ขี่ม้า : กติกากีฬา ขี่ม้ากีฬาขี่ม้าถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้คือ1. การแปล - ขี่ม้า : กติกากีฬา ขี่ม้ากีฬาขี่ม้าถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้คือ1. ไทย วิธีการพูด

ขี่ม้า : กติกากีฬา ขี่ม้ากีฬาขี่ม้า



ขี่ม้า : กติกากีฬา ขี่ม้า

กีฬาขี่ม้าถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้คือ
1. Dressage ศิลปการบังคับม้า
2. Show jumping กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง
3. Eventing อีเว้นติ้ง
4. Driving รถม้า
5. Vaulting ยิมนาสติกบนหลังม้า
6. Endurance การขี่ม้าวิบาก

ใน โอลิมปิคเกมส์ กีฬาขี่ม้าถูกยอมรับและบรรจุเพียง 3 ประเภทแรกเท่านั้นสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยจึงได้กำหนดให้มีการแข่งขันใน เฉพาะ 3 ประเภทแรก ซึ่งได้รับความนิยมกันในหมู่สมาชิกสโมสรต่าง ๆ ฉะนั้นจะขอกล่าว เฉพาะกีฬาประเภทที่มีการแข่งขันกันในเมืองไทยและโอลิมปิกเท่านั้น

1. ศิลปะการบังคับม้า Dressage
ก่อน การแข่งขันผู้เข้าแข่งขันจะไดรับแบบทดสอบที่กำหนดว่า จะต้องทำท่าอะไรบ้าง ในเวลาที่กำหนดให้ เรียกว่าคะกนนจากท่าบังคับ จะมีคะแนนเต็มข้อละ 10 คะแนน สมมุติ 20 ข้อ คือ 200 คะแนน ส่วนที่ 2 คือ คะแนนสะสม ดูจากภาพรวมการแสดงออกของม้าและการขี่เป็นหลัก ตรงนี้มี 4 ข้อตายตัว ข้อละ 10 คะแนน เป็น 40 คะแนน รวมคะแนน 2 ส่วนเป็นคะแนนทั้งหมด 240 คะแนน แพ้ชนะดูจากคะแนนที่ได้รับในแต่ละข้อรวมกัน คะแนนสูงสุด (ใกล้ 240 มากที่สุด) คือผู้ชนะ

2. กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง Show jumping
กีฬาขี่ม้าประเภทนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องหลักอยู่ 3 ส่วนด้วยกันคือ
1. กรรมการตัดสิน
2. ผู้ออกแบบสนาม (เครื่องกระโดดที่กำหนดวางไว้ในสนามแข่งขันจะถูกเปลี่ยนไปทุกครั้งของการแข่งขัน)
3. นักกีฬาและม้าที่แข่งขัน

ผู้ ออกแบบสนามแข่งขันจะเป็นผู้เริ่มออกแบบเครื่องกระโดดชนิดต่าง ๆ ที่จะใช้ทดสอบนักกีฬา และม้า ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 10-12 เครื่อง (รวมทั้งเครื่องต่อเนื่อง) กำหนดความสูง ความกว้างของแต่ละเครื่องตามระดับความสามารถของการแข่งขันนั้น ๆ และทิศทางในการเคลื่อนที่ (เลี้ยวไปเลี้ยวมา ระดับความสามารถน้อยมุมเลี้ยวจะกว้าง ระดับความสามารถสูงมุมเลี้ยวจะแคบทำให้ยากสำหรับการกระโดด) จากนั้นกรรมการตัดสินจะทำการตรวจและรับรองการออกแบบเพื่อให้มั่นใจว่า ยุติธรรมและปลอดภัยสำหรับผู้แข่งขัน เมื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะเปิดโอกาสให้นักกีฬาเข้าไปเดินสำรวจทิศทางการเคลื่อนที่ จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุดซึ่งได้ถูกกำหนดระยะทางไว้แล้วและเมื่อพร้อม แล้วการแข่งขันจึงจะเริ่มขึ้นได้

