจายไปยังการผลิต ค้าปลีก และสันทนาการ
บริการระดับมืออาชีพ ลดลงของราคาบ้าน รวมกับข่าวของการว่างงานที่เพิ่มขึ้นใน
ส่วนอื่นของประเทศทำให้เจ้าของบ้านทั้งสองไม่ร่ำรวย และระมัดระวังมากขึ้น สาเหตุ
จะค่อยๆลดลงในการใช้จ่าย การใช้จ่ายผู้บริโภคน้อยลง ในที่สุดทำให้เศรษฐกิจ
แจ้งบริษัทเพื่อเริ่มเลิกจ้างคนงานในวงจรอุบาทว์ ที่ทำให้ครอบครัว


ยิ่งประหยัดมากขึ้น