Much prior research has suggested t

Much prior research has suggested that
intentional insulin omission is common
among female adolescents with type 1 diabetes, serving as a weight control strategy
and sometimes linked to eating disorders
(10). We found that students (who were
younger than nonstudents) were more
likely to skip injections they knew they
should take, but this behavior was not more
common among women than it was among
men. We found no overall association between age and intentional insulin injection
omission among patients with type 1 diabetes, suggesting that patients with type 1 diabetes “age-out” of this behavior by early
adulthood, when they complete their education. Ascertaining the validity of this interpretation would require following youth
with type 1 diabetes as they age into adulthood to determine change in rate of insulin
omission.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิจัยมากก่อนหน้านี้ได้แนะนำที่อินซูลินโดยตั้งใจกระทำการอันเป็นปกติในหมู่วัยรุ่นหญิงมีโรคเบาหวานชนิดที่ 1 หน้าที่เป็นกลยุทธ์การควบคุมน้ำหนักและบางครั้งถูกเชื่อมโยงกับโรค eating(10) นั้นเราพบว่านักเรียนที่มีอายุน้อยกว่า nonstudents) ถูกเพิ่มเติมน่าจะฉีดพวกเขารู้พวกเขาข้ามควรใช้ แต่ลักษณะนี้ไม่ได้มากขึ้นพบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าเป็นผู้ผู้ชาย เราพบไม่สัมพันธ์โดยรวมระหว่างอายุและฉีดอินซูลินโดยตั้งใจกระทำการอันระหว่างผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 แนะนำว่า ผู้ป่วยที่มีพิมพ์ 1 โรคเบาหวาน "หมดอายุ" ของปัญหานี้โดยเร็ววุฒิ เมื่อพวกเขาได้เรียน Ascertaining มีผลบังคับใช้ตีความนี้จะต้องมีต่อเยาวชนมีชนิดโรคเบาหวาน 1 ตามอายุเป็นวุฒิเพื่อพิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราของอินซูลินกระทำการอัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยก่อนมากได้ชี้ให้เห็นว่า
การละเลยอินซูลินเจตนาเป็นเรื่องธรรมดา
ในหมู่วัยรุ่นหญิงที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ทำหน้าที่เป็นกลยุทธ์การควบคุมน้ำหนัก
และบางครั้งการเชื่อมโยงกับความผิดปกติของการรับประทานอาหาร
(10) เราพบว่านักเรียน (ซึ่ง
อายุน้อยกว่า nonstudents) ได้มากขึ้น
มีแนวโน้มที่จะข้ามการฉีดพวกเขารู้ว่าพวกเขา
ควรจะใช้ แต่พฤติกรรมนี้ไม่ได้มากขึ้น
ทั่วไปในหมู่ผู้หญิงมากกว่ามันเป็นหนึ่งใน
ผู้ชาย เราพบว่าไม่มีความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างอายุและอินซูลินฉีดจงใจ
ละเลยในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวานประเภท 1 "อายุออก" ของพฤติกรรมนี้โดยในช่วงต้นของ
วัยผู้ใหญ่เมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษาของพวกเขา การสืบหาความถูกต้องของการตีความนี้จะต้องเยาวชนต่อไปนี้
ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เมื่ออายุเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ที่จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในอัตราของอินซูลิน
ละเลย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิจัยมากได้ชี้ให้เห็นว่าเจตนาเป็นเรื่องธรรมดา

ละเว้นอินซูลินระหว่างวัยรุ่นหญิงกับเบาหวานชนิดที่ 1 ให้บริการเป็นกลยุทธ์การควบคุมน้ำหนัก และบางครั้งที่เชื่อมโยงกับความผิดปกติของการรับประทานอาหาร

( 10 ) เรา พบว่า นักเรียน ( ที่อ่อนกว่า )

nonstudents ) มีแนวโน้มที่จะข้ามการฉีดที่พวกเขารู้ว่าพวกเขา
ควรใช้ แต่พฤติกรรมนี้ไม่ได้มากขึ้น
ทั่วไปในหมู่ผู้หญิงมากกว่าเป็นระหว่าง
ผู้ชาย เราไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างอายุและตั้งใจโดยการฉีดอินซูลิน
การละเลยในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แนะนำว่า ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 " อายุ " ของพฤติกรรมนี้โดยเร็ว
ผู้ใหญ่เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการศึกษาของพวกเขา การสืบหาความถูกต้องของการตีความนี้จะต้องมีเยาวชน
ต่อไปนี้โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เมื่ออายุเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในอัตราอินซูลิน
การละเลย