ในกีฬาประเภทนี้ คะแนนทุกคนที่ได้รับก่อนการแข่งขันคือ 0 คะแนน ถ้านักกีฬาสามารถกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางได้ทุกเครื่องโดยไม่ทำไม้ขวางตก ภายในเวลาที่กำหนดไว้ (วัดระยะทางไว้แล้ว) ก็จะมีคะแนนเป็น 0 คะแนน นั่นคือ คะแนนที่ดีที่สุด เพราะปกติไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถผ่านแบบทดสอบได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด สมมติว่าเข้าแข่งขัน 10 คนไม่พลาดเลย 3 คน อีก 7 คนที่เหลือพลาดในแต่ละเครื่องแตกต่างกันออกไป ก็จะมีคะแนนแตกต่างลดกลั่นกันไป โดยจะมีคะแนนติดลบ เช่น -3, -4 หรือ -8 ฉะนั้นการที่ได้คะแนน 0 จึงถือเป็นคะแนนที่ดีที่สุด

ปัจจัย ต่อไปที่เกี่ยวข้องในกีฬาประเภทนี้คือ ปัจจัยเวลาที่กำหนดให้ สมมติว่า จากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุด มีระยะทาง 300 เมตร ถ้ากำหนดให้ใช้ความเร็ว 300 ม./ นาที (60 นาที) นั่นหมายความว่านักกีฬานอกจากจะต้องพยายามไม่ให้มีปัญหาที่เครื่องกระโดด แล้ว จากจุดเริ่มต้นจะต้องผ่านจุดสิ้นสุดให้ได้ภายในเวลา 60 วินาที ถ้าเกินกว่านั้นจะโดนตัดคะแนนวินาทีละ 0.25 คะแนน ยกตัวอย่าง ผู้ขี่ใช้เวลา 64 วินาที คือเกิน 4 วินาที เสียเวลาวินาทีละ 0.25 คะแนน รวมเป็นเสีย 1 คะแนน

ในกรณีที่คะแนนดีที่สุดเท่ากัน จะมีการตัดสินโดยกระโดดรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งหนึ่งโดยผู้ออกแบบสนามจะกำหนด จำนวนเครื่องกระโดดให้น้อยลง ทิศทางการเคลื่อนที่จะยากขึ้น ความสูง ความกว้าง จะเพิ่มขึ้นด้วยปัจจัยเวลาที่เกี่ยวข้องคราวนี้ถูกระบุให้เป็นตัวตัดสินแพ้ ชนะคือ ในรอบนี้นอกจากจะต้องไม่มีคะแนนเสียแล้วคนที่เวลาเร็วที่สุดคือผู้ชนะนี่เอง คือสาเหตุของความตื่นเต้นเร้าใจในกีฬาประเภทนี้คือ

3. อีเว้นติ้ง Eventing
เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ตื่นเต้นเร้าใจและมีโอกาสแก้ตัวได้ในวันต่อไป เพราะกีฬาประเภทนี้ต้องทดสอบถึง 3 แบบ คือ
ทดสอบด้วย
1. ศิลปะการบังคับม้า
2. ข้ามภูมิประเทศ
3. กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง
แล้ว เอาคะแนนทั้งหมดมารวมกัน ใครเสียคะแนนน้อยที่สุดคนนั้นเป็นผู้ชนะ ในการแข่งขันวันแรกจะเป็นการแข่งขันศิลปะการบังคับม้า ซึ่งเป็นกากรแข่งขันที่ไม่หนักมากนัก แต่ผู้ขี่ก็ต้องพยายามเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นการเก็บคะแนนสะสมไว้ในวันแรก ในวันที่สองของการแข่งขันจะเป็น การแข่งขันข้ามภูมิประเทศ เป็นการแข่งขันความเร็ว และความทรหด โดยแบ่งอกเป็น 4 phase คือ

