AbstractThe primary purpose of the

Abstract
The primary purpose of the research is to describe and explain the attitude of secondary agriculture school students toward agriculture, and to determine students' perceived usefulness of agriculture as compared with other subjects. A descriptive correlational research was employed. Results revealed that secondary agriculture students hold a slightly positive attitude toward agriculture, and that eleventh and twelfth grade students held a statistically significant higher positive attitude than tenth grade students, when compared, using the Tukey method Agriculture as a subject is more useful in the home situation (mainly rural) than for further education. Results of stepwise regression analysis revealed that out of seven independent variables, only three are significant predictors of attitude at alpha .05. The best predictor variables are school location (urban vs rural), performance level, and growing of crops by family.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์หลักของการวิจัยคือการอธิบายและอธิบายทัศนคติของนักเรียนโรงเรียนมัธยมการเกษตรที่มีต่อการเกษตรและการตรวจสอบของนักเรียนที่รับรู้ประโยชน์ของการเกษตรเทียบกับวิชาอื่น ๆ
การวิจัยเชิงพรรณนาถูกจ้างมา ผลการศึกษาพบว่านักเรียนการเกษตรรองถือทัศนคติเชิงบวกเล็กน้อยต่อการเกษตรและว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สิบเอ็ดและสิบสองจัดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทัศนคติเชิงบวกสูงกว่านักเรียนเกรดสิบเมื่อเปรียบเทียบโดยใช้วิธีการ Tukey เกษตรเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์มากขึ้นในบ้าน สถานการณ์ (ส่วนใหญ่ในชนบท) กว่าสำหรับการศึกษาต่อไป ผลการวิเคราะห์การถดถอยแบบขั้นตอนเปิดเผยว่าจากเจ็ดตัวแปรอิสระเพียงสามเป็นตัวทำนายที่สำคัญของทัศนคติที่ 05 อัลฟา ตัวแปรทำนายที่ดีที่สุดคือสถานที่ตั้งของโรงเรียน (เทียบกับเมืองในชนบท) ระดับประสิทธิภาพการทำงานและการเจริญเติบโตของพืชจากคนในครอบครัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
วัตถุประสงค์หลักของการวิจัยครั้งนี้ เพื่อบรรยายและอธิบายทัศนคติของนักศึกษาต่อโรงเรียนมัธยมการเกษตรการเกษตรและเพื่อศึกษาการรับรู้ประโยชน์ของนักศึกษาเกษตรเมื่อเทียบกับวิชาอื่น ๆ การวิจัยเชิงสหสัมพันธ์แบบใช้ นักศึกษาเกษตรระดับถือบวกเล็กน้อย ทัศนคติต่อการเกษตรและที่ 11 และ 12 ปีที่จัดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าเจตคติทางบวกมากกว่านักเรียนเกรดสิบ เมื่อเปรียบเทียบโดยใช้วิธีเกษตรเป็นรายเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ในสถานการณ์ที่บ้าน ( ส่วนใหญ่เป็นชนบท ) มากกว่าเพื่อการศึกษาต่อไป ผลของการวิเคราะห์การถดถอยแบบขั้นตอน พบว่า ใน 7 ตัวแปรอิสระเพียงสามตัวแปรสําคัญของทัศนคติที่อัลฟ่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ . 05 ตัวแปรทำนายที่ดีที่สุดคือที่ตั้งของโรงเรียน ( เมืองและชนบท ) ผลการปฏิบัติงานและการเติบโตของพืชจากครอบครัว .