Liu et al. (2014) examined studies

Liu et al. (2014) examined studies on mobile learning in K-12 from 2007 to the present. They found in 63 studies from 15 refereed journals that research was primarily exploratory in nature and focused on understanding the educational affordances of using mobile devices in instructional practices. A survey of 114 papers from mLearn 2005, 2007, and 2008 conducted by Wingkvist and Ericcson (2011) investigated and compared the research methods and research purposes of these papers. The papers reviewed were evenly distributed among the research methods investigated, with one exception. There were few papers using basic research, which would allow the researcher to study problems to which methods or possible solutions have yet to be identified. In terms of research purposes, papers that describe research were well represented, but there was a lack of papers targeting evaluation. These authors stated that a challenge for mobile learning research is to stop, turn around, and reflect over the research results in order to avoid already known pitfalls. They also stated that a head start is given if research is built on previous research instead of reinventing the wheel every time a new mobile learning initiative begins. However, they caution that much of the research being conducted describes how the real world works and is often presented as the result of a small-scale
150 J Sci Educ Technol (2016) 25:149–160
123
study. This calls into question the generalizability of the research. The preceding studies have provided a big picture look at how mobile learning is occurring in education. However, these studies do not provide any valuable insights into specific content areas.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Liu et al. (2014) ศึกษาตรวจสอบบนมือถือการเรียนรู้ในระดับ K-12 จาก 2007 ถึงปัจจุบัน พวกเขาพบในการศึกษา 63 จากสมุด refereed 15 ว่า วิจัยสำรวจส่วนใหญ่ในธรรมชาติ และเน้นความเข้าใจ affordances การศึกษาของการใช้โทรศัพท์มือถือในการปฏิบัติการสอน การสำรวจเอกสาร 114 จาก mLearn 2005, 2007, 2008 และดำเนินการ โดย Wingkvist และ Ericcson (2011) ตรวจสอบ และเปรียบเทียบวิธีการวิจัยและงานวิจัยวัตถุประสงค์ของเอกสารเหล่านี้ ตรวจทานเอกสารได้เท่า ๆ กันกระจายวิธีวิจัยการตรวจสอบ ยกเว้น มีไม่กี่กระดาษใช้วิจัยพื้นฐาน ซึ่งจะอนุญาตให้นักวิจัยศึกษาปัญหาซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาหรือยังไม่ได้เป็น identified ในแง่ของวัตถุประสงค์การวิจัย เอกสารที่อธิบายถึงการวิจัยแทนดี แต่มีขาดการกำหนดเป้าหมายการประเมินเอกสาร ผู้เขียนเหล่านี้ระบุว่า ความท้าทายสำหรับการวิจัยการเรียนรู้เคลื่อนหยุด หันไปรอบ ๆ และผลสะท้อนมากกว่าการวิจัยเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดแล้วรู้จัก นอกจากนี้พวกเขายังกล่าวว่า การเริ่มต้นได้รับวิจัยอยู่วิจัยก่อนหน้านี้แทนที่จะบูรณาการล้อทุกครั้งที่เริ่มการริเริ่มการเรียนรู้เคลื่อนที่ใหม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเตือนว่า มากของการวิจัยการอธิบายวิธีการทำงานของโลกจริง และมักจะแสดงเป็นผลลัพธ์ของตัวเล็ก150 J Sci Educ Technol (2016) 25:149 – 160123การศึกษา สายนี้เป็นคำถาม generalizability ของงานวิจัย การศึกษาก่อนหน้านี้มีให้ดูภาพใหญ่ที่มือถือวิธีการเรียนรู้เกิดขึ้นในการศึกษา อย่างไรก็ตาม การศึกษาเหล่านี้ไม่ให้ใด ๆ ลึกลงใน specific