Phase A : Roads and Tracks
ซึ่ง ผู้แข่งขันจะต้องขี่ม้าไปตามเส้นทางที่กำหนดให้ในภูมิประเทศเป็นระยะทาง ประมาณ 3-6 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับเกรดของผู้แข่งขัน ผู้ขี่จะต้องกะความเร็วในการเดินทางให้ได้ประมาณกิโลเมตร ใน 4 นาที ซึ่งผู้ขี่สามารถใช้ฝีเท้าวิ่งเรียบหรือโขยกสั้นก็ได้ แต่จะต้องระลึกไว้เสมอว่ายังมีการแข่งขันรออยู่อีก 3 Phase

Phase B : Steeplechase
เป็น การแข่งขันในลู่วิ่ง ซึ่งมีเครื่องกีดขวางตั้งไว้เป็นระยะประมาณ 6-8 เครื่อง ซึ่งสิ่งที่สำคัญของ Phase นี้ คือ ผู้แข่งขันจะต้องผ่าน Phase ให้ได้ในเวลาที่กำหนด คือ 640 เมตร / นาที (เร็วมาก)

Phase C : Roads and Tracks อีกครั้ง
ซึ่ง ใน Phase นี้จะมีระยะทางยาวกว่าใน Phase A เพื่อเป็นการผ่อนคลายม้า หลังจากวิ่งเร็วมากใน Phase B ปกติระยะทางประมาณ 5-8 กิโลเมตร ในความเร็วที่กำหนดให้เท่ากับ Phase A

Phase D : ข้ามภูมิประเทศ
การ ขี่ม้าวิบากในภูมิประเทศมีระยะทางประมาณ 4-8 กิโลเมตร จะมีเครื่องกีดขวางตามธรรมชาติเป็นระยะ ตามเส้นทางที่ผู้ออกแบบสนามได้กำหนดไว้ จำนวนเครื่องกีดขวางมีประมาณ 30 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับเกรดของการแข่งขัน ด้วยความเร็ว 520-570 เมตร/นาที

หลัง จากผ่านการแข่งขันในภูมิประเทศอันทรหดในระยะทางประมาณไม่ต่ำกว่า 20-30 กิโลเมตร ในวันต่อไปจะเป็นการแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ซึ่งก่อนจะแข่งขันในแบบทดสอบนี้ได้ ม้าต้องได้รับการตรวจสุขภาพจากกรรมการตัดสินเสียก่อน เพื่อป้องกันการทารุณสัตว์ เพราะการแข่งขันในภูมิประเทศโอกาสที่ม้าจะได้รับบาดเจ็บมีสูงกว่า การแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เมื่อรวมเอาคะแนนทั้ง 3 แบบทดสอบแล้วผู้ที่มีคะแนนเสียน้อยที่สุดคือ ผู้ชนะเลิศ

