essentially a "liberal", The outcom

essentially a "liberal", The outcome of the political party issue marked a growing assert- iveness on the part of the throne, an assertiveness which was to become even more apparent in relation to the question of economic policy. In an attempt to come to terms with the continuing effects of the Depression, Pridi drafted a comprehensive economic plan which was discussed in both the National Assembly aRd the State Council dur ng March 1933. The plan, a curious mixture of socialism and Buddhist Utopianism, called for the nationalization of the entire Siamese economy. This proposal was particularly worrying to the more "conservative elements within the government, not to mention the king, who, after reading the plan, was rumoured to have said, "that if L. Pradit Luang Pradit Manutham, Pridi's official name] was not copying Stalin, then Stalin must be copying L.Pradit." As a counter-measure, an alternative pro-free market economic plan was put forward by Phraya Manopakon which Pridi described as "programme of opportunism. At this point, the long-standing divisions in the Peoples Party developed into an open split between Pridi's followers and those opposed to his views. While the latter group including Phraya Manopakon and Phraya Colonel Song Suradet, a key military figure in the overthrow of the monarchy formed a majority in the State Council, Pridi's supporters were dominant in the National Assembly. Apparently, Pridi's group in the Assembly plammed to pass a no-confidence motion against the State Council and press for the adoption of his economic plan which included an estate duty tax that would have had a great effect on the royal class. However before this could take place, Phraya Manopakon, with the king's approval, prorogued the National Assembly suspended the constitution, and promulgated a formal Anti-Communist Act. At the same time, Pridi, who had all along denied that he was a and had expressed a willingness to modify his plan for the sake of political unity, was removed from the State Council together with four of his associates.
Without an immediate future in politics, Pridi was hastily sent into exile in Europe, a move that was disapproved of by his friend Phraya Phahon, the head of the army, and a number of other military officers

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักการ "เสรี" ผลลัพธ์ของปัญหาพรรคการเมืองเติบโตยืนยันรูป-iveness ในส่วนของราชบัลลังก์ ยืนกรานที่ชัดเจนยิ่งเกี่ยวกับคำถามของนโยบายเศรษฐกิจเป็น ที่เครื่อง ในความพยายามที่จะรอมชอมกับผลกระทบต่อเนื่องของภาวะซึมเศร้า ปรีดีร่างแผนเศรษฐกิจครอบคลุมซึ่งกล่าวในสวาปามทั้งสมัชชาแห่งชาติรัฐสภา dur ng 1933 มีนาคม เรียกแผน ส่วนผสมอยากรู้อยากเห็นของสังคมนิยมและพุทธ Utopianism มีชาติเศรษฐกิจสยามทั้งหมด ข้อเสนอนี้มีกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มเติม "หัวเก่าองค์ประกอบภายในรัฐบาล ไม่พูดถึงคิง ที่ หลังจากการอ่านแผน ได้ฉาวไปได้จะได้ว่า, " ว่าถ้าประดิษฐ์ L. หลวงประดิษฐ์มนูธรรมแขวง ชื่ออย่างเป็นทางการของปรีดี] ถูกคัดสตาลิน แล้วสตาลินต้องคัด L.Pradit " เป็นวัดที่เคาน์เตอร์ สำรอง pro ฟรีตลาดแผนเศรษฐกิจที่นำ โดยพระยา Manopakon ปรีดีซึ่งอธิบายว่า "โครงการของ opportunism จุดนี้ ส่วนยาวนานในบุคคลคนที่พัฒนาเป็นการแยกเปิดระหว่างลูกศิษย์ของปรีดีและที่ตรงข้ามกับมุมมองของเขา ในขณะที่กลุ่มหลัง Manopakon เจ้าพระยาและพระยาพันเพลงสุ ตัวเลขทหารที่สำคัญในการล้มล้างพระมหากษัตริย์เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในสภารัฐ ผู้สนับสนุนปรีดีถูกหลักในสมัชชาแห่งชาติ เห็นได้ชัด ปรีดีกลุ่มใน plammed แอสเซมบลีผ่านภาพเคลื่อนไหวไม่มีความมั่นใจกับรัฐสภาและทวงของแผนเศรษฐกิจซึ่งรวมการอสังหาริมทรัพย์ภาษีที่จะมีผลดีในชั้น แต่ก่อนนี้อาจเกิดขึ้น พระยา Manopakon ด้วยพระอนุมัติ prorogued สมัชชาแห่งชาติระงับรัฐธรรมนูญ และ promulgated กระทำการต่อต้านคอมมิวนิสต์อย่างเป็นทางการ ในเวลาเดียวกัน ปรีดี ที่มีก็ปฏิเสธว่า เขาไม่มี และได้แสดงความตั้งใจในการปรับเปลี่ยนแผนเพื่อความสามัคคีทางการเมือง ถูกลบออกจากคณะกรรมการรัฐร่วมกับ 4 สมาคมของเขา ไม่มีอนาคตทันทีในเมือง ปรีดีรีบส่งสู่การเนรเทศในยุโรป ย้ายที่ที่ไม่เห็นด้วย โดยเพื่อนของเขาพระยาพหลฯ หัวหน้าของกองทัพบก และจำนวนเจ้าหน้าที่ทางทหารอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลัก "เสรีนิยม" ผลของปัญหาทางการเมืองของบุคคลที่ทำเครื่องหมาย iveness assert- ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของบัลลังก์อหังการซึ่งจะกลายเป็นที่ชัดเจนมากขึ้นในความสัมพันธ์กับคำถามของนโยบายทางเศรษฐกิจที่ ในความพยายามที่จะมาถึงข้อตกลงกับผลกระทบอย่างต่อเนื่องของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ปรีดีร่างแผนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมซึ่งได้รับการกล่าวถึงทั้งในสมัชชาแห่งชาติรพช. สภาแห่งรัฐเธงะมีนาคม 1933 แผนผสมอยากรู้อยากเห็นของสังคมนิยมและพุทธ utopianism, เรียกร้องให้รัฐบาลของเศรษฐกิจไทยทั้ง ข้อเสนอนี้ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องกังวลที่จะมากขึ้น "องค์ประกอบอนุรักษ์นิยมในรัฐบาลไม่ต้องพูดถึงกษัตริย์ที่หลังจากอ่านแผนมีข่าวลือว่าจะมีการกล่าวว่า" ว่าถ้าลิตรประดิษฐ์หลวงประดิษฐมนูธรรม, ชื่ออย่างเป็นทางการปรีดีของ] ไม่ได้ คัดลอกสตาลินสตาลินแล้วจะต้องมีการคัดลอก L.Pradit. "ในฐานะที่เป็นเคาน์เตอร์วัดตลาดโปรฟรีทางเลือกแผนเศรษฐกิจถูกนำมาโดยพระยา Manopakon ซึ่งปรีดีอธิบายว่า" โปรแกรมของการฉวยโอกาส ณ จุดนี้หน่วยงานยาวนานในพรรคประชาชนพัฒนาเป็นเปิดแยกระหว่างติดตามปรีดีและผู้ที่ตรงข้ามกับความเห็นของเขา ในขณะที่กลุ่มหลังรวมทั้งพระยา Manopakon และพันเอกพระยาสุรเดชเพลงร่างทหารที่สำคัญในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในสภาแห่งรัฐที่สนับสนุนปรีดีของคนที่โดดเด่นในสมัชชาแห่งชาติ เห็นได้ชัดว่ากลุ่มปรีดีในสภา plammed ที่จะผ่านการเคลื่อนไหวไม่มั่นใจกับสภาแห่งรัฐและกดสำหรับการนำไปใช้ของแผนการทางเศรษฐกิจของเขาซึ่งรวมถึงภาษีอากรขาอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีผลอย่างมากต่อชั้นราช อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้อาจจะใช้สถานพระยา Manopakon ด้วยความเห็นชอบของกษัตริย์ prorogued สมัชชาแห่งชาติที่ถูกระงับรัฐธรรมนูญและประกาศใช้อย่างเป็นทางการพระราชบัญญัติต่อต้านคอมมิวนิสต์ ในเวลาเดียวกัน, ปรีดีที่ได้ปฏิเสธพร้อมทุกสิ่งที่เขาเป็นและได้แสดงความตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนแผนของเขาเพื่อประโยชน์ของความสามัคคีทางการเมืองที่ถูกลบออกจากสภารัฐร่วมกับสี่ร่วมงานของเขา.
