Madurai is located at 9.93°N 78.12°

Madurai is located at 9.93°N 78.12°E.[40] It has an average elevation of 101 metres. The city of Madurai lies on the flat and fertile plain of the river Vaigai, which runs in the northwest-southeast direction through the city, dividing it into two almost equal halves.[41] The Sirumalai and Nagamalai hills lie to the north and west of Madurai.[42] The land in and around Madurai is utilised largely for agricultural activity, which is fostered by the Periyar Dam.[42] Madurai lies southeast of the western ghats, and the surrounding region occupies the plains of South India and contains several mountain spurs.[43] The soil type in central Madurai is predominantly clay loam, while red loam and black cotton types are widely prevalent in the outer fringes of the city.[44] Paddy is the major crop, followed by pulses, millet, oil seed, cotton and sugarcane.[44]

The municipal corporation of Madurai has an area of 147.977 km2.[45][41] Madurai is hot and dry for eight months of the year.[46] Cold winds are experienced during February and March as in the neighbouring Dindigul.[46] The hottest months are from March to July.[46] The city experiences a moderate climate from August to October, tempered by heavy rain and thundershowers, and a cool and climate from November to February.[46] Fog and dew are rare, occurring only during the winter season.[46] Being equidistant from mountains and the sea, it experiences similar monsoon pattern with Northeast monsoon and Southwest monsoon, with the former providing more rain during October to December.[46] The average annual rainfall for the Madurai district is about 85.76 cm.[47]

Temperatures during summer generally reach a maximum of 40 °C and a minimum of 26.3 °C, although temperatures up to 42 °C are not uncommon.[48] Winter temperatures range between 29.6 °C and 18 °C. A study based on the data available with the Indian Meteorological Department on Madurai over a period of 62 years indicate rising trend in atmospheric temperature over Madurai city, attributed to urbanisation, growth of vehicles and industrial activity.[48] The maximum temperature of 42 °C for the decade of 2001 – 2010 was recorded in 2004 and in 2010.[48]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาดูไรอยู่ 9.93 ° N 78.12 ° E.[40] มีค่าเฉลี่ยระดับความสูง 101 เมตร เมืองมาดูไรอยู่บนราบแบน และอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำ Vaigai ที่ทำงานในทิศทางตะวันตกเฉียงเหนือตะวันออกเฉียงใต้ผ่านเมือง แบ่งมันออกเป็นสองเกือบเท่ากับครึ่งหนึ่ง[41] ภูเขา Sirumalai และ Nagamalai อยู่ ทางทิศเหนือ และทิศตะวันตก ของมาดูไร[42] ที่ดินใน และ รอบ ๆ มาดูไรได้ใช้ส่วนใหญ่ในกิจกรรมเกษตร ซึ่งเด็ก ๆ โดยเขื่อน Periyar[42] มาดูไรอยู่ตะวันออกเฉียงใต้แห่งตะวันตก และรอบข้างใช้ราบของอินเดียใต้ และประกอบด้วยเดือยเขาหลาย[43] ดินชนิดในมาดูไรกลางคือเป็น loam ดิน loam สีแดงและสีดำผ้าฝ้ายชนิดมีแพร่หลายอย่างกว้างขวางในชานเมืองนอก[44] ข้าวเป็นพืชหลัก ตาม ด้วยพัลส์ ฟ่าง เมล็ดน้ำมัน ฝ้าย และอ้อย[44]บริษัทมาดูไรของเทศบาลมีพื้นที่ 147.977 km2[45][41] มาดูไรจะร้อน และแห้งเดือนแปดปี[46] ลมเย็นเป็นประสบการณ์ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมใน Dindigul ประเทศ[46] เดือนร้อนแรงที่สุดคือเดือนมีนาคม-กรกฎาคม[46] เมืองประสบความทุกขสภาพภูมิอากาศจากเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม อารมณ์ โดยฝนที่ตกหนัก และ thundershowers และเย็น และอากาศจากเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์หมอก [46] และดิวดรอพได้ยาก เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น[46] ถูกกั้นจากภูเขาและทะเล ก็ประสบมรสุมรูปแบบที่คล้ายกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กับอดีตที่ให้ฝนตกในระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม[46] ปริมาณน้ำฝนรายปีเฉลี่ยสำหรับอำเภอมาดูไรได้ประมาณ 85.76 ซม. [47]อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนโดยทั่วไปถึงสูงสุด 40 องศาเซลเซียสและต่ำสุด 26.3 องศาเซลเซียส แม้ว่าอุณหภูมิถึง 42 องศาเซลเซียสไม่ใช่[48] หนาวช่วงอุณหภูมิระหว่าง 29.6 ° C และ 18 องศาเซลเซียส การศึกษาตามข้อมูลที่พร้อมใช้งานกับกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียในมาดูไรระยะเวลา 62 ปีระบุเพิ่มขึ้นแนวโน้มอุณหภูมิอากาศเหนือเมืองมาดูไร บันทึกของ เจริญเติบโตของกิจกรรมอุตสาหกรรมและยานพาหนะ[48] อุณหภูมิสูงสุด 42 องศาเซลเซียสในทศวรรษของปีค.ศ. 2001-2010 ถูกบันทึก ในปี 2004 และ ในปี 2553[48]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หัวใจอยู่ที่ 9.93 / N 78.12 ° E . [ 40 ] มันมีความสูงเฉลี่ย 101 เมตร เมืองซานตั้งอยู่บนที่ราบแบนและความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำ vaigai ที่วิ่งในทิศตะวันออกเฉียงใต้ตะวันตกเฉียงเหนือผ่านเมือง แบ่งออกเป็น สอง เกือบเท่าครึ่ง [ 41 ] sirumalai และ nagamalai ภูเขาโกหกทิศเหนือและตะวันตกของ Madurai .[ 42 ] ที่ดินใน และ รอบ ๆหัวใจจะใช้ไปเพื่อกิจกรรมทางการเกษตรซึ่งได้รับการส่งเสริมโดยเขื่อน Periyar . [ 42 ] ซานตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Ghats ตะวันตกและภูมิภาคโดยรอบตรงบริเวณที่ราบทางตอนใต้ของอินเดียและมีเดือยภูเขาหลาย [ 43 ] ดินประเภทกลางใน Madurai เป็นดินร่วนดินเด่น ,ในขณะที่ดินร่วนสีแดงและประเภทผ้าฝ้ายสีดำมีแพร่หลายอย่างกว้างขวางในขอบด้านนอกของเมือง [ 44 ] ข้าวเป็นพืชหลัก ตามด้วยถั่ว , ข้าวฟ่าง , น้ำมันเมล็ดฝ้ายและอ้อย [ 44 ]