ในปัจจุบันกีฬา Eventing แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
1. 3 Day Event ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว
2. 1 Day Event เหมือนกันทั้ง 3 แบบทดสอบ แตกต่างกันตรงที่การทดสอบในภูมิประเทศจะแข่งขันเฉพาะ Phase D เท
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ขี่ม้า: กติกากีฬาขี่ม้าดังนี้คือกีฬาขี่ม้าถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภท1. dressage ศิลปการบังคับม้า2. กระโดดดูกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง3. eventing อีเว้นติ้ง4. ขับรถรถม้า5. vaulting ยิมนาสติกบนหลังม้า6. การขี่ม้าวิบากความอดทนในโอลิมปิคเกมส์กีฬาขี่ม้าถูกยอมรับและบรรจุเพียง 3 ประเภทแรกเท่านั้นสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยจึงได้กำหนดให้มีการแข่งขันในเฉพาะ 3 ประเภทแรกซึ่งได้รับความนิยมกันในหมู่สมาชิกสโมสรต่างๆ ฉะนั้นจะขอกล่าวเฉพาะกีฬาประเภทที่มีการแข่งขันกันในเมืองไทยและโอลิมปิกเท่านั้น1. ศิลปะการบังคับม้า Dressageก่อนการแข่งขันผู้เข้าแข่งขันจะไดรับแบบทดสอบที่กำหนดว่าจะต้องทำท่าอะไรบ้างในเวลาที่กำหนดให้เรียกว่าคะกนนจากท่าบังคับจะมีคะแนนเต็มข้อละ 10 คะแนนสมมุติ 20 ข้อคือ 200 คะแนนส่วนที่ 2 คือคะแนนสะสมดูจากภาพรวมการแสดงออกของม้าและการขี่เป็นหลักตรงนี้มี 4 ข้อตายตัวข้อละ 10 คะแนนเป็น 40 คะแนนรวมคะแนน 2 ส่วนเป็นคะแนนทั้งหมด 240 คะแนนแพ้ชนะดูจากคะแนนที่ได้รับในแต่ละข้อรวมกันคะแนนสูงสุด (ใกล้ 240 มากที่สุด) คือผู้ชนะ2. กระโดดข้ามเครื่องกีดขวางดูกระโดดส่วนด้วยกันคือกีฬาขี่ม้าประเภทนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องหลักอยู่ 3 1. กรรมการตัดสิน 2. ผู้ออกแบบสนาม (เครื่องกระโดดที่กำหนดวางไว้ในสนามแข่งขันจะถูกเปลี่ยนไปทุกครั้งของการแข่งขัน) 3. นักกีฬาและม้าที่แข่งขันผู้ออกแบบสนามแข่งขันจะเป็นผู้เริ่มออกแบบเครื่องกระโดดชนิดต่างๆ ที่จะใช้ทดสอบนักกีฬาและม้าปกติจะอยู่ที่ประมาณ 10-12 เครื่อง (รวมทั้งเครื่องต่อเนื่อง) กำหนดความสูงความกว้างของแต่ละเครื่องตามระดับความสามารถของการแข่งขันนั้นๆ และทิศทางในการเคลื่อนที่ (เลี้ยวไปเลี้ยวมาระดับความสามารถน้อยมุมเลี้ยวจะกว้างระดับความสามารถสูงมุมเลี้ยวจะแคบทำให้ยากสำหรับการกระโดด) จากนั้นกรรมการตัดสินจะทำการตรวจและรับรองการออกแบบเพื่อให้มั่นใจว่ายุติธรรมและปลอดภัยสำหรับผู้แข่งขันเมื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเปิดโอกาสให้นักกีฬาเข้าไปเดินสำรวจทิศทางการเคลื่อนที่จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุดซึ่งได้ถูกกำหนดระยะทางไว้แล้วและเมื่อพร้อมแล้วการแข่งขันจึงจะเริ่มขึ้นได้ในกีฬาประเภทนี้คะแนนทุกคนที่ได้รับก่อนการแข่งขันคือ 0 คะแนนถ้านักกีฬาสามารถกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางได้ทุกเครื่องโดยไม่ทำไม้ขวางตกภายในเวลาที่กำหนดไว้ (วัดระยะทางไว้แล้ว) ก็จะมีคะแนนเป็น 0 คะแนนนั่นคือคะแนนที่ดีที่สุดเพราะปกติไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถผ่านแบบทดสอบได้โดยไม่มีข้อผิดพลาดสมมติว่าเข้าแข่งขัน 10 คนไม่พลาดเลย 3 คนอีก 7 คนที่เหลือพลาดในแต่ละเครื่องแตกต่างกันออกไปก็จะมีคะแนนแตกต่างลดกลั่นกันไปโดยจะมีคะแนนติดลบเช่น -3,-4 หรือ-8 ฉะนั้นการที่ได้คะแนน 0 จึงถือเป็นคะแนนที่ดีที่สุดปัจจัยต่อไปที่เกี่ยวข้องในกีฬาประเภทนี้คือปัจจัยเวลาที่กำหนดให้สมมติว่าจากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุดมีระยะทาง 300 เมตรถ้ากำหนดให้ใช้ความเร็ว 300 