โดยไม่มีอนาคตในทันที การเมืองปรีดีถูกส่งออกไปอย่างเร่งรีบในยุโรปย้ายที่ได้รับการอนุมัติโดยเพื่อนของเขาพระยาพหลหัวของกองทัพและจำนวนของทหารอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็น " เสรีนิยม " ผลของพรรคการเมืองออกเครื่องหมายการยืนยัน - iveness ในส่วนของพระที่นั่ง มีการกล้าแสดงออกซึ่งจะกลายเป็นที่ชัดเจนมากขึ้นในความสัมพันธ์กับคำถามของนโยบายเศรษฐกิจ ในการพยายามที่จะรอมชอมกับต่อผลกระทบของภาวะซึมเศร้าปรีดีร่างแผนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมซึ่งถูกกล่าวถึงทั้งในสมัชชาแห่งชาติรพช. สภาแห่งรัฐช่วงของเดือนมีนาคม 1933 . แผน , ส่วนผสมอยากรู้อยากเห็นของสังคมนิยมและพุทธ utopianism เรียกว่าเพื่อชาติของเศรษฐกิจสยามทั้งหมด ข้อเสนอนี้ถูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกังวลไปมากกว่า " อนุลักษณ์ องค์ประกอบภายในของรัฐบาล ไม่ต้องพูดถึงกษัตริย์ที่หลังจากอ่านแผน มีการกล่าวว่า " ถ้าผมประดิษฐ์ หลวงประดิษฐ์มนูธรรมร้อง , ชื่ออย่างเป็นทางการ ] ไม่ได้คัดลอกสตาลิน สตาลินก็ต้องลอก l.pradit " เป็นเคาน์เตอร์วัดทางเลือกฟรีตลาดเศรษฐกิจแผนถูกวางข้างหน้าโดยพระยา manopakon ซึ่งปรีดีอธิบายว่า " โครงการของการฉวยโอกาส . ณจุดนี้หน่วยงานที่ยาวนานในพรรคประชาชนพัฒนาเป็นแยกออกระหว่างนายปรีดีเป็นผู้ติดตามและผู้ไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเขา ในขณะที่กลุ่มหลัง รวมทั้ง manopakon และพันเอกพระยาพระยาเพลง suradet , รูปทหาร คีย์ในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในสภาขุนนาง ปรีดี เป็นผู้สนับสนุนได้เด่นในสมัชชาแห่งชาติ เห็นได้ชัดว่านายปรีดี กรุ๊ป ในการชุมนุม plammed ผ่านความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐสภาและกดเพื่อการยอมรับของเขาเศรษฐกิจซึ่งรวมภาษีภาษีมรดกนั้นจะมีผลอย่างมากในระดับพระราช อย่างไรก็ตามก่อนที่จะใช้สถานที่ , พระยา manopakon กับการอนุมัติของกษัตริย์ prorogued สภานิติบัญญัติแห่งชาติระงับรัฐธรรมนูญประกาศใช้อย่างเป็นทางการ และพระราชบัญญัติต่อต้านคอมมิวนิสต์ ใน เวลา เดียวกัน ปรีดี ที่ทั้งหมดพร้อมจะปฏิเสธว่าเขาเป็น และได้แสดงความตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนแผนของเขาเพื่อความเป็นเอกภาพทางการเมือง ถูกลบออกจากสภาแห่งรัฐร่วมกับสี่ของพรรคพวก
ไม่มีอนาคตทันทีในการเมือง นายปรีดี ได้รีบส่งเข้าออกในยุโรปย้ายที่ไม่อนุมัติ โดยเพื่อนของเขา พระยาพหล หัวหน้ากองทัพ และจำนวนของทหารอื่น ๆ