The story goes that during the Burm

The story goes that during the Burmese-Siamese War of 1765-1767, which ended in the sacking of Ayutthaya by the Burmese army, thus bringing down a Kingdom of Siam that had existed for slightly more than 400 years, a small village northwest of the Siamese capital of Ayutthaya managed to withhold the advancing Burmese army for up to five months through sheer determination, patriotism, and heroism. The idyllic images of the Siamese villagers fighting and dying for their land, which were brilliantly portrayed in Bang Rajan movies (1966 and 2000), have by now been so much ingrained in popular Thai culture that ordinary Thai people and uninformed foreigners take the story for granted and attribute it to actual, sound, historical facts.
While the purpose of this article is not to debate the role of fact and fiction in Thai historical cinematography, viewers and readers should be critical about what they see on the screen and what they read in condensed history books (both in Thai and English). As a matter of fact, historical revisionism was a point of concern that was raised many decades ago, when Damrong Rachanubhab, who is considered the father of Thai history, had brought up the issue of debating the historical accuracy of the Bang Rachan story details, as they are accepted today in popular culture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรื่องที่ไปในช่วงสงครามพม่าสยามของ 1765-1767 ซึ่งสิ้นสุดในเกือบของอยุธยาโดยกองทัพพม่า จึง นำลงเป็นอาณาจักรสยามที่มีอยู่มากกว่า 400 ปี ตะวันตกเฉียงเหนือของทุนสยามของอยุธยาจัดการขมิบ advancing กองทัพพม่าได้ถึงห้าเดือนผ่านวัดโปร่งหมู่ ที่ ความรักชาติ และหน้าตา ภาพงดงามชาวบ้านต่อสู้ และตายที่ดินของพวกเขา ซึ่งเก่ง ในบางระจันภาพยนตร์ (1966 และ 2000), โดยขณะนี้มีมากที่ฝังแน่นในวัฒนธรรมไทยที่ยอดนิยมที่คนไทยธรรมดา และชาวต่างชาติที่ไม่รู้ได้ทำเรื่องราว และแอตทริบิวต์ให้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง เสียง ประวัติศาสตร์ไทยในขณะที่วัตถุประสงค์ของบทความไม่ให้ อภิปรายบทบาทของความเป็นจริงและนิยายในเล่าประวัติศาสตร์ไทย ผู้ชมและผู้อ่านควรจะสำคัญเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นบนหน้าจอและสิ่งที่พวกเขาอ่านในหนังสือประวัติศาสตร์ย่อ (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) ว่าแท้ที่จริง revisionism ประวัติศาสตร์เป็นจุดของความกังวลที่ถูกยกขึ้นหลายทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อ Rachanubhab รงค์ ใครเป็นบิดาของประวัติศาสตร์ไทย ได้นำปัญหาของโต้วาทีความแม่นยำทางประวัติศาสตร์ของรายละเอียดเรื่องราวของราชันย์บาง พวกเขายอมรับวันนี้ในวัฒนธรรมสมัยนิยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีเรื่องเล่ากันว่าในช่วงสงครามพม่าสยาม 1765-1767 ซึ่งจบลงด้วยการปล้นสะดมของอยุธยาโดยกองทัพพม่าจึงนำลงอาณาจักรสยามที่มีอยู่สำหรับเล็กน้อยกว่า 400 ปีเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ เมืองหลวงของสยามอยุธยาที่มีการจัดการที่จะระงับกองทัพพม่าก้าวหน้าถึงห้าเดือนที่ผ่านความมุ่งมั่นเต็มที่ความรักชาติและความกล้าหาญ ภาพที่งดงามของชาวบ้านสยามต่อสู้และตายเพื่อแผ่นดินของพวกเขาซึ่งเป็นภาพเก่งในหนังบาง Rajan (1966 และ 2000) ได้โดยขณะนี้ได้รับการฝังแน่นมากในวัฒนธรรมไทยยอดนิยมที่คนไทยธรรมดาและชาวต่างชาติไม่รู้จะใช้เรื่องนี้เป็น และได้รับการระบุว่าเกิดขึ้นจริงเสียงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์.
ในขณะที่วัตถุประสงค์ของบทความนี้ไม่ได้ที่จะอภิปรายบทบาทของความเป็นจริงและนิยายในไทยประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ผู้ชมและผู้อ่านควรมีความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็นบนหน้าจอและสิ่งที่พวกเขาอ่าน ในหนังสือประวัติศาสตร์แบบย่อ (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) เป็นเรื่องของความเป็นจริงประวัติศาสตร์ใหม่คือจุดของความกังวลที่ถูกเลี้ยงดูมานานหลายสิบปีที่ผ่านมาเมื่อดำรง Rachanubhab ที่ถือว่าเป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทยได้นำขึ้นปัญหาของการโต้วาทีถูกต้องทางประวัติศาสตร์ของค่ายบางระจันรายละเอียดเรื่องที่ ขณะที่พวกเขาได้รับการยอมรับในวันนี้ความนิยมในวัฒนธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรื่องมีอยู่ว่าในระหว่างสงครามของพม่า สยาม 1765-1767 ซึ่งสิ้นสุดในการไล่ออก พระนครศรีอยุธยา โดยกองทัพพม่า จึงนำลงเป็นราชอาณาจักรสยามที่มีอยู่สำหรับเล็กน้อยกว่า 400 ปี เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองสยามอยุธยาจัดการระงับ advancing กองทัพพม่านานถึง 5 เดือน ผ่าน ความมุ่งมั่น อิด ความรักชาติ และความกล้าหาญ ภาพที่งดงามของชาวสยามชาวบ้านสู้และตายเพื่อแผ่นดิน ซึ่งเก่ง portrayed ในบางระจันภาพยนตร์ ( 1966 และ 2000 ) มีตอนนี้ถูกมากที่ฝังแน่นในวัฒนธรรมยอดนิยมที่คนไทยและคนต่างชาติธรรมดารู้ใช้เรื่องสิทธิ์และคุณลักษณะมันจริง เสียง ประวัติศาสตร์ ข้อเท็จจริงในขณะที่วัตถุประสงค์ของบทความนี้ไม่ได้ที่จะอภิปรายบทบาทของความจริงและนิยายในประวัติศาสตร์ไทยว่า ผู้ชมและผู้อ่านควรมีวิจารณญาณเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็นบนหน้าจอและสิ่งที่พวกเขาอ่านในหนังสือประวัติอย่างย่อ ( ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ) เป็นเรื่องของความเป็นจริง , ลัทธิการสังคายนาประวัติศาสตร์เป็นจุดของความกังวลที่ถูกเลี้ยงมาหลายสิบปีมาแล้ว เมื่อดำรง rachanubhab ซึ่งถือเป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ของไทย ได้นำประเด็นของการโต้วาทีความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ของบางระจันเรื่องรายละเอียดเช่นที่พวกเขาได้รับการยอมรับในวันนี้เป็นที่นิยมในวัฒนธรรม