ม. / นาที (60 นาที) นั่นหมายความว่านักกีฬานอกจากจะต้องพยายามไม่ให้มีปัญหาที่เครื่องกระโดดแล้วจากจุดเริ่มต้นจะต้องผ่านจุดสิ้นสุดให้ได้ภายในเวลา 60 วินาทีถ้าเกินกว่านั้นจะโดนตัดคะแนนวินาทีละ 0.25 คะแนนยกตัวอย่างผู้ขี่ใช้เวลา 64 วินาทีคือเกิน 4 วินาทีเสียเวลาวินาทีละ 0.25 คะแนนรวมเป็นเสีย 1 คะแนนในกรณีที่คะแนนดีที่สุดเท่ากันจะมีการตัดสินโดยกระโดดรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งหนึ่งโดยผู้ออกแบบสนามจะกำหนดจำนวนเครื่องกระโดดให้น้อยลงทิศทางการเคลื่อนที่จะยากขึ้นความสูงความกว้างจะเพิ่มขึ้นด้วยปัจจัยเวลาที่เกี่ยวข้องคราวนี้ถูกระบุให้เป็นตัวตัดสินแพ้ชนะคือในรอบนี้นอกจากจะต้องไม่มีคะแนนเสียแล้วคนที่เวลาเร็วที่สุดคือผู้ชนะนี่เองคือสาเหตุของความตื่นเต้นเร้าใจในกีฬาประเภทนี้คือ3. อีเว้นติ้ง Eventingเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ตื่นเต้นเร้าใจและมีโอกาสแก้ตัวได้ในวันต่อไปเพราะกีฬาประเภทนี้ต้องทดสอบถึง 3 คำประกอบคือทดสอบด้วย1. ศิลปะการบังคับม้า2. ข้ามภูมิประเทศ3. กระโดดข้ามเครื่องกีดขวางแล้วเอาคะแนนทั้งหมดมารวมกันใครเสียคะแนนน้อยที่สุดคนนั้นเป็นผู้ชนะในการแข่งขันวันแรกจะเป็นการแข่งขันศิลปะการบังคับม้าซึ่งเป็นกากรแข่งขันที่ไม่หนักมากนักแต่ผู้ขี่ก็ต้องพยายามเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นการเก็บคะแนนสะสมไว้ในวันแรกในวันที่สองของการแข่งขันจะเป็นการแข่งขันข้ามภูมิประเทศเป็นการแข่งขันความเร็วและความทรหดโดยแบ่งอกเป็น 4 ระยะคือระยะที่ A: ถนนและติดตามซึ่งผู้แข่งขันจะต้องขี่ม้าไปตามเส้นทางที่กำหนดให้ในภูมิประเทศเป็นระยะทางประมาณ 3-6 กิโลเมตรขึ้นอยู่กับเกรดของผู้แข่งขันผู้ขี่จะต้องกะความเร็วในการเดินทางให้ได้ประมาณกิโลเมตรใน 4 นาทีซึ่งผู้ขี่สามารถใช้ฝีเท้าวิ่งเรียบหรือโขยกสั้นก็ได้แต่จะต้องระลึกไว้เสมอว่ายังมีการแข่งขันรออยู่อีก 3 ระยะขั้นตอน B: Steeplechaseเป็นการแข่งขันในลู่วิ่งซึ่งมีเครื่องกีดขวางตั้งไว้เป็นระยะประมาณ 6-8 เครื่องซึ่งสิ่งที่สำคัญของระยะนี้คือผู้แข่งขันจะต้องผ่านเฟสให้ได้ในเวลาที่กำหนดคือ 640 เมตร / นาที (เร็วมาก)เฟส C: อีกครั้งถนนและติดตามซึ่งในระยะนี้จะมีระยะทางยาวกว่าในระยะ A เพื่อเป็นการผ่อนคลายม้าหลังจากวิ่งเร็วมากในเฟส B ปกติระยะทางประมาณ 5-8 กิโลเมตรในความเร็วที่กำหนดให้เท่ากับเฟส Aระยะ D: ข้ามภูมิประเทศตามหลักขี่ม้าวิบากในภูมิประเทศมีระยะทางประมาณ 4-8 กิโลเมตรจะมีเครื่องกีดขวางตามธรรมชาติเป็นระยะตามเส้นทางที่ผู้ออกแบบสนามได้กำหนดไว้จำนวนเครื่องกีดขวางมีประมาณ 30 หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับเกรดของการแข่งขันด้วยความเร็ว 520-570 เมตร/นาทีหลังจากผ่านการแข่งขันในภูมิประเทศอันทรหดในระยะทางประมาณไม่ต่ำกว่า 20-30 กิโลเมตรในวันต่อไปจะเป็นการแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางซึ่งก่อนจะแข่งขันในแบบทดสอบนี้ได้ม้าต้องได้รับการตรวจสุขภาพจากกรรมการตัดสินเสียก่อนเพื่อป้องกันการทารุณสัตว์เพราะการแข่งขันในภูมิประเทศโอกาสที่ม้าจะได้รับบาดเจ็บมีสูงกว่าการแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเมื่อรวมเอาคะแนนทั้ง 3 แบบทดสอบแล้วผู้ที่มีคะแนนเสียน้อยที่สุดคือผู้ชนะเลิศในปัจจุบันกีฬา Eventing แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ1. กิจกรรมตามที่ได้กล่าวไปแล้ว2. 1 วันเหตุการณ์แตกต่างกันตรงที่การทดสอบในภูมิประเทศจะแข่งขันเฉพาะเหมือนกันทั้ง 3 แบบทดสอบระยะ D เท
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!


