The history of the Opera web browse

The history of the Opera web browser began in 1994 when it was started as a research project at Telenor, the largest Norwegian telecommunications company. In 1995, the project branched out into a separate company named Opera Software ASA,[1] with the first publicly available version released in 1996.[2] Opera has undergone extensive changes and improvements, and introduced notable features such as Speed Dial.

Until version 2.0, the Opera browser was called MultiTorg Opera (version 1.0) and had only a limited internal release—although it was demonstrated publicly at the Third International WWW Conference in April 1995.[3][4] It was known for its multiple document interface (MDI) and 'hotlist' (sidebar), which made browsing several pages at once much easier, as well as being the first browser to completely focus on adhering to the W3C standards.

In February 2013, Opera Software announced that their in-house rendering engine, Presto, would be phased out in favour of WebKit.[5] Opera 15 saw the browser being fully rewritten, with this and subsequent releases being based on Blink and Chromium.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติความเป็นมาของเว็บเบราว์เซอร์โอเปร่าเริ่มขึ้นในปี 1994 เมื่อเริ่มเป็นโครงการวิจัยที่ Telenor บริษัทโทรคมนาคมที่นอร์เวย์ที่ใหญ่ที่สุด ใน 1995 โครงการ branched ออกเป็นบริษัทแยกต่างหากชื่อโอเปร่าซอฟต์แวร์ ASA, [1] กับรุ่นเผยแรกออกในปี 1996[2] โอเปร่ามีเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดและปรับปรุง และแนะนำคุณสมบัติโดดเด่นเช่นเรียกเลขหมายด่วนจนถึงรุ่น 2.0 เบราว์เซอร์โอเปร่าถูกเรียกว่าโอเปร่า MultiTorg (รุ่น 1.0) และมีเพียงจำกัดภายในปล่อย — แม้ว่ามันถูกแสดงอย่างเปิดเผยที่ประชุม WWW นานาชาติที่สามในเดือน 1995 เมษายน[3][4] ถูกเรียกสำหรับการติดต่อเอกสารหลาย ๆ (MDI) และ 'hotlist' (sidebar), ที่ทำการเรียกดูหน้าหลายครั้งมากง่าย เป็นการเบราว์เซอร์แรกสมบูรณ์เน้นมาตรฐานมาตรฐาน W3Cในเดือน 2013 กุมภาพันธ์ โอเปร่าซอฟต์แวร์ประกาศว่า เครื่องยนต์ของพวกเขาในบ้านจำลอง Presto จะถูกยุติลงเว็บคิต[5] โอเปร่า 15 เห็นเบราว์เซอร์กำลังจิตเต็ม นี้ และต่อมาออกกำลังตามกะพริบและโครเมียม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติศาสตร์ของเว็บเบราเซอร์ Opera เริ่มต้นขึ้นในปี 1994 เมื่อมันเริ่มต้นเป็นโครงการวิจัยที่เทเลนอร์ที่ใหญ่ที่สุด บริษัท โทรคมนาคมนอร์เวย์ ในปี 1995 โครงการแยกออกเป็น บริษัท ที่แยกต่างหากชื่อ Opera Software ASA [1] กับรุ่นแรกที่เปิดเผยต่อสาธารณชนรับการปล่อยตัวในปี 1996 [2] โอเปร่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางและการปรับปรุงและแนะนำคุณสมบัติที่โดดเด่นเช่นโทรด. จนกระทั่ง รุ่น 2.0 เบราเซอร์ Opera ถูกเรียก MultiTorg โอเปร่า (รุ่น 1.0) และมีเพียง จำกัด ปล่อยแม้ว่าภายในมันก็แสดงให้เห็นถึงสาธารณชนที่สามการประชุมนานาชาติละเอียดในเดือนเมษายนปี 1995 [3] [4] มันเป็นที่รู้จักสำหรับเอกสารหลาย อินเตอร์เฟซ (MDI) และ 'hotlist' (แถบด้านข้าง) ซึ่งทำให้เรียกดูหน้าหลายครั้งมากขึ้นเช่นเดียวกับการเป็นเบราว์เซอร์แรกที่สมบูรณ์มุ่งเน้นไปที่การยึดมั่นในมาตรฐาน W3C. ในมกราคม 2013, โอเปร่าซอฟแวร์ประกาศว่าทำาของพวกเขา บ้านเครื่องมือการแสดงผล, Presto จะได้ค่อย ๆ ออกมาในความโปรดปรานของ WebKit. [5] Opera 15 เห็นเบราว์เซอร์ถูกเขียนใหม่อย่างเต็มที่กับเรื่องนี้และรุ่นต่อ ๆ มาอยู่บนพื้นฐานของการกะพริบและโครเมี่ยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติความเป็นมาของ Opera เว็บเบราเซอร์เริ่มต้นในปี 1994 เมื่อมันเริ่มต้นเป็นโครงการวิจัยที่เทเลนอร์ , นอร์เวย์บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุด ในปี 1995 , โครงการย่อยออกเป็น บริษัท ที่แยกต่างหากที่ชื่อ Opera อาสาซอฟต์แวร์ [ 1 ] กับครั้งแรกต่อสาธารณะรุ่นที่ออกในปี 1996 [ 2 ] Opera มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางและการปรับปรุงและแนะนำคุณสมบัติเด่น เช่น Speed Dial

จนถึงรุ่น 2.0 , Opera เบราว์เซอร์ถูกเรียกว่า multitorg โอเปร่า ( รุ่น 1.0 ) และมีเพียงจำกัดภายในรุ่นแม้ว่าจะแสดงต่อสาธารณชนในการประชุมระหว่างประเทศที่สาม www ในเดือนเมษายนปี 1995 . [ 3 ] [ 4 ] มันเป็นที่รู้จักของอินเตอร์เฟซ MDI เอกสารต่าง ๆ การฝึกจิตวิญญาณ ) และ ' ' ( ด้านข้าง )ซึ่งทำให้การเรียกดูหลายหน้าพร้อมกันได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเป็นเบราว์เซอร์แรกที่สมบูรณ์มุ่งเน้นวิธีการที่ตรงกับมาตรฐาน W3C .

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 , โอเปร่า ซอฟท์แวร์ประกาศว่าพวกเขาในการแสดงผลเครื่องยนต์ เพี้ยง จะถูกแบ่งออกในความโปรดปรานของ WebKit [ 5 ] งิ้ว 15 เห็นเบราว์เซอร์ได้เขียนใหม่ด้วยสิ่งนี้ และต่อมาจะถูกยึดกระพริบตาและโครเมียม