บริษัทเทศบาลของซานมีพื้นที่ 147.977 ตารางกิโลเมตร [ 45 ] [ 41 ] ซานร้อนและแห้งสำหรับแปดเดือนของปี[ 46 ] ลมหนาวกำลังตกอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ในประเทศ dindigul [ 46 ] เดือนที่ร้อนที่สุดคือตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม [ 46 ] เมืองประสบการณ์สภาพอากาศปานกลางจากเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม โดยมีฝนตกหนักและคลื่นอารมณ์และเย็นและสภาพอากาศจากพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ [ 46 ] หมอกและน้ำค้างจะยาก เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูหนาว[ 46 ] มีระยะเท่ากันจากภูเขาและทะเล มันประสบการณ์รูปแบบคล้ายคลึงกับลมมรสุมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กับอดีตให้ฝนตกมากขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม [ 46 ] เฉลี่ยปริมาณน้ำฝนในเขตซาน ประมาณ 85.76 ซม. [ 47 ]

อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนโดยทั่วไปเข้าถึงได้สูงสุด 40 ° C และต่ำสุดของมหาชน° Cแม้อุณหภูมิสูงถึง 42 องศา C จะไม่พิสดาร [ 48 ] ช่วงฤดูหนาวระหว่างราว° C และ 18 ° C . การศึกษาขึ้นอยู่กับข้อมูลที่สามารถใช้ได้กับที่อินเดียกรมอุตุนิยมวิทยาใน Madurai ระยะเวลา 62 ปี ระบุว่า แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในอุณหภูมิชั้นบรรยากาศเหนือ Madurai เมืองประกอบกับการกลายเป็นเมือง การขยายตัวของยานพาหนะ และ กิจกรรม อุตสาหกรรม[ 48 ] อุณหภูมิสูงสุด 42 ° C ต่อทศวรรษของปี 2001 – 2010 ได้รับการบันทึกในปี 2004 และในปี 2010 [ 48 ]