ขี่ม้า : กติกากีฬาขี่ม้า

กีฬาขี่ม้าถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภทดังนี้คือ
1 วิธีการศิลปการบังคับม้า
2 แสดงการกระโดดกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง
3 ผลลัพธ์อีเว้นติ้ง
4 ขับรถรถม้า
5 เลยเถิดยิมนาสติกบนหลังม้า
6 ความอดทนการขี่ม้าวิบาก

the โอลิมปิคเกมส์กีฬาขี่ม้าถูกยอมรับและบรรจุเพียง 3 ประเภทแรกเท่านั้นสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยจึงได้กำหนดให้มีการแข่งขันในเฉพาะ 3 ประเภทแรกซึ่งได้รับความนิยมกันในหมู่สมาชิกสโมสรต่างจะฉะนั้นจะขอกล่าว
1 ศิลปะการบังคับม้า Dressage
ก่อนการแข่งขันผู้เข้าแข่งขันจะไดรับแบบทดสอบที่กำหนดว่าจะต้องทำท่าอะไรบ้างในเวลาที่กำหนดให้เรียกว่าคะกนนจากท่าบังคับจะมีคะแนนเต็มข้อละ 10 คะแนนสมมุติ 20 ข้อความ 200 คะแนนส่วนที่ 2 ความคะแนนสะสมตรงนี้มี 4 ข้อตายตัวข้อละ 10 คะแนนเป็น 40 คะแนนรวมคะแนน 2 ส่วนเป็นคะแนนทั้งหมด 240 คะแนนแพ้ชนะดูจากคะแนนที่ได้รับในแต่ละข้อรวมกันคะแนนสูงสุด ( ใกล้ 240 มากที่สุด ) คือผู้ชนะ

2 . กระโดดข้ามเครื่องกีดขวางโชว์การกระโดดกีฬาขี่ม้าประเภทนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องหลักอยู่ส่วนด้วยกันคือ
3
1 กรรมการตัดสิน
2ผู้ออกแบบสนาม ( เครื่องกระโดดที่กำหนดวางไว้ในสนามแข่งขันจะถูกเปลี่ยนไปทุกครั้งของการแข่งขัน )
3 นักกีฬาและม้าที่แข่งขัน