พื้นที่เนื้อหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลิว et al, (2014) การตรวจสอบการศึกษาเกี่ยวกับการเรียนรู้เคลื่อนที่ K-12 จากปี 2007 ถึงปัจจุบัน พวกเขาพบในการศึกษา 63 จาก 15 วารสารว่าการวิจัยเป็นหลักสอบสวนในธรรมชาติและมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจ affordances การศึกษาของการใช้โทรศัพท์มือถือในการปฏิบัติการเรียนการสอน จากการสำรวจ 114 เอกสารจาก mLearn ปี 2005 2007 และ 2008 ที่จัดทำโดย Wingkvist และ Ericcson (2011) การตรวจสอบและเปรียบเทียบวิธีการวิจัยและวัตถุประสงค์ในการวิจัยของเอกสารเหล่านี้ เอกสารการตรวจสอบถูกกระจายอย่างสม่ำเสมอในวิธีการวิจัยการตรวจสอบด้วยการยกเว้น มีไม่กี่เอกสารโดยใช้การวิจัยขั้นพื้นฐานซึ่งจะช่วยให้นักวิจัยเพื่อศึกษาปัญหาที่วิธีการหรือแนวทางแก้ปัญหายังไม่ได้รับเอ็ด Fi ระบุได้ ในแง่ของการวิจัยเอกสารที่อธิบายถึงการวิจัยที่เป็นตัวแทนได้ดี แต่ยังขาดเอกสารการกำหนดเป้าหมายการประเมินผล ผู้เขียนเหล่านี้ระบุว่าเป็นความท้าทายสำหรับการวิจัยการเรียนรู้เคลื่อนที่คือการหยุดหันไปรอบ ๆ และสะท้อนมากกว่าผลงานวิจัยในการสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่รู้จักกันอยู่แล้ว พวกเขายังระบุว่าการเริ่มต้นที่หัวจะได้รับถ้าการวิจัยที่ถูกสร้างขึ้นในการวิจัยก่อนหน้านี้แทนที่จะ reinventing ล้อทุกครั้งที่มีความคิดริเริ่มการเรียนรู้เคลื่อนที่ใหม่จะเริ่มขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเขาเตือนว่ามากของการวิจัยที่กำลังดำเนินการอธิบายวิธีการที่โลกแห่งความจริงการทำงานและมักจะนำเสนอเป็นผลมาจากขนาดเล็ก
150 J วิทย์ Educ เทคโนโลยี (2016) 25: 149-160
123
การศึกษา สายนี้เป็นคำถาม generalizability ของการวิจัย การศึกษาก่อนหน้านี้ได้ให้ดูภาพใหญ่ที่เรียนรู้วิธีการที่มือถือจะเกิดขึ้นในการศึกษา อย่างไรก็ตามการศึกษาเหล่านี้ไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าใด ๆ ลงใน speci Fi พื้นที่ C เนื้อหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Liu et al . ( 6 ) ตรวจสอบการศึกษาการเรียนรู้เคลื่อนที่ในภาคบังคับจาก 2007 ถึงปัจจุบัน พวกเขาพบใน 63 จากการศึกษา 15 กรรมการวารสารวิจัยเป็นเชิงสำรวจในธรรมชาติ และเน้นความเข้าใจ affordances การศึกษาการใช้โทรศัพท์มือถือในการสอนปฏิบัติ การสำรวจ 114 เอกสารจาก mlearn 2005 , 2007 และ 2008 จัดโดย wingkvist และ ericcson ( 2011 ) ศึกษาและเปรียบเทียบวิธีการวิจัยและการวิจัยวัตถุประสงค์ของเอกสารเหล่านี้ เอกสารทบทวนมีกระจายอยู่ทั่วไปในการวิจัย วิธีการศึกษา กับหนึ่งข้อยกเว้น มีหนังสือพิมพ์ไม่กี่ใช้งานวิจัยพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้นักวิจัยเพื่อศึกษาปัญหา หรือวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ยังเป็น identi จึงเอ็ด ในแง่ของวัตถุประสงค์การวิจัย เอกสารที่อธิบายวัตถุประสงค์ดีแสดง แต่ขาดเอกสารเป้าหมายการประเมิน ผู้เขียนเหล่านี้ระบุว่า ความท้าทายสำหรับโทรศัพท์มือถือการเรียนรู้คือการหยุด หันกลับไป และfl ect มากกว่าการวิจัยเพื่อหลีกเลี่ยงรู้จักกันอยู่แล้วนี่ พวกเขายังกล่าวว่าเริ่มต้นจะได้รับหากงานวิจัยที่สร้างขึ้นในการวิจัยก่อนหน้าแทน reinventing ล้อทุกครั้งที่ริเริ่มการเรียนรู้มือถือใหม่จะเริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาระมัดระวังมากของการวิจัยถูกดำเนินการอธิบายวิธีการโลกการทำงานจริง และมักแสดงผลของกระบวนการ150 J วิทย์จัด TECHNOL ( 2016 ) 25:149 – 160123การศึกษา นี้โทรเข้ามาถามวิชาของการวิจัย ก่อนหน้านี้มีการศึกษาให้ภาพใหญ่ดูมือถือการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในการศึกษา อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ไม่ได้ให้บริการใด ๆที่มีข้อมูลเชิงลึกในกาจึง C เนื้อหาของพื้นที่