โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมบัติทางกล ทางกายภาพ ของมวลรวมเบาผสมขยะอิเล็กทรอนิกส์ชนิด High Impact Polystyrene (HIPS) ซึ่งในการทดลอง โดยกำหนดปัจจัยทั้งหมด ได้แก่ ทรายต่อซีเมนต์ (S/C) = 0.2 , 0.3 , 0.4 โดยน้ำหนัก อัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ (W/C) = 0.45 , 0.50 , 0.55 และ HIPS = 10,15,20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมดของตัวอย่างการทดสอบ จากการทดสอบ พบว่าอัตราส่วนของมวลรวมเบาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้คอนกรีตมวลเบาที่มีความหนาแน่นที่ต่ำที่สุดที่ 28 วัน ได้แก่ น้ำต่อซีเมนต์ (W/C) = 0.55 ทรายต่อซีเมนต์ (S/C) = 0.4 และHIPS = 20 เปอร์เซ็นต์มีค่าความหนาแน่นเท่ากับ 1,630 kg/m3 และอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้คอนกรีตมวลเบาที่สามารถรับแรงอัดได้มากที่สุดที่ 28 วันได้แก่ น้ำต่อซีเมนต์ (W/C) = 0.45 ทรายต่อซีเมนต์ (S/C) = 0.2 และHIPS = 10 เปอร์เซ็นต์มีค่ากำลังรับแรงอัดเท่ากับ 28.43 MPa จากการทดลองชิ้นงานทั้งหมดสามารถจัดอยู่ ในประเภทคอนกรีตเบาชนิดทำโครงสร้าง มีค่าหน่วยน้ำหนักเท่ากับ 1,756.67 kg/m และมีกำลังต้านทานแรงอัดเท่ากับ 28.43 MPa และเมื่อเทียบเปอร์เซ็นต์การรับกำลังเพิ่มขึ้นของคอนกรีตมอร์ต้า เลือกจากสัดส่วนที่เหมาะที่สุดพบว่า ในส่วนผสมที่ 1 กำลังอัดที่ 7 วัน = 27.56 MPa จนถึงกำลังอัดที่ 28 วัน = 28.07 MPa เพิ่มขึ้นเพียง 1.85%
ซึ่งถ้านำเอาส่วนผสมที่ไม่มีขยะ HIPS มาเปรียบเทียบกับส่วนผสมที่มีขยะ HIPS ในระยะเวลาการบ่มที่ 28 วัน ส่วนผสมที่มีกำลังอัดสูงที่สุดแบบไม่มีขยะ HIPS คือส่วนผสมที่ 1 = 37.88 MPa และแบบมีขยะ HIPS คือส่วนผสมที่ 1 = 28.43 MPa ซึ่งต่างกันเพียงแค่ 25%
ผลกระทบสูงของมวลรวมเบาผสมขยะอิเล็กทรอนิกส์ชนิดทางกายภาพโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมบัติทางกลโฟม (สะโพก) ซึ่งในการทดลองโดยกำหนดปัจจัยทั้งหมดได้แก่ทรายต่อซีเมนต์ (S/C) = 0.2, 0.3, 0.4 โดยน้ำหนักอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ (W/C) = 0.45, 0.50, 0.55 และสะโพก = 10,15,20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมดของตัวอย่างการทดสอบจากการทดสอบพบว่าอัตราส่วนของมวลรวมเบาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้คอนกรีตมวลเบาที่มีความหนาแน่นที่ต่ำที่สุดที่ 28 วันได้แก่น้ำต่อซีเมนต์ (W/C) = 0.55 ทรายต่อซีเมนต์ (S/C) = 0.4 และHIPS = 20 เปอร์เซ็นต์มีค่าความหนาแน่นเท่ากับ1,630 kg/m3 และอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้คอนกรีตมวลเบาที่สามารถรับแรงอัดได้มากที่สุดที่ 28 วันได้แก่น้ำต่อซีเมนต์ (W/C) = 0.45 ทรายต่อซีเมนต์ (S/C) = 0.2 และHIPS = 10 เปอร์เซ็นต์มีค่ากำลังรับแรงอัดเท่ากับ 28.43 แรงจากการทดลองชิ้นงานทั้งหมดสามารถจัดอยู่ในประเภทคอนกรีตเบาชนิดทำโครงสร้างมีค่าหน่วยน้ำหนักเท่ากับ 1,756.67 kg/m และมีกำลังต้านทานแรงอัดเท่ากับ 28.43 แรงและเมื่อเทียบเปอร์เซ็นต์การรับกำลังเพิ่มขึ้นของคอนกรีตมอร์ต้าเลือกจากสัดส่วนที่เหมาะที่สุดพบว่าในส่วนผสมที่ 1 กำลังอัดที่ 7 วัน = 27.56 วันจนถึงกำลังอัดที่ 28 แรง =แรง 28.07 เพิ่มขึ้นเพียง 1.85%ซึ่งถ้านำเอาส่วนผสมที่ไม่มีขยะสะโพกมาเปรียบเทียบกับส่วนผสมที่มีขยะสะโพกในระยะเวลาการบ่มที่ 28 วันส่วนผสมที่มีกำลังอัดสูงที่สุดแบบไม่มีขยะสะโพกคือส่วนผสมที่ 1 = 37.88 แรงและแบบมีขยะสะโพกคือส่วนผสมที่ 1 = 28.43 แรงซึ่งต่างกันเพียงแค่ 25%
การแปล กรุณารอสักครู่..
ทางกายภาพ สูงผลกระทบ Polystyrene (HIPS) ซึ่งในการทดลองโดยกำหนดปัจจัยทั้งหมด ได้แก่ ทรายต่อซีเมนต์ (S / C) = 0.2, 0.3, 0.4 โดยน้ำหนักอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ (W / C) = 0.45, 0.50, 0.55 และ HIPS = 10 , 15,20 จากการทดสอบ 28 วัน ได้แก่ น้ำต่อซีเมนต์ (W / C) = 0.55 ทรายต่อซีเมนต์ (S / C) = 0.4 และ HIPS = 20 1630 kg / m3 28 วัน ได้แก่ น้ำต่อซีเมนต์ (W / C) = 0.45 ทรายต่อซีเมนต์ (S / C) = 0.2 และ HIPS = 10 28.43 MPa ในประเภทคอนกรีตเบาชนิดทำโครงสร้างมีค่าหน่วยน้ำหนักเท่ากับ 1,756.67 กิโลกรัม / เมตรและมีกำลังต้านทานแรงอัดเท่ากับ 28.43 MPa ในส่วนผสมที่ 1 กำลังอัดที่ 7 วัน = 27.56 MPa จนถึงกำลังอัดที่ 28 วัน = 28.07 MPa เพิ่มขึ้นเพียง 1.85%
ซึ่งถ้านำเอาส่วนผสมที่ไม่มีขยะ HIPS มาเปรียบเทียบกับส่วนผสมที่มีขยะ HIPS ในระยะเวลาการบ่มที่ 28 วัน HIPS คือส่วนผสมที่ 1 = 37.88 MPa และแบบมีขยะ HIPS คือส่วนผสมที่ 1 = 28.43 MPa ซึ่งต่างกันเพียงแค่ 25%
การแปล กรุณารอสักครู่..
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมบัติทางกลทางกายภาพของมวลรวมเบาผสมขยะอิเล็กทรอนิกส์ชนิดผลกระทบสูงพอลิสไตรีน ( สะโพก ) ซึ่งในการทดลองโดยกำหนดปัจจัยทั้งหมดได้แก่ทรายต่อซีเมนต์ ( s / C ) = 0.2 , 0.3 , 04 โดยน้ำหนักอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ ( W / C ) = 0.45 , 0.50 , 0.55 และสะโพก = 10 , 15 ,20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมดของตัวอย่างการทดสอบจากการทดสอบพบว่าอัตราส่วนของมวลรวมเบาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้คอนกรีตมวลเบาที่มีความหนาแน่นที่ต่ำที่สุดที่ 28 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าได้แก่น้ำต่อซีเมนต์ ( W / C ) = 055 ทรายต่อซีเมนต์ ( s / C ) = 0.4 และสะโพก = 20 เปอร์เซ็นต์มีค่าความหนาแน่นเท่ากับ 1630 kg / m3 และอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้คอนกรีตมวลเบาที่สามารถรับแรงอัดได้มากที่สุดที่ 28 วันได้แก่น้ำต่อซีเมนต์ ( W / C ) = 045 ทรายต่อซีเมนต์ ( s / C ) = 0.2 และสะโพก = 10 เปอร์เซ็นต์มีค่ากำลังรับแรงอัดเท่ากับ 28.43 MPa จากการทดลองชิ้นงานทั้งหมดสามารถจัดอยู่ในประเภทคอนกรีตเบาชนิดทำโครงสร้างมีค่าหน่วยน้ำหนักเท่ากับ 1756 .67 kg / m และมีกำลังต้านทานแรงอัดเท่ากับ 28.43 MPa และเมื่อเทียบเปอร์เซ็นต์การรับกำลังเพิ่มขึ้นของคอนกรีตมอร์ต้าเลือกจากสัดส่วนที่เหมาะที่สุดพบว่าในส่วนผสมที่ 1 กำลังอัดที่ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า 7 = 27.56 MPA ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าจนถึงกำลังอัดที่ 28 = 2807 MPa เพิ่มขึ้นเพียง 1.85 %
ซึ่งถ้านำเอาส่วนผสมที่ไม่มีขยะสะโพกมาเปรียบเทียบกับส่วนผสมที่มีขยะสะโพกในระยะเวลาการบ่มที่ 28 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าส่วนผสมที่มีกำลังอัดสูงที่สุดแบบไม่มีขยะสะโพกคือส่วนผสมที่ 1 = 3788 เมกและแบบมีขยะสะโพกคือส่วนผสมที่ 1 = 28.43 MPA 25 %
ซึ่งต่างกันเพียงแค่
การแปล กรุณารอสักครู่..