ผู้ออกแบบสนามแข่งขันจะเป็นผู้เริ่มออกแบบเครื่องกระโดดชนิดต่างจะที่จะใช้ทดสอบนักกีฬาและม้าปกติจะอยู่ที่ประมาณ 10-12 เครื่อง ( รวมทั้งเครื่องต่อเนื่อง ) กำหนดความสูงจะและทิศทางในการเคลื่อนที่ ( เลี้ยวไปเลี้ยวมาระดับความสามารถน้อยมุมเลี้ยวจะกว้างระดับความสามารถสูงมุมเลี้ยวจะแคบทำให้ยากสำหรับการกระโดด )ยุติธรรมและปลอดภัยสำหรับผู้แข่งขันเมื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเปิดโอกาสให้นักกีฬาเข้าไปเดินสำรวจทิศทางการเคลื่อนที่จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุดซึ่งได้ถูกกำหนดระยะทางไว้แล้วและเมื่อพร้อม
ในกีฬาประเภทนี้คะแนนทุกคนที่ได้รับก่อนการแข่งขันคือ 0 คะแนนถ้านักกีฬาสามารถกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางได้ทุกเครื่องโดยไม่ทำไม้ขวางตกภายในเวลาที่กำหนดไว้ ( วัดระยะทางไว้แล้ว ) ก็จะมีคะแนนเป็น 0 คะแนนนั่นคือเพราะปกติไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถผ่านแบบทดสอบได้โดยไม่มีข้อผิดพลาดสมมติว่าเข้าแข่งขัน 10 คนไม่พลาดเลย 3 คนอีก 7 คนที่เหลือพลาดในแต่ละเครื่องแตกต่างกันออกไปก็จะมีคะแนนแตกต่างลดกลั่นกันไปโดยจะมีคะแนนติดลบ- 3- 4 ค็อค - 8 ฉะนั้นการที่ได้คะแนน 0 จึงถือเป็นคะแนนที่ดีที่สุด

ปัจจัยต่อไปที่เกี่ยวข้องในกีฬาประเภทนี้คือปัจจัยเวลาที่กำหนดให้สมมติว่าจากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุดมีระยะทาง 300 เมตรถ้ากำหนดให้ใช้ความเร็ว 300 แอง ./ นาที ( 60 นาที ) นั่นหมายความว่านักกีฬานอกจากจะต้องพยายามไม่ให้มีปัญหาที่เครื่องกระโดดแล้วจากจุดเริ่มต้นจะต้องผ่านจุดสิ้นสุดให้ได้ภายในเวลา 60 วินาทีถ้าเกินกว่านั้นจะโดนตัดคะแนนวินาทีละ 025 คะแนนยกตัวอย่างผู้ขี่ใช้เวลา 64 วินาทีคือเกิน 4 วินาทีเสียเวลาวินาทีละ 0.25 คะแนนรวมเป็นเสียคะแนน

1ในกรณีที่คะแนนดีที่สุดเท่ากันจะมีการตัดสินโดยกระโดดรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งหนึ่งโดยผู้ออกแบบสนามจะกำหนดจำนวนเครื่องกระโดดให้น้อยลงทิศทางการเคลื่อนที่จะยากขึ้นความสูงความกว้างชนะคือในรอบนี้นอกจากจะต้องไม่มีคะแนนเสียแล้วคนที่เวลาเร็วที่สุดคือผู้ชนะนี่เองคือสาเหตุของความตื่นเต้นเร้าใจในกีฬาประเภทนี้คือ

3 อีเว้นติ้งอีเวนติ้ง
เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ตื่นเต้นเร้าใจและมีโอกาสแก้ตัวได้ในวันต่อไปเพราะกีฬาประเภทนี้ต้องทดสอบถึง 3 แบบความทดสอบด้วย

1 ศิลปะการบังคับม้า
2 ข้ามภูมิประเทศ
3 กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: