Schools are always trying to improv

Schools are always trying to improve student performance, but are education systems actually stopping students from learning? Recent studies show that even hard-working students struggle to cope with school timetables because they are sleep-deprived.

Many educators blame this on the typical ‘teen’ lifestyle – staying up too late, watching TV, using social networking sites and smartphones. However, science shows that this is not the reason. Studies show that teenagers need approximately 8½ to 9¼ hours of sleep per night for healthy brain function and development. However, most are getting only seven hours on average.

Although they spend most of their day in school, their ability to concentrate on classwork, make decisions, solve problems, retain (remember) information, and cope with exam stress is decreased. People may argue that to solve the problem, young people should go to bed earlier, but experts disagree. They say that there is a biological reason why teenagers go to bed late. As they grow and develop, they experience Sleep Phase Delay: they naturally fall asleep later and wake up later.

A normal time for a teenager to fall asleep is 11 p.m. or later, so they should wake up after 8 a.m. However, with school start times between 7 and 8.30 a.m., it’s not surprising that students are exhausted during the school day. Unfortunately, even though evidence for starting classes later is strong, many education authorities refuse to change their schedules.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรงเรียนจะพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของนักเรียน แต่มีระบบการศึกษาที่จริงหยุดเรียนจากการเรียนรู้ การศึกษาล่าสุดแสดงว่า นักเรียนได้ทำงานหนักต่อสู้เพื่อรับมือกับตารางเวลาสายการเรียนเพราะเป็นการนอนหลับที่ปราศจากการ

นักการศึกษาจำนวนมากโทษนี้ในชีวิต 'วัยรุ่น' ทั่วไป – พักค่า TV สายเกินไป การดู การใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมและสมาร์ทโฟน อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์แสดงว่า นี่ไม่ใช่เหตุผล การศึกษาแสดงว่า วัยรุ่นต้องประมาณ 8½-9¼ ชั่วโมงหลับต่อคืนสำหรับฟังก์ชันสุขภาพสมองและพัฒนา อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะได้รับเพียง 7 ชั่วโมงบนเฉลี่ย

ถึงแม้ว่าพวกเขาใช้เวลาทั้งวันในโรงเรียน ความสามารถในการเน้น classwork ตัดสินใจ แก้ปัญหา เก็บ (จำ) ข้อมูล และรับมือกับความเครียดสอบจะลดลง คนอาจโต้เถียงว่า การแก้ปัญหา คนหนุ่มสาวควรไปนอนก่อนหน้านี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นด้วย พวกเขากล่าวว่า มีเหตุผลทางชีวภาพทำไมวัยรุ่นไปนอนดึก พวกเขาเติบโต และพัฒนา พวกเขามีประสบการณ์นอนระยะเลื่อน: จะหลับต่อธรรมชาติ และปลุกในภายหลัง

11 น.เป็นเวลาปกติสำหรับวัยรุ่นหลับลง หรือภาย หลัง ดังนั้น พวกเขาควรตื่นหลัง 8.00 น. อย่างไรก็ตาม เวลาเริ่มเรียนระหว่าง 7 และ 08.30 มันไม่ได้น่าแปลกใจที่นักเรียนจะเหนื่อยช่วงกลางวันของโรงเรียน อับ แม้ว่าหลักฐานสำหรับการเริ่มต้นเรียนในภายหลังมีความแข็งแรง หน่วยงานศึกษาจำนวนมากปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงตารางเวลาของตน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรงเรียนอยู่เสมอพยายามที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของนักเรียน แต่ระบบการศึกษาจริงๆ แล้วหยุดอยู่ที่นักเรียน จากการเรียนรู้ การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่านักเรียนที่เรียนหนัก แม้ดิ้นรนเพื่อรับมือกับตารางเวลาโรงเรียนเพราะพวกเขาจะไม่ได้นอนเลย

นักการศึกษาหลายโทษทั่วไป ' วัยรุ่น ' วิถีชีวิต–อยู่ดึก ดูทีวี โดยใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมและมาร์ทโฟนอย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่เหตุผล การศึกษาแสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นต้องประมาณ 8 ½ถึง 9 ¼ชั่วโมงการนอนหลับต่อคืนสำหรับสมองสุขภาพและการพัฒนา อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะได้รับเพียงเจ็ดชั่วโมงเฉลี่ย

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันของพวกเขาในโรงเรียน ความสามารถในการมีสมาธิในแฮสติ้ง ตัดสินใจ แก้ปัญหา รักษา ( จำ ) ข้อมูลและรับมือกับความเครียดในการสอบลดลง บางคนอาจจะเถียงว่า เพื่อแก้ปัญหา คนหนุ่มสาวควรเข้านอนเร็ว แต่ผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นด้วย พวกเขาบอกว่ามีแท้ๆ ทำไมวัยรุ่นนอนดึก ที่พวกเขาเติบโตและพัฒนา พวกเขาพบความล่าช้าระยะการนอนหลับ : พวกเขาเป็นธรรมชาติหลับทีหลังและตื่นขึ้นมาในภายหลัง

เวลาปกติสำหรับวัยรุ่นหลับห้าทุ่มหรือในภายหลังดังนั้นพวกเขาควรหลังจากตื่น 8 โมงเช้า แต่ด้วยความที่เริ่มเรียนเวลา 8.30 น. ระหว่าง 7 และมันไม่น่าแปลกใจว่านักเรียนจะหมดในระหว่างวันโรงเรียน แต่น่าเสียดายที่แม้ว่าหลักฐานสำหรับเริ่มเรียนหลังแข็งแรง หน่วยงานการศึกษา หลายคนปฏิเสธที่จะเปลี่ยนตารางเวลาของพวกเขา